'บุ้ง'ตายใครรับผิดชอบ

มีการตั้งคำถามกันเยอะพอควรแล้วครับ

ใคร...ต้องรับผิดชอบต่อการตายของ "บุ้ง ทะลุวัง"

และ "บุ้ง" เสียชีวิตเพราะใคร

แน่นอนว่าแต่ละฝ่ายคิดไม่เหมือนกัน แต่นักเคลื่อนไหวตระกูล "ทะลุวัง" ซึ่งเป้าหมายชัดเจนตามชื่อนั้นมีผู้เห็นต่างมหาศาลเช่นกัน

ประเด็นใครต้องรับผิดชอบ อยู่ที่ใครแสดงความเห็น

สภาพการเมืองไทยไม่ต่าง ๓ ก๊ก ในวันนี้ หลักๆ มุมมองต่อ "บุ้ง" จึงมี ๓ ฝ่าย

ฝ่ายแรกคือฝ่ายที่เห็นด้วยและสนับสนุนการเคลื่อนไหวยกเลิก ม.๑๑๒ ของ "บุ้ง" มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนหลัก มีมวลชน ๓ นิ้วเป็นแนวร่วม และด้อมส้ม เป็นฐานใหญ่

ฝ่ายที่สองคือพรรคเพื่อไทย หลังจากแสดงตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตยร่วมกับพรรคก้าวไกลอยู่นาน ท้ายสุดก็แตกคอกัน เพราะ "อำนาจ"

แยกมวลชนที่ทับซ้อนกันชัดเจนยิ่้งขึ้น

ส้มกับแดง แยกทางกันเดิน

ฝ่ายสุดท้าย ยังยืนหยัดความคิดไม่เคยเปลี่ยน ต่อต้านระบอบทักษิณ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

ทั้ง ๓ ฝ่ายนี้ มองการเสียชีวิตในแง่มุมที่แตกต่างกันแทบจะสิ้นเชิง

เช่น "ช่อ-พรรณิการ์ วานิช" แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์ทวิตเตอร์

 “...ต้องรอให้มีคนตายก่อนหรือ ถึงจะทำให้สังคมตระหนักว่าคนเห็นต่างไม่สมควรตายหรือติดคุก และสิทธิการประกันตัวเป็นของทุกคน”

 “หรือแม้แต่มีคนตายแล้ว ก็จะยังไม่เข้าใจ ไม่รับรู้กันอีก? มีอีกหลายคนยังอยู่ในคุก ไม่ได้ประกัน มีอีก ๓ คนที่อดอาหารประท้วงอยู่ในเรือนจำ ถึงจะเห็นต่างกัน แต่เราเป็นมนุษย์เหมือนกัน พึงรักษาความเป็นมนุษย์กันไว้เถอะนะ RIP บุ้ง...”

และชัดเจนขึ้นกับความเห็นของ "ทิชา ณ นคร" คุณป้าของเด็กๆ ๓ นิ้ว

"..สรุปแถลงการณ์ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม หลังการตายของบุ้ง ข้อมูลไม่ครบถ้วน ไม่ตรงไปตรงมา บิดเบือน เบลมผู้เสียชีวิต

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงยุติธรรม ลาออกเถอะ …แม้การลาออกของพวกคุณ บุ้งจะไม่ฟื้น แต่การลาออกของพวกคุณคือการแสดงความรับผิดชอบของผู้บริหารระดับสูงที่ต้องเปี่ยมด้วยวุฒิภาวะ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และจะเป็นแบบอย่างที่งดงามของผู้บริหารระดับสูงในอนาคต

#ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

#สิทธิการประกันตัวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ..."

จะเห็นว่ามุมมองของกลุ่มที่สนับสนุนเด็กๆ "ทะลุวัง" ไม่พูดถึง "การกระทำ" แต่จะเน้นไปที่ผล 

ผลจึงออกมาว่า รัฐบาล ข้าราชการ และกระบวนการยุติธรรม เป็นต้นเหตุของการเสียชีวิต ฉะนั้นต้องรับผิดชอบ

แต่ฝั่งสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ไม่ได้คิดแบบนั้น

"หมออั้ม-อิราวัต อารีกิจ" มีตำแหน่งเป็นนายแบกพรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นผ่านโลกโซเชียลอย่างเผ็ดร้อน

 "...อย่าให้เห็น อ้ายอีหน้าไหน ดัดจริตโหนการตายของบุ้ง ทะลุวัง นะฮะ โดยเฉพาะ อ้ายอีพวกที่อุดมการณ์สูงส่ง พวกที่บอกว่าตนเองสู้กว่าใคร..แต่แยกไม่ออกว่าอันไหนหมิ่นประมาท อันไหนวิจารณ์เบื้องสูง..

