
ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net ปรับ "ครม.เศรษฐา 2" ไม่ทันไร ไขก๊อกไปแล้ว 2 ราย คนแรก "ปานปรีย์ พหิทธานุกร" กลับโดนลดตำแหน่งโดยไม่แจ้งกันล่วงหน้า ทั้งที่เป็นรัฐมนตรีที่มีผลงาน เจอวิถีการเมืองไร้มารยาทแบบนี้จำต้องโบกมือบ๊ายบาย ส่วนราย "กฤษฎา จีนะวิจารณะ" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เหมือนบีบกลายๆ ทีแรกมีข่าวว่าขุนคลังคนใหม่ "พิชัย ชุณหวชิร" จะพูดคุยกับ 3 รมช.คลัง ก่อนแบ่งงาน ปรากฏว่าเซ็นคำสั่งออกมาเสร็จสรรพ กฤษฎาต้องร้องจ๊าก เล่นริบกรมใหญ่ที่เคยดูแลซะเหี้ยน ชะตากรรมคล้ายกับอดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ "ไชยา พรหมา" ที่เจอเจ้ากระทรวงต่างพรรคฮุบงานหลักต้องฟาดฟันจนตัวเองตกเก้าอี้ แต่เผอิญว่าระหว่าง รมว.คลังป้ายแดงคนนี้
กับกฤษฎา เคยมีความหลังร้าวลึกกันอยู่สมัยพิชัยนั่งประธานบอร์ดบางจาก ขณะที่กฤษฎาดำรงตำแหน่งปลัดคลัง ได้สั่งสอบการซื้อขายหุ้นบางจากของ 2 อธิบดี ในช่วงต้นปี 66 เลยสบช่องเอาคืน ที่สำคัญมานั่งเก้าอี้นี้ตามออเดอร์ของ "นายใหญ่" หน่วยงานสำคัญอย่างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ต้องดึงมาดูแลเอง เพราะถือเป็นแหล่งเงินสำคัญให้กับรัฐบาลเพื่อไทย จำได้ไหมสมัยรัฐบาลทักษิณ กำเนิดหวยบนดิน ในปี 2546 และมีมติคณะรัฐมนตรีระบุว่ารายได้ส่วนเกินหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วของ 'หวยบนดิน' นั้นไม่ต้องนำส่งกระทรวงการคลัง แต่ให้นำคืนสู่สังคมโดยใช้จ่ายในกิจกรรมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนแทน สุดท้ายเงินนับแสนล้านเข้ากระเป๋าทักษิณ ทำให้ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปี
๐ กฤษฎาไป ใครจะมา นายกฯ รับยับยั้งไม่สำเร็จ บอกถ้าใบลาออกถึงสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีถือว่าสิ้นสุด จะว่าไปในส่วนของพรรคต้นสังกัด "รวมไทยสร้างชาติ" ก็คงไม่ได้ตื่นเต้นตกใจ เหมือนที่ "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรคว่าไว้ น่าจะพออ่านเกมออกว่าพรรคเพื่อไทยต้องการรวบอำนาจกระทรวงการคลัง เดินหน้าหาเงินเต็มสตรีม ถึงให้เศรษฐาเลิกควบ ส่งคนสนิทนายใหญ่มาคุมคลัง แถมส่ง รมช.มาเพิ่มอีกคน หลังจากนี้เพื่อไทยคงเจรจากับ รทสช. หาเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยกระทรวงอื่นปลอบใจแทน ส่วนคนที่จะมาเสียบแทนกฤษฎาก็คงเป็นสายตรงนายทุนใหญ่ของพรรคเหมือนเดิม เวลานี้ก็มีชื่อ "พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ" สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรค มาอีกรอบ ซึ่งเคยถูกวางตัวเป็น รมว.อุตสาหกรรม ตอนตั้ง ครม.เศรษฐา 1 แต่ก็น่าคิดว่าขนาดได้เป็นรัฐมนตรีว่าการยังไม่นั่ง แล้วจะมาคว้าแค่เก้าอี้รัฐมนตรีช่วยหรือ
๐ ไม่อายปาก! "ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ แต่หากจริง ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถือเป็นเรื่องดี การแก้ไขปัญหาในอดีตหลายประเทศที่มีปัญหากันบางครั้งไม่ได้จบระดับไตรภาคี หรือทวิภาคี แต่จะจบด้วยเอกชนหรือคนนอกบางคนไปเป็นตัวกลาง คนที่มีบารมีก็อาจจะไปช่วยพูดคุย ก็อาจจะจบได้ ซึ่งหากเป็นเรื่องจริง ท่านทักษิณอาจจะคิดเช่นนั้น.. แต่ถ้าท่านทำจริงผมเชื่อว่าต้องรู้ทุกระดับ เพราะท่านเป็นคนมีบารมี ไม่ใช่คนที่ไม่มีบารมี เป็นอดีตนายกฯ หากคิดจะทำอย่างนั้นคงจะคุยตั้งแต่หัวถึงหางจนจบ" ถึงกับอึ้งกับคำตอบของเสนาบดีกลาโหม "สุทิน คลังแสง" ยกย่องเชิดชูนักโทษที่ทำตัวยิ่งใหญ่ เดินสายพบปะพูดคุยกับผู้นำกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่กำลังปะทะกับรัฐบาลเมียนมา ฟังแล้วรู้ทันทีคนไร้บารมีเป็นแบบนี้นี่เอง ไม่สนเลยว่าจะเข้าอีหรอบชักศึกเข้าบ้าน คงสำนึกแค่บุญคุณนายใหญ่ให้ไฟเขียวนั่งตำแหน่งนี้ต่อก็ล้นเหลือแล้ว ไม่เฉพาะบิ๊กทินหรอก ตั้งแต่นายกฯ หรือ รมว.ต่างประเทศ ก็มาโทนเดียวกันเปี๊ยบ เฮ้อประเทศไทย.
ลี้คิมฮวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
บันทึกจันทร์สุดท้ายของปี 2568 อีกไม่กี่เพลาก็จะขึ้นศักราชใหม่ 2569 ...ประเทศไทยจะก้าวไปทางไหน?!?.. ก็ขอบันทึกสะกิดเตือน @ บรรทัดนี้เลยว่า ใจเย็นๆ ค่อยๆ พินิจพิจารณา ประมวลข้อมูล ทบทวน ไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบแล้วจึงค่อยตัดสินใจว่า เลือกตั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ เราอยากได้ใครมาเป็น "ผู้นำ" พาชาติบ้านเมืองไปสู่ทิศทางที่เหมาะที่ควร!!
บันทึกหน้า 4
จาก "หนู" หนึ่งเดียว กลายเป็นสอง ก่อนหน้านี้ถามกันทุกวันถึง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของภูมิใจไทย ในงานแถลงนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชัดเจนว่า "อนุทิน ชาญวีรกูล" ฉายเดี่ยว โฆษกพรรคย้ำแล้วย้ำอีก
บันทึกหน้า 4
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกรุ่นอยู่ต่อเนื่องอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ แม้วันที่ 24 ธ.ค.2568 จะเป็นวันแรกในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ในวาระพิเศษ
บันทึกหน้า 4
การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ไทยยังเหนือกว่าทุกด้าน สมรภูมิตามแนวชายแดน ทหารกล้าของเราบุกยึดพื้นที่คืนกลับมาเกือบเบ็ดเสร็จ ในเวทีสากล นานาชาติก็เข้าใจสถานการณ์ดี
บันทึกหน้า 4
บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0

