“Life is Short. Have an Affair.”

สารภาพเลยครับ คืนก่อนเขียนคอลัมน์นี้ ผมเปิด Netflix ลองหาเรื่องน่าสนใจดู คราวก่อนผมดู Stand-Up Special ของ Dave Chappelle ล่าสุด (The Dreamer) ผมถือว่าสนุกดี แต่ไม่สนุกเท่าที่เคยดู ถ้าถามว่ามีอารมณ์อยากดูหนังก็ไม่เชิง อยากดูซีรีส์ก็ไม่ใช่ จะดูเรียลลิตีโชว์ยิ่งไม่ใช่เข้าไปใหญ่

อันนี้คือจุดเสีย Netflix คือมันสะดวกในการเลือกหนังสารพัดเรื่อง ไม่เหมือนสมัยก่อนที่จะต้องเลือกเรื่องที่อยากดูโดยเฉพาะ และดูได้แต่เรื่องนั้นๆ ในยุคนี้มันสะดวก มันสบายที่เลือกดูอะไรก็ได้ แต่เพราะมันสะดวกสบายและมีให้เลือกเยอะ บางครั้งเลือกหนังนานกว่าความยาวของตัวหนังด้วยซ้ำ

เมื่อคืนระหว่าง scroll ไป scroll มา เจอ Documentary/Docu-series ชื่อ “Ashley Madison: Sex, Lies and Scandal”

ผมไม่ได้ยินชื่อ Ashley Madison นานมาก จำได้ว่าช่วงเกือบ 10 ปีที่แล้วเป็นข่าวใหญ่ เรื่องปล่อยหรือเปิดเผยข้อมูลสมาชิก Ashley Madison ออกสู่สาธารณะ ทำให้สมาชิก Ashley Madison อยู่กับที่ไม่สงบ เพราะกลัวคนจะรู้ว่าเขาเป็นสมาชิก และกลัวคนที่บ้านจะรู้ว่าเป็นสมาชิกมากกว่า

สำหรับใครที่จำไม่ได้ (หรือทำเป็นจำไม่ได้) ว่า Ashley Madison คืออะไร  Ashley Madison เป็นเว็บหาคู่ เหมือนปกติทั่วไปที่เห็น แต่ Ashley Madison เจาะจงผู้ที่มีคู่และครอบครัวอยู่แล้ว หากิ๊กหรือหาชู้ กิ๊กหรือชู้จะโสด หรือเป็นคนมีคู่กับครอบครัวอยู่แล้วก็ได้หมด แล้วแต่สมาชิกเลือก จะเป็นความรักจริง รักชั่วคราว หลายๆ ครั้ง หรือหลายๆ คน ได้หมด Ashley Madison จัดให้ครับ

Ashley Madison ก่อตั้งในปี 2001 จาก Noel Biderman เป็นทนายความ เป็นเอเยนต์นักกีฬาชื่อดังในแคนาดา ชื่อ Ashley Madison มาจาก 2 ชื่อเด็กผู้หญิงยอดฮิต ในปี 2001 คือชื่อ Ashley กับชื่อ Madison ในเว็บไซต์ของ Ashley Madison มีจุดขายชัดเจน “Life is short. Have an affair.” แน่นอนครับ คนต่อต้านเรียงแถวประณาม Ashey Madison กับ Biderman บอกว่าเป็นธุรกิจยั่วยุให้สถาบันครอบครัวแตกแยก ยั่วยุให้มีชู้ ทำลายครอบครัวเพื่อโกยกำไรให้ตัวเอง พูดง่ายๆ ครับ หากินบน ความทุกข์คนอื่น

แต่ Biderman เถียงกลับ บอกว่า Ashley Madison รักษาสถาบันครอบครัวมากกว่าทำลาย เขาบอกว่า ยังไงคนเจ้าชู้ คนหากิ๊ก และนอกใจคู่สมรสอยู่แล้ว จะนอกใจอยู่ดี ไม่ว่าจะใกล้ตัวหรือไกลตัวก็ตาม แต่ถ้าผ่าน Ashley Madison อย่างน้อยเป็น “ระบบ” และปลอดภัยกว่า เพราะไม่ต้องอีแอบที่ไหน และหลบซ่อนเท่าไหร่นัก

คนต่อต้าน Ashley Madison ฟังเหตุผล Biderman ไม่ขึ้น แต่ทำอะไรไม่ได้ครับ เพราะสมาชิกเว็บไซต์นี้โตขึ้นทุกๆ ปี จนปี 2015 มีสมาชิกเกือบ 40 ล้านคน และมีรายได้ต่อปีถึง 150 ล้านเหรียญฯ ซึ่งทำให้มีการวางแผนให้เข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีกไม่ช้านาน ยิ่งมีคนออกมาด่า ประณาม และต่อว่า Ashley Madison ยิ่งทำให้เขาโตและประสบความสำเร็จ เพราะพื้นฐานการตลาดคือ จะด่าหรือจะชม อะไรหรือใคร ขอให้พูดถึงก็เพียงพอแล้ว