อ้ายอีที่วันๆ กินแต่เหล้า เที่ยวกลางคืนที่เคยโพสต์สะใจ ตอนคนอื่นเจ็บไข้ได้ป่วยมาก่อน แต่มาดัดจริตตอแหล โพสต์ดิ้นกรณีบุ้งว่าหากใครสะใจ ใครกดหัวเราะ เท่ากับ ปีศาจ

มึงนั่นแหละตัวดีเลย..."

๒ กลุ่มนี้น่าจะเป็นมวยถูกคู่ เพราะรู้ไส้รู้พุง รู้ที่กินเหล้ากันดี

มหกรรมลากไส้หลังจากนี้จึงน่าจะมีขึ้นเรื่อยๆ

เอาเข้าจริงช่วงหลังๆ "บุ้ง" เคลื่อนไหวแบบดุดันไม่เกรงใจใคร บรรดาด้อมส้ม ๓ นิ้ว ด้วยกันเองยังต้องหมอบ

แต่วันนี้ถนนทุกสายต่างมุ่งสู่การโหนศพ "บุ้ง ทะลุวัง"

สุดท้าย...กลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณ ไม่เอา ๓ นิ้ว มีไทม์ไลน์ของเรื่องราวที่มากกว่า ๒ กลุ่มแรก

"อัษฎางค์ ยมนาค" ย้อนไปถึงต้นเหตุ ก่อน "บุ้ง" ติดคุก

 “...บุ้ง เนติพร ไม่ได้ติดคุกและตายเพราะแสดงความเห็นทางการเมือง

พรรณิการ์ วานิช โพสต์ทวิตเตอร์ว่า “ต้องรอให้มีคนตายก่อนหรือ ถึงจะทำให้สังคมตระหนักว่าคนเห็นต่างไม่สมควรตายหรือติดคุก และสิทธิการประกันตัวเป็นของทุกคน”

อย่างไรก็ตาม ความจริงนั้นแตกต่างออกไป บุ้ง เนติพร ไม่ได้ถูกจำคุกเพราะแสดงออกถึงความขัดแย้งทางการเมือง และเธอได้รับสิทธิในการประกันตัวจากศาลเช่นเดียวกับทุกคน

ย้อนดูไทม์ไลน์ เริ่มต้นบุ้งและพวกร่วมทำกิจกรรมสอบถามประชาชนว่าขบวนเสด็จฯ สร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือไม่ ซึ่งศาลตัดสินว่า “เป็นการสื่อความหมายเป็นการโจมตีเรื่องขบวนเสด็จฯ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร และเพื่อให้ประชาชนละเมิดกฎหมายแผ่นดิน”

ทั้งที่ขบวนเสด็จฯ เป็นการถวายความปลอดภัยให้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทุกประเทศทั่วโลกล้วนต้องมีการรักษาความปลอดภัยให้กับขบวนของประมุขหรือบุคคลสำคัญของชาติ”

ซึ่งศาลอนุญาตให้ได้รับประกันตัว ทั้งนี้ศาลได้กำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวด้วยการห้ามทำกิจกรรมในลักษณะเดียวกับที่ถูกดำเนินคดี อันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์, ห้ามปลุกปั่น ยั่วยุ หรือชักชวนให้มีการเข้าร่วมกิจกรรมชุมนุม หรือเข้าร่วมกิจกรรมชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

จากเหตุการณ์ต้นเรื่องดังกล่าวทำให้บุ้งถูกจำคุก ๒ ครั้ง เนื่องจากหลังจากได้รับการประกันตัวแล้วยังละเมิดเงื่อนไขการปล่อยตัวด้วยการทำผิดซ้ำ

ดังนั้น ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้คือ เธอไม่ได้ติดคุกเพราะแสดงความเห็นต่างทางการเมือง และหลังจากถูกดำเนินคดี เธอได้รับสิทธิการประกันตัวเหมือนทุกคน

