
เห็น "อดีตตำรวจเก่า" ร่วมกับ "นักวิชาการ" ภายใต้ชื่อ 3 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับงานตำรวจ ทั้ง สมาคมตำรวจ สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และชมรมพนักงานสอบสวน นั่งเรียงหน้ากระดานแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัส 16 พ.ค.ที่ผ่านมา
เรียกร้อง "ปฎิรูปตำรวจ" รอบใหม่ เพื่อต้องการกอบกู้ศักดิ์ศรี ต้องการกอบกู้ศรัทธาตำรวจคืนมา
เป็นสิ่งที่ต้องเชียร์ ต้องส่งกำลังใจให้
โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ต้องยอมรับว่า "ตำรวจ" มีแต่เรื่อง มีแต่ความเน่าเฟะไม่หยุดหย่อน ชื่อเสียง ภาพพจน์ ตกต่ำ ความศรัทธา ความเชื่อถือ จากประชาชาดำดิ่ง
การที่ "ตำรวจเก่า" ที่มีชื่อเสียง มีเกียรติประวัติ มีผลงาน สร้างคุณูปการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาในอดีต ทั้งพล.ต.อ.วุฒิชัย ศรีรัตนวุฒิ ประธานชมรมพนักงานสอบสวน พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นายกสมาคมตำรวจ พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร นายกสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ที่ปรึกษาชมรมพนักงานสอบสวน ร่วมกับรศ.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา ม.รังสิต ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ก่อตั้ง สำนักวิจัย Superpoll และนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ iLaw
ลุกขึ้นมาขยับ ลุกขึ้นมาเรียกร้องให้มีการ "ปฎิรูปตำรวจ" อย่างจริงจัง
นำความคิด ความเป็นจริง จาก "ผู้ปฎิบัติ" มาใช้ในการ "ปฎิรูป" ไม่ใช่เอาคนนอก เอาหลักการมาปฎิรูป เพื่อให้ "ตำรวจ" ปฎิบัติ
ก็น่าจะทำให้เกิดประโยชน์ เกิดผลดีต่อองค์กรสีกากีและประชาชน
ทั้งความพยายามเรียกร้องให้มีการแก้ไของค์ประกอบของ ก.ตร. ประธานไม่ควรเป็นนักการเมือง ให้สถานีตำรวจแต่ละพื้นที่มีกำลังพลเพียงพอ จัดสรรงบประมาณเรื่องสาธารณูปโภคที่เหมาะสม หัวหน้าสถานีตำรวจต้องแต่งตั้งจากผลงานและความสามารถไม่ใช่การฝากฝัง การฟื้นแท่งสอบสวน เป็นต้น
หากทุกอย่างสามารถทำได้จริง มีการปฎิรูปตามที่ 3 สมาคมเสนอ จะทำให้ "ตำรวจ" มีขวัญกำลังใจในการทำงานมากขึ้น ผลประโยชน์ทางอ้อมก็จะตกมาที่ประชาชน
เพียงแต่จะทำได้มากน้อยแค่ไหน???
นั่นเป็นโจทย์สำคัญในการปฎิรูปตำรวจให้ได้ผล ขนาดพล.ต.อ.วินัยเองก็ยังยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย หากจะทำกันจริงๆ
ผู้มีอำนาจต้องปล่อยมือจากอำนาจ!!!
นี่แหละเรื่องใหญ่ การที่ผู้มีอำนาจจะยอมปล่อยมือจากอำนาจ บอกตรงๆ...โคตรยาก
มีอดีตนายพลท่านหนึ่งได้เคยบอกเอาไว้ ไม่ต้องปฎิรูปอะไรให้วุ่นวายหรอก ทั้งโครงสร้าง ทั้งกฎหมายตำรวจที่มีอยู่ก็ดีอยู่แล้ว กฎหมายบางอย่างที่ไม่ทันสมัยก็แก้กฎหมายซะ ทุกอย่างก็เดินได้ ไม่ต้องไปรื้อ ไปปฎิรูปอะไรให้มากความ
โจทย์ใหญ่ของการปฎิรูปตำรวจ คือแค่ให้ "ผู้มีอำนาจ" ทั้ง "นายกฯ" ในฐานะประธาน ก.ตร. และ "ผบ.ตร." ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดตำรวจ ใช้อำนาจตามระเบียบ ใช้อำนาจตามกฎหมาย ไม่หลบ ไม่เลี่ยง ไม่หรี่ตา ไม่ทำตัวเป็นศรีธนชัย ทุกอย่างก็จะเดินไปได้ตามกระบวนการ ตามขั้นตอน
ศักดิ์ศรี ความศรัทธา "ตำรวจ" จาก "ประชาชน" ก็จะกลับคืนมาเอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระเนระนาด
หมดกัน! สิ่งที่ "ตชด." หรือ "ตำรวจตระเวนชายแดน" ทุ่มเทรักษาอธิปไตยไทย ร่วมกับ "ทหาร" และ "ทหารพราน" ถึงขนาด "ตชด." บางนาย ถูกยิง ถูกระเบิด บาดเจ็บสาหัส ถูกส่งตัวมานอนรักษาที่โรงพยาบาล เมื่ออาการดีขึ้นทุกคนก็ขอกลับไปทำหน้าที่ชายแดนตามเดิม
หรือติดคุกตอนแก่!
ไม่รู้มีอะไรในก่อไผ่มากกว่าหน่อไม้หรือเปล่า? การออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของ "ธวัชชัย ไทยเขียว" หนึ่งในคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
'ตชด.' หัวใจนักสู้
เห็นภาพ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน-พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชา "ตชด." ที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งมอบนโยบาย ทั้งร่วมวงนั่งพื้นกินข้าวกันฉันพี่ๆ น้องๆ
หรือทิ้งทวน?
ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา
ตำรวจไม่เลวไปหมด
ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต
'200 สีกากี' หนาว!
มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568

