ตามที่ได้ทำนายความจะเป็นไปในเมืองรัตนโกสินทร์ระหว่างวันคล้ายวันเกิดเมืองที่ 21 เมษายน 2567-21 เมษายน 2568 เป็นเวลาหนึ่งปี ในชื่อตอน-สุขสันต์วันเกิดเมืองหนึ่งปี-ไปแล้ว ว่าเป็นปีที่เมืองได้แนวบวกจากดาวใหญ่-เล็กมากกว่าแนวลบนั้น วันนี้ขอใช้หลักโหรเน้นไปที่แนวลบที่แฝงมาเพื่อความไม่ประมาท-เพลิดเพลินพอได้กระตุกไว้บ้าง
กล่าวคือในระยะหนึ่งปีที่เมืองได้เกณฑ์บวกมากนั้นมีอาการแฝงด้านลบแทรกมาด้วยอันจะส่งผลให้เคราะห์ร้ายทางเศรษฐกิจของเมืองรอเริ่มโผล่ขึ้นมาหลังวันเกิดเมืองที่ 21 เมษายน 2568 เป็นต้นไป
เกณฑ์ลบที่แทรกเข้ามาไม่คาดคิดดังกล่าวเกิดจากพฤหัสบดีจร(5)ซึ่งเปรียบได้กับหัวหน้าเทวดาประจำเมืองเป็นหลักสำคัญด้วยเรื่องโครงการตามนโยบายของรัฐบาลที่ค่าใช้จ่ายไม่คุ้มค่า-ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำในเมือง ตามหลักโหร-ไม่ได้คิดเองดังต่อไปนี้
1.ในพื้นดวงเดิมดวงของเมือง(ที่จะบอกแผนที่ชีวิตเมืองตั้งแต่เกิด-ไปจนถึงวันที่ไม่มีเมือง)นั้น พฤหัสบดีดวงเดิม(๕-เขียนด้วยเลขไทย)สถิตที่ราศีธนู-ภพที่เก้า-ศุภะแปลได้ง่ายๆคือโชคของเมือง ได้มาตรฐานเกษตราธิบดีที่ถือว่าเข้มแข็งมากคือมั่นคง-ได้โชคเสมอ ยิ่งขณะเมืองเกิดคือวินาทีที่วางเสาหลักเมืองดาวตัวนี้กำลังเดินถอยหลังหรือ-พักร-ยิ่งให้คุณมาก
2.แต่นอกจากเป็นตัวแทนโชคของเมืองแล้ว พฤหัสบดีนี้ยังเป็นตัวแทนหรือเจ้าบ้านของราศีมีน ภพที่สิบสอง-วินาสน์อันหมายถึง ค่าใช้จ่าย หรือความสูญเสียและค่าใช้จ่ายที่สูญเปล่าหรือไม่คุ่มค่า(รวมทั้งการฉ้อราษฎร์บังหลวง)ในเมืองอีกด้วย
เมื่อเจอกับเรื่องดาวที่เป็นเจ้าเรือนสองราศีเช่นนี้คนเรียนโหรมักจะงงว่าจะให้-น้ำหนักอิทธิพลด้านใดมากกว่ากัน แต่ มหาบรรเทา จันทรศร หรืออุตรภัทร ครูโหรผู้ล่วงลับได้อธิบายด้วยหลักอิทธิพลของดาวภาคกลางวัน-กลางคืน สรุปว่า
เมื่อพฤหัสบดีดวงเดิมของเมือง(๕)สถิตในราศีธนูถือเป็นภาคกลางวัน อิทธิพลเรื่องโชค-ศุภะที่จะให้เมือง(ตั้งแต่เกิดจนไม่มีเมือง)คิดเป็นร้อยละ 75 ส่วนราศีมีนคือวินาสน์หรือค่าใช้จ่ายหรือความสูญเสียค่าใช้จ่ายที่สูญเปล่าหรือไม่คุ้มค่าคิดเป็นร้อยละ 25
ตัวเลขนี้ผู้เขียนพูดในรายการคนดังนั่งเคลียร์ ที่สัมภาษณ์โดยอาจารย์อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ เมื่อเร็วๆนี้เป็นตัวเลข70ต่อ30 ซึ่งก็ใกล้เคียงกัน