อนาคต Ashley Madison ดูสดใส เห็นกำไรที่กำลังจะมา เห็นการเจริญเติบโต และเห็นตลาดที่ขยายขึ้นทุกวันๆ ไม่ใช่เฉพาะในสหรัฐ แต่ทั่วโลก แต่วันที่ 15 กรกฎาคม ปี 2015 โลกของ Ashley Madison เริ่มหยุดหมุน

เช้าวันดังกล่าวมีกลุ่มแฮ็กเกอร์ชื่อว่า The Impact Team แฮ็กเข้าไปในระบบทำให้ Ashley Madison หยุดชะงัก และให้บริการอะไรไม่ได้ กลุ่ม The Impact Team ข่มขู่ว่าให้ Ashley Madison หยุดกิจการทุกอย่าง ปิดเว็บไซต์ และเลิกให้บริการต่อไป ถ้าไม่หยุดจะเปิดเผยข้อมูลลับของสมาชิกกว่า 37 ล้านคนที่แฮ็กข้อมูลมา คำว่า “ข้อมูล” ของสมาชิก ไม่ใช่เฉพาะชื่อและที่อยู่เท่านั้นนะครับ แต่เป็นประวัติการค้นหาชู้หรือกิ๊ก เปิดเผยการสนทนาระหว่างชู้ และเปิดเผย “ความต้องการ” หากิ๊กและชู้

The Impact Team ไม่ได้บอกว่าการกระทำของ Ashley Madison (และเว็บไซต์อื่นๆ ในเครือ Avid Life Media) มันผิดศีลหรือบาป แต่เขาบอกว่า Ashley Madison หลอกลวงสมาชิก เพราะสมาชิกที่อยากยกเลิกการเป็นสมาชิก และอยากให้ทาง Ashley Madison ลบทิ้งข้อมูลส่วนตัวออกไปให้หมดนั้น จะต้องจ่ายค่าบริการลบล้างข้อมูล (ครั้งเดียว) 19 เหรียญฯ ครับ (บริการนี้นำกำไรให้บริษัทถึงเกือบ 2 ล้านเหรียญฯ ในปี 2014) แต่ปรากฏว่าสมาชิกจ่ายเงินจริง เงินเข้า Ashley Madison จริง แต่ไม่มีการลบข้อมูลของใครทั้งสิ้น โกยอย่างเดียวครับ

ทาง The Impact Team ประกาศชัดเจนว่า ถ้าภายใน 30 วัน Ashley Madison (และเว็บไซต์ในเครือ Avid Life Media) ไม่หยุดและไม่เลิก พวกเขาจะเปิดเผยทุกอย่าง Ashley Madison จะเสียกำไร เสียลูกค้า เสียความน่าเชื่อถือ แต่ลูกค้าเองจะเสียชื่อ และอาจเสียครอบครัว

ทางผู้บริหาร Ashley Madison เลือกไม่ถอย เลือกสู้กับกลุ่มแฮ็กเกอร์ ด้วยการจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ระดับโลกให้สืบและค้นดูว่า The Impact Team คือใคร แต่ไม่เลือกแจ้งความกับตำรวจ และเลือกไม่ทำตามคำขู่ เพราะเขาเห็นกำไรและเงินมหาศาลอยู่แค่เอื้อมมือ เพราะเอาเข้าจริง The Impact Team ไม่ได้เรียกร้องอะไร ไม่ได้ไถเงิน ไม่ได้ข่มขู่ชีวิต ไม่ได้เรียกร้องให้แลกเปลี่ยนอะไร เเค่บอกให้ยุติกิจการทั้งหมด เพราะ Ashley Madison ไม่ตรงไปตรงมากับสมาชิก

ทางผู้บริหารเลยเลือกเสี่ยง และไว้วางใจทีมผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ แต่พอวันเวลาผ่านไป และ 30 วันใกล้จะครบ เขาหาผู้สงสัยไม่ได้ ถึงแม้จะประกาศรางวัลถึง 500,000 เหรียญฯ สำหรับเบาะแสหรือข้อมูลเกี่ยวกับ The Impact Team ผ่านการแถลงของตำรวจสู่สาธารณะนั้น ก็ยังหาเบาะแสไม่ได้อยู่ดี และในที่สุด ในวันที่ 18 สิงหาคม ข้อมูลลับของสมาชิกถูกปล่อยออกไป ซึ่งนั่นคือลูกระเบิดลูกแรก ทำให้สมาชิกทั่วโลกหนาวสั่นเป็นแถว ทั้งผู้มีชื่อเสียง ทั้งคนธรรมดา ลูกระเบิดลูกที่ 2 คือ The Impact Team ปล่อยข้อมูลลับภายในบริษัท ซึ่งเป็นอีเมลส่วนตัว เลขบัญชี และข้อมูลต่างๆ เปิดโปงให้เห็นว่า Ashley Madison โกงสมาชิกจริง และสิ่งสำคัญอีกคือ เปิดอีเมลส่วนตัวของ Biderman เอง ที่เปิดเผยให้โลกเห็นว่า Biderman นอกใจภรรยาตัวเองเป็นประจำ

