ต่างมอง..ต่างมุม

ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ ...กันรัวๆ ในตอนนี้ไม่พ้นประเด็น "ข้าวเก่า 10 ปี" กินได้?!?

เรียกว่า นั่งกินข้าวกับกลุ่มไหน กลุ่มเพื่อน กลุ่มคนรู้จัก กลุ่มทำกิจกรรมพิเศษเป็นครั้งคราว ..ทุกกลุ่มต้องถกกันด้วยประเด็นนี้!! สุดท้ายก็หัวเราะทั้งน้ำตาว่า ถ้ามีการประมูลข้าวล็อตที่กินโชว์ออกไปเมื่อไหร่ จะนับหนึ่งขอกินข้าวใหม่ติดต่อกันไป 1 ปีเลย เพื่อสุขภาวะของตัวเอง

แต่ไม่ว่าเสียงสะท้อนจากชาวบ้านจะต่อต้าน คัดค้าน และไม่เชื่อว่า ข้าวเก่า 10 ปีกินได้แล้วจะปลอดภัย ..ก็เชื่อว่า กระทรวงพาณิชย์ที่จุดประเด็น "โชว์กิน" ขึ้นมานั้น ก็คงไม่ใส่ใจ เพราะเขามีมุมของเขาอยู่แล้วว่า ต้องการระบายข้าวที่เก็บค้างมานาน 10 ปี ออกไป เมื่อมีคนซื้อ ก็ต้องขาย ส่วนความรับผิดชอบในเรื่องของสุขภาวะหรือความปลอดภัยนั้น..ไปถามหาเอาจากคนที่ซื้อไปแล้วกันนะ ว่าเขาจะเอาข้าวเก่า 10 ปี รมควันพ่นสารเคมีมา 120 ครั้งนั้นไปทำอะไรกันบ้าง เพราะธุระไม่ใช่!!

มันคือมุมมองที่แตกต่างของพ่อค้า ที่ใส่ใจแต่เรื่องของตัวเลขขาดทุน-กำไรเท่านั้น ตราบเท่าที่มีคนซื้อ

มองมุมของพ่อค้าแม่ขายแล้ว ทำให้นึกถึงภาชนะในการใส่อาหารของคนจีนที่เมืองซีอาน เพราะมนุษย์ป้าเห็นแล้วให้แปลกใจจริงๆ ว่า ทำไมผู้บริโภค หรือลูกค้าทุกคน ยอมรับกับวิธีการขายสินค้าในภาชนะที่สุ่มเสี่ยงทำอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคอย่างยิ่ง

มันคือ "ซุป" ร้อนๆ บ้าง ก๋วยเตี๋ยวก็มี เขาใช้ชามใส่ให้กับคนกินทุกคนที่นั่งที่ร้านค่ะ ..แต่ขอโทษที ซุป หรือน้ำแกงทั้งหลาย ไม่ได้สัมผัสตัวชามตรงๆ นะคะ เพราะแม่ค้าจะใช้ถุงก๊อบแก๊บคุมบนชามก่อน แล้วตักน้ำซุป และอาหารทั้งหลาย ลงบนถุงก๊อบแก๊บเจ้าค่ะ

เห็นแล้วก็ ..ให้งง!! ว่าทุกคนกินซุป กินก๋วยเตี๋ยว ซดน้ำแกงบนถุงก๊อบแก๊บ กันอย่างเป็นปกติ

จะบอกว่า เป็นวิธีการประหยัดของพ่อค้าแม่ค้า ที่ไม่ต้องจ้างคนล้างชาม และไม่ต้องเสียเวลาหาพื้นที่ทำความสะอาดชามนั้น มนุษย์ป้าก็คิดไม่ออกเลยว่า แล้วทำไมลูกค้าถึงยอมรับการขายของแบบนี้ โดยไม่ใส่ใจเลยว่า ถุงพลาสติกที่เอามาคลุมชามหรือสวมชามนั้น ถูกสุขลักษณะหรือไม่ ถุงก๊อบแก๊บสามารถรองรับของร้อนๆ ได้มากน้อยแค่ไหน

แปลกแต่จริง!! กับมุมมองที่แตกต่างกันไป แต่สรุปได้ว่า ตราบเท่าที่มีคนซื้อ คนขายก็ทำอะไรปราศจากสำนึกรับผิดชอบได้ ฉะนั้น การดูแลรักษาชีวิตตัวเอง จึงเป็นหน้าที่ของเราเท่านั้น หวังไปยืมมือคนอื่นไม่ได้เลยนะ.

"ป้าเอง"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คอนเทนต์...คนวัยตกกระ

เมื่อใกล้จะหมดเวลาไปอีกปี ถือเป็นวัฒนธรรมตามปกติกับช่วงเวลานี้ที่เพื่อนสนิทมิตรสหายจะนัดกันไปกินข้าวกันสักมื้อเป็นการส่งท้ายปี หรือไม่ก็เพื่อฉลองต้อนรับปีใหม่

ไชน่าทาวน์..แห่งใหม่

กลายเป็นถนนทำเลทองสมชื่อแล้วในยามนี้ สำหรับถนนบรรทัดทอง ในเขตปทุมวัน ที่ขนานกับถนนสวนหลวงและสามย่าน

เตรียมตัวให้พร้อม..ช่วงเทศกาล

ไม่ได้มาชวนคุยเรื่องสุขภาพร่างกาย ที่จำเป็นต้องพร้อมถ้าจะออกเที่ยว เพราะอายุปูนนี้แล้ว เชื่อว่าทุกคนต้องใส่ใจดูแลตัวเองก่อน จึงจะตัดสินใจว่า จะก้าวเท้าออกจากบ้านเพื่อท่องเที่ยว มิเช่นนั้นไปเจ็บป่วยกลางทาง นอกจากทำให้ตัวเองเซ็งเป็ดแล้ว ยังส่งผลกระทบทำให้ก๊วนแก๊งเพื่อนๆ พลอยเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย

เงิน..ก้อนสุดท้าย!!

สะท้อนสะเทือนใจจริงๆ นะคะ กับเรื่องราวข่าวสารว่าด้วย ..เงิน-เงิน-เงิน..ของคนวัยเกษียณที่มลายหายไป เพราะถูกเบี้ยวถูกโกง จากนักธุรกิจประเภทเล่นแร่แปรธาตุ รวมไปถึงบรรดาสแกมเมอร์ อีกทั้งคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพทั้งหลาย

คิดถึงพ่อ ทำความดี ด้วยการบริจาคโลหิต

ทุกวันที่ 5 ธันวาคม นอกจากเป็นวันพ่อแห่งชาติแล้ว พวกเราพสกนิกรชาวไทยระลึกอยู่เสมอว่าเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ทำตัวเป็นแสงสว่าง

อ่านเรื่องนี้แล้วชอบค่ะ ..จึงอยากให้ทุกคนได้อ่านบ้าง.. มีตรอกอยู่ตรอกหนึ่ง ที่ทั้งมืดและทั้งแคบ คืนหนึ่ง มีพระรูปหนึ่งเดินผ่านเข้ามายังตรอกดังกล่าว เพื่อมุ่งหน้าไปยังอาราม