หนึ่งในกองกำลังชาติพันธุ์ที่กำลังกล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวางว่าได้ปักหลักสู้กับรัฐบาลทหารพม่าอย่างแข็งแกร่งคือ “อาระกัน” หรือ Arakarn Army (AA) ในรัฐยะไข่ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ ติดชายแดนบังคลาเทศ
แต่สถานการณ์การสู้รบในรัฐยะไข่ก็ซับซ้อนไม่น้อย ว่ากันว่ามีเงื่อนปมที่ทับซ้อนไม่แพ้เมืองเมียวดีแห่งรัฐกะเหรี่ยงเลยทีเดียว
นักข่าวอาวุโสที่เกาะติดข่าวเพื่อนบ้านมายาวนาน “แคน สาริกา” เล่าว่ายะไข่ ไม่มีทุนจีนสีเทา แต่มีประเด็น ‘เชื้อชาติ-ศาสนา’ ซ่อนอยู่ใต้ควันปืน
ศัตรู-มิตรไหลลื่นไปตามสถานการณ์ ตรงกับสัจธรรมที่ว่าไม่มีมิตรและศัตรูถาวรจริง ๆ
พล.ต.ตุน มัต นาย ผู้บัญชาการใหญ่ของ AA (คนที่ 2 จากขวา)
อีกทั้งมีประเด็นซ้อนเข้ามาคือ “โรฮิงญา”
เพราะเมื่อเพลี่ยงพล้ำในสนามรบและต้องเสียรี้พลไปเยอะ มิน อ่องหลายก็ตั้ง ‘กองทัพเมียนมาโรฮิงญา’ (MR rohingya)
ซึ่งเป็นกลยุทธ์ใหม่ของกองทัพพม่าที่ใช้ในรัฐยะไข่
กองทัพอาระกัน(AA) เรียกกองกำลังนี้ว่า ‘ผู้ก่อการร้าย’
เป็นเหตุให้ AA ประกาศเคอร์ฟิวส์เมืองบูตีด่อง-เมืองหม่องดอ เขตอิทธิพลของ AA เพื่อปกป้องกันความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สินชาวยะไข่(พุทธ) โดยอ้างว่ามีกลุ่มก่อการร้ายโรฮิงญา มาปันป่วนวุ่นวาย
ที่ผ่านมา กองทัพของชาวยะไข่(พุทธ) กับกองทัพปลดปล่อยมุสลิมโรฮิงญา(ARSA) ไม่ได้เป็นศัตรูกัน.
แต่วันนี้ มิน อ่องหลายจับมือหลวมๆ กับ ARSA ประจันหน้า AA ทำให้ AA ต้องใช้มาตรการเคอร์ฟิวส์ 2 เมืองในรัฐยะไข่
“แคน สาลิกา” ย้อนความว่าในรัฐยะไข่ มีกองกำลังติดอาวุธของ ‘ชาวโรฮิงญา’ 2 กลุ่มคือ กองทัพปลดปล่อยอาระกันโรฮิงญา(ARSA) และกองทัพอาระกันโรฮิงญา (ARA)
ทั้ง 2 องค์กรนี้ ไม่เคยเป็นพันธมิตรกับกองทัพอาระกัน(AA) ของชาวยะไข่(พุทธ)
เพจ ARSA เผยแพร่ภาพทหารเมียนมา มอบข้าวสารให้ชาวโรฮิงญา ในเมืองบูตีด่อง รัฐยะไข่ ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของ AA เมื่อ 24 เม.ย.67 หลังเกิดเหตุเผาบ้านเรือนชาวโรฮิงญาและยะไข่พุทธ
ในอดีต รัฐบาลเต่งเส่ง-กองทัพเมียนมาเคยประกาศขึ้นบัญชี ARSA เป็นผู้ก่อการร้าย แต่ชั่วโมงนี้ ARSA และ ARA เป็นพันธมิตรกับกองทัพเมียนมา เผขิญหน้า AA ในรัฐยะไข่
ตรงกับแนววิเคราะห์ว่าสงครามในเมียนมา มิตรและศัตรู ลื่นไหลไปตามผลประโยชน์ ยิ่งทำให้การแสวงหาทางออกที่ตอบโจทย์ทุกฝ่ายได้เป็นเรื่องยุ่งยากวุ่นวายอย่างยิ่ง
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้บัญชาการกองทัพ AA กล่าวหาว่าประเทศเพื่อนบ้านบางแห่งกำลังหนุนหลังระบอบการปกครองของทหารเมียนมาผ่านการเชื่อมโยงทางการค้าและการลงทุน
AA ไม่เพียงแต่จะสู้รบกับรัฐบาลทหารในรัฐยะไข่เท่านั้น แต่ยังประสานกำลังกับพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อปะทะกับทหารพม่าในรัฐฉานทางตอนเหนือ คะฉิ่น และรัฐชินทางตอนใต้ รวมถึงภูมิภาคสะกายและมาเกวตอนบน
เนื่องเพราะได้แสดงฝีมือในการสู้รบในระดับน่าประทับใจ นักรบอาระกันจึงได้ชื่อว่าเป็นทหารที่มีความช่ำชองและพร้อมถวายหัวในการเผชิญหน้ากับกองกำลังที่มีอาวุธมากกว่าตน
พลเรือนราว 180 รายถูกสังหารและกว่า 460 รายได้รับบาดเจ็บทั่วรัฐยะไข่และเมืองปาเลตวาทางตอนใต้ของรัฐชินตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วจากการโจมตีด้วยกระสุนปืนและการโจมตีทางอากาศของรัฐบาลทหาร