3.ตั้งแต่ 30 เมษายน 2567 เป็นต้นไป ไม่ว่าพฤหัสบดีจร(5)จะให้คุณหลายด้านเพียงใดต่อเมืองทางเศรษฐกิจตามหลักอื่นในทางโหร เช่นจักรทีปนีจร-หลักภพผสมภพ-หลักทักษาจร ฯลฯ เพราะในภาคความเป็นจริงกำลังมีการใช้นโยบายกระตุ้นการขยายตัว(หนึ่งในอาการของพฤหัสบดี) เพราะเข้าเดินในราศีพฤษภ ภพที่สองดินแดนของการทำมาหาได้หรือเศรษฐกิจของเมือง-นั้น
แต่ด้วยราศีพฤษภนี้จัดเป็นหนึ่งในราศีภาคกลางคืน ฉะนั้นตัวเลขจึงมีโอกาสพลิกเป็นค่าใช้จ่าย หรือความสูญเสียและค่าใช้จ่ายที่สูญเปล่าหรือไม่คุ่มค่าร้อยละ75(หรือ70) เป็นโชคร้อยละ25(หรือ30)
4.หลักโหรพฤหัสบดี(๕)โดยพื้นดวงเดิมเมืองรัตนโกสินทร์มาจากหรือเป็นตัวแทนภพวินาสน์ รวมความหมายคือค่าใช้จ่าย การล้มละลาย ศัตรูลับ หากเป็นดวงชะตาคนเมื่อไปเดินในดินแดนการทำมาหาได้หรือเศรษฐกิจ(ภพที่สอง-กะฎุมภะ)เช่นนี้โหรจะเตือนให้ระวังค่าใช้จ่ายมโหฬาร หากฐานการเงินไม่แน่นหรือหาไม่เก่งก็มีโอกาสติดขัด-สะดุดหรือบางครั้งล้มละลายได้
เกณฑ์นี้จึงเป็นเกณฑ์เสี่ยงและลบด้านเศรษฐกิจทางโหรเพิ่มมาอีก
5.ที่ราศีพฤษภ-ภพที่สองอันเป็นดินแดนของเศรษฐกิจการทำมาหาได้ของเมืองนี้มีพระอังคารดวงเดิม(๓)ซึ่งเป็นดาวประจำชีพของเมืองสถิตอยู่ แล้วถูกพฤหัสบดีจร(5)มาทับเป็นเวลาประมาณ1ปีตั้งแต่ 30 เมษายน 2567-13 พฤษภาคม 2568
พฤหัสบดีจรเจอกับพระอังคารเช่นนี้อ่านได้หลายอย่าง เช่นคู่สมพล คู่วิจัย แต่อีกความหมายคือคู่ใช้จ่ายไม่เข้าเป้า เช่นถ้าเกิดในพื้นดวงชะตาเดิมจะเกิดอาการในชีวิตบ่อยๆที่หาเงินแทบเป็นแทบตายแล้วเอาไปซื้อของฟุ่มเพือย หรือลงทุนพลาดเป้าฯลฯ
จึงเมื่อปรากฎการณ์ดาวคู่นี้เจอกันเป็นเวลาหนึ่งปีในดวงเมือง เมืองจึง สุ่มเสี่ยงมากที่นโยบายรัฐบาลทำออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัว(อาการของพฤหัสบดี) หาเงินมาทำแทบเป็นแทบตายแต่จะใช้จ่ายไม่เข้าเป้า คล้ายตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
6.ราหูกาลกิณีจร(8)เจ้าของความมัวเมา-ความมืด-อวิชชา เดินในราศีมีน-ภพวินาสน์ของเมือง หนึ่งปีจากวันเกิดเมืองที่ 21 เมษายน 2567-21 เมษายน 2568 พลิกเป็นให้คุณทับเมือง เพราะหลักกาลกิณีจรตกภพวินาสน์ ผลคือลาภเหมือนมาดที่มุ่งไว้ เมืองอยากได้อะไรก็จะได้