กฎหมายมาตรา ๑๑๒ ไม่ได้เป็นกฎหมายลิดรอนสิทธิของประชาชนและไม่ใช่กฎหมายที่ห้ามแสดงความเห็นทางการเมือง แต่เป็นกฎหมายคุ้มครองประมุขแห่งรัฐ ซึ่งทุกประเทศในโลก ไม่ว่าจะมีประมุขเป็นพระมหากษัตริย์หรือประธานาธิบดี ก็มีกฎหมายคุ้มครองประมุขแห่งรัฐเช่นกัน

ถ้าคุณเป็นนักการเมือง นักการทูตหรือสื่อมวลชนที่สนับสนุนการกระทำของเนติพรและคนกลุ่มนี้ ย่อมหมายความว่า คุณมีความเห็นว่ากฎหมายคุ้มครองประมุขแห่งรัฐของประเทศของคุณลิดรอนสิทธิของประชาชนและเป็นกฎหมายที่มีไว้ปิดปากผู้ที่ต้องการแสดงความเห็นทางการเมือง และคุณไม่เห็นด้วยที่ประเทศของคุณมีกฎหมายคุ้มครองประมุขแห่งรัฐของประเทศของคุณด้วยใช่หรือไม่..."

ครบถ้วนกว่าเหตุผลของ แดง-ส้ม

"บุ้ง" เคยนอนคุก เคยได้ประกันตัว และกลับเข้าคุกอีก เพราะทำผิดเงื่อนไขได้ประกันตัว

ต่อให้ "บุ้ง" ได้ประกันตัวไปก่อนเสียชีวิต ก็มีแนวโน้มทำผิดเงื่อนไขประกันตัวซ้ำอีก เพราะบุคลิกการเคลื่อนไหวที่ดุดันไม่เกรงใจใครนั่นเอง

ฉะนั้นหากจะพูดเรื่อง "บุ้ง" จำต้องว่ากันให้ครบถ้วน อย่าตัดตอนเอาเฉพาะตอนที่ "บุ้ง" อยู่ในคุกอดอาหารประท้วง และเสียชีวิต

แล้วใครกันแน่ที่ต้องรับผิดชอบในการตายของ "บุ้ง"

"ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร" อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เฉลยให้หายสงสัย

"...ผู้ที่ให้การสนับสนุน-อยู่เบื้องหลังเยาวชนที่ออกมาประท้วงด้วยอาการและอารมณ์ที่รุนแรง คือ ผู้ที่มีจิตใจอำมหิตมาก เพราะพวกเขาใช้อนาคตและชีวิตของเยาวชนเป็นเครื่องมือไปสู่สิ่งที่พวกเขาต้องการ โดยพวกเขาเท่านั้นคือผู้ได้ประโยชน์ที่แท้จริง

"...การแก้กฎหมายมาตรา ๑๑๒ เพื่อช่วยเยาวชนผู้ต้องหาเป็นการแก้ปลายเหตุ ต้องแก้ที่ต้นเหตุ-ผู้ให้ข้อมูลบิดเบือน..."

คนพวกนี้เป็นใคร?

ก็พวกที่ยกแก๊งไปฝรั่งเศส กลับไปเดินตามรอย "ปรีดี"

ถอยหลังไปเริ่มที่ปี ๒๔๗๕ อีกครั้งนั่นเอง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ล้างแค้น คสช.

เจี๊ยะป้าบ่อสื่อ... ช่างสรรหาเรื่องให้ปวดกบาลได้ตลอดจริงๆ พรรคส้ม เอาอีกแล้ว ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการลบล้างผลพวงรัฐประหารจำนวน ๓ ฉบับต่อประธานรัฐสภา

พายุหมุนหรือผายลม

พร้อมแล้ว! ก็ไม่รู้สิครับ...วานนี้ (๒๔ กรกฎาคม) "พิชัย ชุณหวชิร" ขุนคลัง นำทีม "ช่วยคลัง" แถลงความคืบหน้าโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ยืนยันว่า มีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ว

ความน่ากลัวกำลังจะเกิด

อันเดียวไม่เคยพอ... เมื่อราวๆ ๓๐ ปีก่อน ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีเวทีโต้วาที สมัยนั้นที่ดังเป็นพลุแตก ก็มี ฝ่ายชาย "อภิชาติ ดำดี" ถือว่าเด็ด

วุฒิสภาสามก๊ก

เคาะกันแล้วเคาะกันอีก กับเก้าอี้ประธาน และรองประธานวุฒิสภา ปฏิเสธไม่ได้เลยครับ สว.ชุดใหม่คือความหลากหลายทางชีวภาพ วัฒนธรรม พันธุกรรม และระบบนิเวศ