คำถามใหญ่สำหรับ ครม. เศรษฐา 1/1 คือทีมเศรษฐกิจจะมีหน้าตาอย่างไร
ดูจากภาพรวมก็จะเห็นว่ามี คุณพิชัย ชุณหวชิร เป็นทั้งรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ก็น่าจะเป็น “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” ที่จะมี “full team” เพราะมีรัฐมนตรีช่วยคลังถึง 3 คน
อีกทั้งยังมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ 3 คนเช่นกัน
ซึ่งหากมีการจัดการบริหารที่ชัดเจนและพุ่งเป้าไปที่ประสิทธิภาพของผลงานจริงๆ ก็น่าจะนำไปสู่การยกระดับผลงานที่จะออกมาเป็นรูปธรรมมากขึ้น
แต่ความซับซ้อนก็เกิดเพราะโครงสร้างนี้เช่นกัน
เหนือรองนายกฯ พิชัย คือ นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งก็ได้แสดงถึงความคึกคักในการผลักดันด้านเศรษฐกิจตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา
นอกจากจะบินไปต่างประเทศบ่อยๆ เพื่อเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติมาไทยแล้ว คุณเศรษฐาก็ยังมีสไตล์การบริหารงานที่ลงไปถึงรายละเอียด
เช่น มีการเรียกระดับอธิบดีมาตรวจงานเองเป็นประจำ
ในลักษณะที่เรียกได้ว่าเป็นการ micro-management ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของรองนายกฯ พิชัยที่ยังไม่อาจจะบอกได้ว่าจะมีแนวทางการทำงานที่สอดคล้องกับนายกฯ เศรษฐาอย่างไร
สไตล์การบริหารของนายกฯ ที่สนใจเรื่องเศรษฐกิจ กับรองนายกฯ ที่มีบทบาททางการเป็น “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” นั้นมีประเด็นที่อาจจะขัดแย้งหรือเหยียบเท้ากันได้
โดยเฉพาะหากมีการบริหารข้ามพรรคในรัฐบาลผสมด้วย
เพราะรัฐมนตรีในบางกระทรวงที่เข้าข่ายเป็นกระทรวงเศรษฐกิจนั้นไม่ได้อยู่ในพรรคเพื่อไทยทั้งหมด
ที่น่าจะเป็นประเด็นการทับซ้อนกันที่น่ากังวลที่สุด (สำหรับประชาชนคนไทยที่ต้องการเห็นผลงานและกระบวนการตัดสินใจที่ชัดเจนของรัฐบาล) ก็คือการปรากฏตัวของคุณทักษิณ ชินวัตร ในบทบาทเป็น “นายใหญ่”
ความสับสนย่อมเกิดขึ้นได้หากคุณทักษิณพยายามจะเป็นผู้สั่งการตรงไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยไม่ผ่านนายกฯ หรือรองนายกฯ
อีกทั้งคนทำงานในทุกระดับในรัฐบาลที่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมการบริหารแบบ “วิ่งเข้าหาผู้ใหญ่” อาจจะใช้วิธีการรายงานตรงกับ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” แทนที่จะฟังคำสั่งจากเจ้ากระทรวง
หากเป็นเช่นนี้การบริหารราชการแผ่นดินก็จะเกิดปัญหาทับซ้อนสับสนและขาดความโปร่งใสที่ประชาชนจะตรวจสอบได้
มองจากข้างนอกก็อาจจะเข้าใจได้ว่า ครม.เศรษฐา 1/1 พร้อมเคลื่อนงานเศรษฐกิจหัวหอกแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะกระทรวงการคลังมี “ฟูลทีม 4 รัฐมนตรี” เป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน
อีกทั้งนายกฯ เศรษฐาก็ได้เรียกรัฐมนตรีคณะนี้ไปนี้กำชับให้เร่งงานคมนาคม ท่องเที่ยว ต่างประเทศ
ขณะที่เอกชนโดยสภาอุตสาหกรรมและสภาหอการค้าก็บอกว่าพร้อมขานรับขุนคลังพิชัยที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคนใหม่
ในจังหวะเดียวกัน งบประมาณปี 67 ที่ล่าช้ามาหลายเดือนก็พร้อมให้เร่งรัดการเบิกจ่าย
ดูทีมงานกระทรวงการคลังก็มี 1 รัฐมนตรีว่าการ และ 3 รัฐมนตรีช่วย
โดย 3 ใน 4 เป็นทีมเดียวกันจากพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย พิชัย ชุณหวชิร นั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกำกับภาพรวมเศรษฐกิจ ในฐานะ “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ”
ส่วน เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จากพรรคเพื่อไทย ขยับขึ้นจากเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาขับเคลื่อนนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท รวมถึงอีกหลายนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการคลัง
เช่น จัดตั้งธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) เป็นต้น
อีกทั้งมี จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นประธานขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลโครงการแจกเงินหมื่นอยู่แล้ว
ขณะที่ กฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมนำนโยบายไปปฏิบัติกับหัวหน้าส่วนราชการในกระทรวงคลัง
นอกจากนี้ยังมีการเสริมทีมบริหารนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อไทย ให้กับนายกรัฐมนตรี ผ่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 3 คน ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาใหม่
ทั้งจักรพงษ์ แสงมณี ทำงานด้านเศรษฐกิจต่างประเทศ, พิชิต ชื่นบาน ทำงานด้านกฎหมายในวาระการประชุม ครม. และจิราพร สินธุไพร ที่ผ่านการทำงานในตำแหน่งเลขานุการกรรมาธิการการท่องเที่ยวและรองประธานกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งเป็นรองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ด้วย
ภาคเอกชนมองว่าเศรษฐกิจน่าจะยังโตเป็นไปตามที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คาดการณ์ไว้ 2.7-3.3%
แม้ว่าคงจะต้องปรับลงตามที่กระทรวงการคลังและแบงก์ชาติประเมินใหม่จากตัวชี้วัดหลายชุดที่แผ่วลงตั้งแต่ต้นปี
เอกชนเตรียมเสนอให้ทีมเศรษฐกิจใหม่ดูเรื่องสินค้าจีนที่ท่วมตลาด ทั้งราคาถูกกว่า แต่มีปัญหาคุณภาพที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
มีผลกระทบกับผู้ประกอบการ 20 กลุ่มอุตสาหกรรมลำบากมาก ถ้าไม่แก้ ปล่อยให้ทะลักเพิ่ม จะทำให้อุตสาหกรรมอีก 30 กว่ากลุ่มจะได้รับผลกระทบ ต้องหยุดการผลิตและเลิกกิจการ
อีกเรื่องหนึ่งที่เอกชนกังวลคือ เรื่องค่าแรงที่จะเพิ่มจากที่ปรับไปก่อนหน้านี้ โดยเอกชนขอให้อาศัยกลไกไตรภาคีพิจารณา
ค่าเงินบาทอ่อนค่าถึง 37 บาท และมีแนวโน้มไปถึง 40 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐที่แข็งค่ามากนั้น เอกชนต้องการให้มีการดูแลให้มีเสถียรภาพ
เพราะแม้ว่าค่าบาทอ่อนจะทำให้สินค้าเกษตรส่งออกและกลุ่มท่องเที่ยวได้รับผลดี ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทย 35-36 ล้านคน
ผู้นำเอกชนอีกด้านหนึ่งมีความเห็นเรื่องการจัดกลุ่มกระทรวงเศรษฐกิจที่ต้องประกอบให้ครบด้วย คลัง คมนาคม อุตสาหกรรม พาณิชย์ พลังงาน
ซึ่งทั้งหมดต้องทำงานสอดประสานกัน แต่การควบคุมเป็นคนละพรรคกัน
จึงเกิดความท้าทายว่าคุณพิชัยจะสามารถบริหารจัดการให้รัฐมนตรีของพรรคต่างๆ ในกลุ่มเศรษฐกิจนั้นทำงานร่วมกันด้วยเป้าหมายเดียวกันหรือไม่อย่างไร
เหล่านี้คือคำถามใหญ่สำหรับ ครม.เศรษฐา 1/1 ที่จะไม่มีช่วง “ฮันนีมูน” และจะต้องแสดงผลงานที่จับต้องได้โดยไม่มีข้อแก้ตัวเรื่องงบประมาณล่าช้าหรืออุปสรรคจากการตรวจสอบของฝ่ายค้านอีก!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ
แหล่งค้ามนุษย์ใน 3 เหลี่ยมทองคำ
เขตเศรษฐกิจพิเศษหรือ SEZ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่โยงกับไทยนั้นกลายเป็นประเด็นเรื่องอาชญกรรมข้ามชาติที่สมควรจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยอย่างจริงจัง
ไบเดนหรือทรัมป์? เอเชียน่าจะเลือกใครมากกว่า?
ผมค่อนข้างมั่นใจว่าการดีเบตระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ วันนี้ (เวลาอเมริกา) จะไม่ให้ความสำคัญต่อเอเชียหรืออาเซียน
พรุ่งนี้ ลุ้นดีเบตรอบแรก โจ ไบเดนกับโดนัลด์ ทรัมป์
ผมลุ้นการโต้วาทีระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มิถุนายน) เพราะอยากรู้ว่า “ผู้เฒ่า” สองคนนี้จะมีความแหลมคมว่องไวในการแลกหมัดกันมากน้อยเพียงใด
เธอคือ ‘สหายร่วมรบ’ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค NLD คนสุดท้าย!
อองซาน ซูจีมีอายุ 79 ปีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา...และยังถูกจำขังในฐานะจำเลยของกองทัพพม่าที่ก่อรัฐประหารเมื่อกว่า 3 ปีที่แล้ว