แน่นอนครับ ผลกระทบในการเปิดเผยข้อมูลจาก The Impact Team เป็นข่าวเวลานานมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นคนยุคไหน ชาติใด หรืออายุเท่าไหร่ก็ตาม มีอยู่เรื่องเดียวที่ทำให้คนอยากรู้อยากเห็น คนสนใจและคนพูดถึง คือเรื่องใต้สะดือ และยิ่งถ้าเป็นเรื่องใต้สะดือออกแนวชู้ คนเรายิ่งชอบ ข่าวเลยมันส์มากกับเรื่องใครเป็นสมาชิก Ashley Madison บ้าง ยิ่งถ้ามีชื่อเสียง คนยิ่งให้ความสนใจ ในยุคนั้น ณ เวลานั้น สมาชิก Ashley Madison ทุกคนคงหนาวสั่นและนอนไม่หลับ

อันนี้คือเรื่องของ Ashley Madison แบบย่อ ผมยอมรับว่า ตอนเกิดเรื่อง ผมก็ตามแต่ตอนเป็นข่าวปล่อยข้อมูลของสมาชิกออกไป หลังจากนั้นผมไม่นึกถึง Ashley Madison อีก แต่พอดูสารคดีนี้ มันทำให้ผมเข้าใจเรื่องราวเกือบทั้งหมดของเหตุการณ์ แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจ คือผมเข้าใจว่าหลัง The Impact Team (ซึ่งจนถึงบัดนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร แล้วพวกเขาไม่ปรากฏตัวอีกเลย) เปิดโปงความลับของสมาชิกนั้น ทาง Ashley Madison และ Avid Life Media ต้องถูกฟ้องและปิดกิจการ… แต่ปรากฏว่าไม่ครับ

หลังถูกฟ้องและจ่ายค่าเสียหายไป Ashley Madison ไม่ปิดและไม่หยุด เขายังเดินหน้าทำบริการเดิมอยู่ คือ ให้คนอยากนอกใจคู่สมรส หากิ๊กหาชู้ครับ และจากที่เคยพีกสุด มีสมาชิกเกือบ 40 ล้านคนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนี้สมาชิกพุ่งถึง 70 ล้านคน!!!!

ไม่แน่ หลังแฟนคอลัมน์อ่านบทความวันนี้ สมาชิก Ashley Madison อาจพุ่งขึ้นอีกก็ได้….แต่ก่อนใครจะสมัคร ผมแนะนำให้ดู Netflix ก่อนครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กินฮอตดอกไหมครับ?

กินฮอตดอกไหมครับ? ขอแจ้งครับ ถ้าแฟนคอลัมน์ท่านใดอยากอ่านบทความที่มีเนื้อหาสาระ ที่มีประเด็น ที่สมศักดิ์ศรี มาตรฐานหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์นั้น

รื้อฟื้นความทรงจำเรื่อง Wikileaks

ในที่สุด หลังใช้เวลา 14 ปีในการติดคุกในอังกฤษบ้าง ลี้ภัยในสถานทูตเอกวาดอร์บ้าง นาย Julian Assange ได้เดินทางกลับบ้าน (ออสเตรเลีย) ในฐานะ Free Man ครับ

ที่มาของ Presidential Debates

ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ ถือว่าเป็นการริเริ่มฤดูกาลหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในสหรัฐอเมริกาครับ เพราะในวันนั้นจะเป็นการ Debate

Thank you, Jerry West….the Logo

อีกไม่กี่วันข้างหน้า โลก (ในไทย) น่าจะหยุดหมุนชั่วคราว เรื่องชี้ชะตาอนาคตอดีตนายกฯ นายกฯ ปัจจุบัน และพรรคที่น่าจะมีว่าที่นายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

Donald Trump ยังเป็นผู้สมัครได้ไหม?

เมื่อสัปดาห์ก่อน ข่าวที่โด่งดังทั่วโลกไม่ใช่ข่าวน้องไนซ์เชื่อมจิตนะครับ ถึงแม้สังคมไทยจะติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจังก็ตาม ผมเชื่อว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีเรื่องอื่นเข้ามาแทน

ทำไม Pride Month ต้องมีทุกมิถุนายน?

ขออนุญาตสวมหมวกคนขี้บ่นนิดหนึ่งครับ ในฐานะบ้านอยู่เมืองทองธานี เวลาบอกใครว่าอยู่เมืองทองฯ ส่วนใหญ่เขาจะพูดว่า “โห…ไกลจัง!!”