นี่เป็นข้อมูลจากสำนักงานประสานงานด้านมนุษยธรรมและการพัฒนาของ AA เอง
พล.ต. ตุน มัต นาย หัวหน้า AA กล่าวสุนทรพจน์ในวันกองทัพของกลุ่มเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่ารัฐบาลทหารพม่ากำลังเผชิญกับความแตกแยกอย่างหนัก เพราะมีความร้าวฉานระหว่างผู้นำกองทัพกับแกนนำของรัฐบาล
“รัฐบาลทหารมีความได้เปรียบในด้านอาวุธ กองทัพเรือ และทางอากาศ และได้รับการสนับสนุนจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทำธุรกิจกับรัฐบาลทหาร ช่วยให้รัฐบาลทหารดำเนินการรณรงค์ก่อการร้ายต่อพลเรือนและรักษาอำนาจไว้ได้” เขากล่าว
ผู้นำรัฐยะไข่ไม่ได้ระบุชื่อประเทศที่ถูกกล่าวหา แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่มีผู้คนคาดเดากันไม่ยากนัก
AA อ้างว่ากองกำลังของตนได้ยึดเกือบครึ่งหนึ่งของรัฐยะไข่ นับตั้งแต่เริ่มโจมตีรัฐบาลเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนปีที่แล้ว
โดยบอกว่านักรบฝ่ายตนด้วยความร่วมมือกันกลุ่มพันธมิตรได้ยึดฐานทัพทหารได้มากกว่า 170 แห่ง และเมืองปาเลตวาทางตอนใต้ของรัฐชินทั้งหมด โดยควบคุมเมืองทั้งหมด 6 เมืองและอีก 3 เมืองจาก 17 เมืองของรัฐยะไข่
กลุ่มติดอาวุธได้ล้อมรอบเมืองหลวงของรัฐ ซิตตะเว และเมืองจอก์พยู ซึ่งเป็นโครงการมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 3 แสนล้านบาท) ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยการลงทุนของจีน
AA ได้ทำการโจมตีเมืองแอน ซึ่งเป็นที่ตั้งกองบัญชาการตะวันตกของรัฐบาลทหารอีกด้วย หากเมืองนี้ถูกยึด ก็จะทำให้ AA ควบคุมทางใต้ของรัฐยะไข่อย่างเต็มที่
ฝ่ายต่อต้านกล่าวหาว่ารัฐบาลทหารโจมตีเป้าหมายพลเรือน ซึ่งรวมถึงโรงเรียน โรงพยาบาล และสถานที่ทางศาสนา ภายใต้การควบคุมของ AA
และได้ปิดกั้นการเชื่อมต่อการคมนาคม อินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ปฏิบัติการทางทหารต่อกองทัพรัฐบาลทหาร
ยะไข่จึงเป็นสนามรบอีกจุดหนึ่งของพม่าที่จะเป็นดัชนีวัดความสามารถในการทำศึกสงครามของฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายต่อต้านที่ต้องเกาะติดกันอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ
แหล่งค้ามนุษย์ใน 3 เหลี่ยมทองคำ
เขตเศรษฐกิจพิเศษหรือ SEZ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่โยงกับไทยนั้นกลายเป็นประเด็นเรื่องอาชญกรรมข้ามชาติที่สมควรจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยอย่างจริงจัง
ไบเดนหรือทรัมป์? เอเชียน่าจะเลือกใครมากกว่า?
ผมค่อนข้างมั่นใจว่าการดีเบตระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ วันนี้ (เวลาอเมริกา) จะไม่ให้ความสำคัญต่อเอเชียหรืออาเซียน
พรุ่งนี้ ลุ้นดีเบตรอบแรก โจ ไบเดนกับโดนัลด์ ทรัมป์
ผมลุ้นการโต้วาทีระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มิถุนายน) เพราะอยากรู้ว่า “ผู้เฒ่า” สองคนนี้จะมีความแหลมคมว่องไวในการแลกหมัดกันมากน้อยเพียงใด
เธอคือ ‘สหายร่วมรบ’ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค NLD คนสุดท้าย!
อองซาน ซูจีมีอายุ 79 ปีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา...และยังถูกจำขังในฐานะจำเลยของกองทัพพม่าที่ก่อรัฐประหารเมื่อกว่า 3 ปีที่แล้ว