สนามเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เริ่มต้นขึ้นแล้ว แม้จะยังไม่ประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกสว. แต่ว่าที่ผุ้สมัครทุกคนก็ต้องช่วงชิงจังหวะนี้ในการแนะนำตัวเอง เพราะเมื่อบังคับใช้พ.ร.ฎ.ดังกล่าวแล้ว จะติดเรื่องกฎ กติกาจำนวนมาก ทำให้ไม่คล่องตัวในการขยับ ฉะนั้น ช่วงนี้ก็จะได้เห็นคนเด่งดังในแวดวงอาชีพต่างๆ ประกาศลงสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกสภาสูง
ล่าสุด ในกลุ่มอาชีพการสาธารณสุข มี นพ.ยงยุทธ อาริยะชน อดีตผู้ชำนาญการประจำคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ลงสนามด้วยอีกคน “หมอยงยุทธ” เปิดเผยว่า จะลงสมัคร สว. เขตบางแค กลุ่ม 4 (กลุ่มการสาธารณสุข) และขอเชิญชวนทุกท่านที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไป ร่วมลงสมัครกันให้เยอะๆ
เจ้าตัว บอกอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่ประกอบวิชาชีพหมอ ได้ช่วยเหลือสังคมด้วยการนำแพทย์เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลร่วมกับหน่วยงานของรัฐและเอกชน ออกตรวจรักษาและให้ยาแก่ประชาชนที่ยากจนตามชุมชนต่างๆ ฟรี จนได้รับโล่เกียรติคุณจาก สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ด้านการสงเคราะห์ผู้มีปัญหา การแก้ไขปัญญาสังคม และการพัฒนาสังคม เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2535
“ความเป็นคน หรือที่เรียกว่ามนุษย์ จะมีความสมบูรณ์ของความเป็นคนนั้น นอกจากต้องมีความรับผิดชอบต่อครอบครัวแล้ว จะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมโดยส่วนร่วมด้วย เป็นคติชีวิตที่ผมยึดถือมาตลอด และผมก็พร้อมทำงานรับใช้ชาติในตำแหน่ง สว. เพราะประเทศไทยได้ให้ผมมามากพอแล้ว” นพ.ยงยุทธ กล่าว
สำหรับ นพ.ยงยุทธ เคยศึกษาโรงเรียน ภารตวิทยาลัย แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยได้ทุนเรียนฟรี เพราะยากจนมาตลอด 10 ปี ตั้งแต่ ป.1-ม.ศ.3 (ปัจจุบันคือ ป.1-ม.4) ต่อมา ได้ศึกษาต่อ ม.ศ 4-5 (ปัจจุบันคือ ม.5 และม.6) ที่โรงเรียนวัดรางบัว แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร จากนั้น ได้ศึกษาต่อที่วิทยาศาสตรบัณฑิต (วิทยาศาสตร์การแพทย์) มหาวิทยาลัยมหิดล, แพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล และศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
นพ.ยงยุทธ มีประสบการณ์ในแวดวงแพทย์มาอย่างยาวนาน เป็นผู้ก่อตั้งโรงพยาบาล และเป็นอดีตผู้อำนวยกาโรงพยาบาลวิชาญยุทธ (บางแค) อีกทั้งยังได้มีโอกาสทำงานด้านการเมือง ในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อปี 2548-2549 โดยเป็นผู้ชำนาญการประจำ กมธ.การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ด้วย ปัจจุบัน นพ.ยงยุทธเปิดสถานพยาบาล ชื่อว่า ยงยุทธคลินิกเวชกรรม (ข้างโลตัสบางแค)
มินนี่ เม้าธ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ออร่าจับมาก
ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย
“ไม่ต้องรอมติพรรค”
“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ทันเกมทักษิณ
โบราณว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” จริงที่สุด ดูการเมืองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
“เดี๋ยวก็หายไปแล้ว”
ช่วงนี้คนกรุงเทพฯ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ อากาศตอนเช้าอุณหภูมิประมาณ 20 องศา ถือว่าเป็นอากาศเย็นสบายๆ
หัวหน้าแก๊งเด็ก
พร้อมลุยงานกันต่อในปี 2568 สำหรับทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้อนรับปีใหม่ด้วยการตีปี๊บข่าวสารด้านต่างๆของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม โดยเฉพาะ “รองฯโบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายกล้าธรรม (กธ.) ที่ล่าสุดรีบแจ้งข่าวสารถึงเกษตรกรไทย
ไร้บอดี้การ์ด
ต้อนรับปีใหม่ปีงู 2568 แล้ว แต่ภารกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังคงเข้มข้นเช่นเดิม หลังเห็นรีวิวส่งท้ายปีของ รทสช. ที่บอกว่า พร้อมพังทุกอุปสรรค เพื่อประโยชน์ชาติ ทั้งพัง..การผูกขาด, พัง..ระบบที่เน่าเฟะ และพัง..การโกงกินทุกรูปแบบ พร้อมผลิตเสื้อพรรคสีน้ำเงิน สกรีนข้อความ “พัง! เพื่อประโยชน์ชาติ” ให้ได้เห็นกัน