ไฟไหม้ปทุมวัน

พฤติการณ์ ลากไส้แบบถ้าข้าชั่วเอ็งก็เลว ไม่คำนึงถึงองค์กร ไม่ห่วงภาพพจน์เกียรติยศศักดิ์ศรีเลือดสีกากี ที่สร้างสมกันมา จน "กรมปทุมวัน" เละไม่เหลือชิ้นดี

พอเปลี่ยนหัวโต๊ะใหม่ อะไรๆ ก็ดูเปลี่ยนแปลงไปหมด  ไม่เว้นแม้แต่เครื่องดื่มที่นำไปเสิร์ฟในวงประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2567 ที่ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมบริหารครั้งแรก มีผู้บังคับบัญชาระดับ รอง ผบ.ตร., ผู้ช่วย ผบ.ตร., ผู้บัญชาการ และผู้บังคับการในสังกัดสำนักงาน ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า เข้าร่วมประชุม รวมทั้งมีพิธีมอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติแก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2566 ให้แก่ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกจำนวน 4 นายนั้น ในห้องประชุมมีการเสิร์ฟกาแฟเย็นสตาร์บัคส์ตำรวจทุกนายที่อยู่ในห้องประชุม ซึ่งต่างจากครั้งก่อนๆ ที่เสิร์ฟกาแฟเย็นจากปันรักษ์ คาเฟ่บ้าง กาแฟเย็นจากตำรวจเลขาฯ บ้าง ๐

เป็นอีกหนึ่งกระจกสะท้อน "สีกากี" ที่น่าสนใจ ที่น่าจะนำข้อมูลมาขบคิด มาปรับใช้ เพื่อให้ภาพพจน์ตำรวจในสายตาประชาชนดีขึ้น เมื่อ "นพดล กรรณิกา" กรรมการผู้ทรงคุณวุฒินโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่ปรึกษามูลนิธิ สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ โชว์ผลสำรวจซูเปอร์โพลเรื่องตำรวจของประชาชน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่แสดงความเห็นเบื่อหน่ายข่าวนายตำรวจระดับสูงทะเลาะกัน พร้อมบอกสเปก "ผบ.ตร." ที่อยากได้มากที่สุด คือต้องเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต รองลงมาต้องสร้างความสามัคคีในองค์กรตำรวจ และไม่มีประวัติด่างพร้อย ไม่พัวพันกับเงินผิดกฎหมาย รวมทั้งชื่นชอบผลงานตำรวจที่เร่งติดตามจับกุมคนร้าย รองลงมาตรวจตราดูแลความปลอดภัยยามค่ำคืน และแก้ปัญหายาเสพติด ๐

ราวกับว่า “ผบ.เหล่าทัพ” นัดแนะกันเรียบร้อยแล้วว่า จะให้ความเห็นในประเด็นที่คณะทำงานร่างกฎหมายความมั่นคงของกลาโหม ที่ “สุทิน คลังแสง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่งตั้งขึ้นเสนอแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…) พ.ศ. … และร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่…) พ.ศ. …ให้สภากลาโหมรับทราบ โดยมีประเด็นสำคัญในการสกัดกั้นการรัฐประหาร เพราะทั้ง พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ไล่เลียงตามกันมาว่า “ต้องดูรายละเอียดก่อน” เพราะกว่าจะร่างเสร็จส่งเข้า ครม. จะมีการเพิ่มเติมรายละเอียดอะไรหรือไม่ ถ้า “ออกตัวแรง” ก็อาจจะเข้าทางบางฝ่ายได้  แต่ด้วยดีกรีของเนื้อหากฎหมาย “บิ๊กทิน”การันตีว่า “ซอฟต์” กว่าร่างแก้ไขของพรรคการเมือง ที่ตอนนี้มีหลายพรรคเสนอเข้ามาเหมือน “รุมกินโต๊ะ” เมื่อรวมกับร่างกฎหมายของภาคประชาชนที่จะเสนอเข้ามาประกบด้วยนั้น พอเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯ คงร้อนแรงไม่น้อย๐  

ใกล้ความเป็นจริงเข้ามาทุกที สำหรับโครงการปรับปรุงเส้นทาง “ภูทับเบิก-บ้านนาสะอุ้ง-บ้านหมากแข้ง” ตามที่  พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก อนุมัติให้ดำเนินโครงการปรับปรุงเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากชำรุดเสียหายมาเป็นเวลานาน ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ 1 ก.พ. -  พ.ค. 67 ระยะทางรวม 13.74 กิโลเมตร โดยมีกำลังพลและยุทโธปกรณ์จากหน่วยทหารช่าง หน่วยขึ้นตรงของกองทัพภาคที่ 3 อาทิ กองพลพัฒนาที่ 3 และกองพันทหารช่างที่ 8 กองพลทหารม้าที่ 1 เข้าดำเนินการ เป้าหมายเพื่อเป็นเส้นทางลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมดูแลพื้นที่ป่าไม้ และเพื่อบริหารจัดการควบคุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ  ทั้งยังทำให้ประชาชนในพื้นที่ใช้เส้นทางดังกล่าว สำหรับการลำเลียงพืชผลทางการเกษตร ช่วงที่ถนนชำรุดและมีฝนตก  ประชาชนได้รับความลำบากในการสัญจรไปมาเป็นอย่างมาก  ที่สำคัญคือพื้นที่บ้านหมากแข้งเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในอดีตอีกด้วย ๐

สัปดาห์ที่ผ่านมา “แม่ทัพรุ่ง” พล.ท. ชิษณุพงศ์ รอดศิริ แม่ทัพภาคที่ 1 ควง พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพน้อยที่ 1 และคณะ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ฯ (พล.ร.2 รอ.) และมณฑลทหารบกที่ 12 อ.เมืองปราจีนบุรี ทางหน่วยจัดสาธิตการฝึกเตรียมการ การฝึกซักซ้อม การถวายความปลอดภัยพระบรมวงศานุวงศ์ การปฏิบัติเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในระดับบุคคล ในการปฎิบัติการตั้งรับด้วยกระสุนจริง และการสาธิตของชุดปฏิบัติการทหารเสือ การปฏิบัติการบังคับม้า และขี่จักรยานยนต์ทางยุทธวิธี และชุดปฏิบัติการกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 2 ในภารกิจการแทรกซึมเข้าตี จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 1 และคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยม ตรวจสภาพความพร้อมรบการฝึกเป็นหน่วยกองพันผสม พล.ร.2 รอ. เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการฝึก ตามแผนเผชิญเหตุและแผนป้องกันประเทศ ณ พื้นที่ตรวจพร้อมรบ สนามบิน ค่ายจักรพงษ์ อ.เมืองปราจีนบุรี ...เรียกว่าจัดเต็มเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจ 100 เปอร์เซ็นต์ ๐