แต่อีกหนึ่งหลักด้านลบที่แฝงเข้ามาคือการที่พระราหูจรเดินในภพวินาสน์นี้ทางโหรถือว่าแตกหรือพินทุบาทว์ด้วย จึงจะทำให้เมืองทุกข์ๆยากๆเพราะความโลภ-อยากได้-อยากแจก จนทำแล้วจะกระทบต่อเศรษฐกิจด้วยเพราะพระราหูจรทับพระศุกร์ดวงเดิม(๖)ตัวแทนเศรษฐกิจที่สถิตในราศีมีนตั้งแต่เมืองถือกำเนิด
เนื่องจากผู้เขียนไม่มีภูมิทางเศรษฐศาสตร์-การเงิน-การคลัง การจะติงเรื่องใดๆที่สุ่มเสี่ยงต่อเมืองด้านเศรษฐกิจจึงมีแต่หลักโหรเท่านั้นที่พอใช้เป็นอาวุธได้แม้จะสร้างความรำคาญให้ท่านที่ไม่ได้เรียนมาทางนี้
สรุปง่ายๆคือระหว่าง 21 เมษายน 2567-21 เมษายน 2568 ไม่ว่าเกณฑ์บวกทางเศรษฐกิจของเมืองจะมากแค่ไหน แต่คนทำนโยบายควรหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ไม่มุ่งกระตุ้นอย่างเดียว ควรฟังฝ่ายกระตุกบ้าง นี่ยังไม่นับรวมความอาเพศ-บวกมาก-ลบมาก ทางเศรษฐกิจที่จะเกิดได้ตลอดเวลาในเมือง)มฤตยูจร 0 เดินในราศีพฤษภ) ชวนให้สวิงสวาย
เพราะโหรท่านใดก็พอจะดูออกว่าอีกไม่นานตั้งแต่ 21 เมษายน 2568 เป็นต้นไป เคราะห์ทางเศรษฐกิจของเมืองเริ่มรอเกิด แล้วตามด้วยเคราะห์ใหญ่ที่จะตามมา
แต่หากจัดการดี-ระวังตัว-ระวังเงินตั้งแต่วันนี้เคราะห์ใหญ่ทางเศรษฐกิจของเมืองที่รออยู่จะกลายเป็นเล็กให้เราพอทนได้ไม่หนักหนาสาหัสเท่าช่วงต้มยำกุ้งปี2540
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลัคนามังกรกับเค้าโครงชีวิต ปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ลูกหลาน-ความรัก-ความหวัง ตลอดปียังอดเอาทุกข์นำหน้าชีวิตไม่ได้- ตั้งแต่พฤษภาคมเป็นต้นไประวังป
ลัคนาธนูกับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุขภาพอนามัย-หนี้สิน-ลูกน้องบริวาร และเกือบตลอดปีผู้หลักผู้ใหญ่อวยสถานะ-ยศ-เงินทองให้ แต่มีช่วงซ้อมรับทุกข์และการได้ความผิดที่ไม่ได้ก่อ
ผ่าดวงชะตา 9 บุคคลสำคัญ 'บิ๊กตู่' บวกลบรับเต็มๆปี 69 'แม้ว' สู้แล้วได้ 'อิ๊งค์' ฟันฝ่าให้ถึงวันเกิดปีหน้า
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี หลังจากผ่านปรากฏการณ์ต้องคลาดคลาพิจารณาให้เสียดายคือหลังเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 ลาออกจากทุกตำแหน่ง
ลัคนาพิจิกกับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่คู่ครองและหุ้นส่วน หลังพฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ชีวิตรับแนวลบเหตุการณ์ใหญ่ทยอยรออุบัติรอบทิศ เตรียมกลั่นพลังทั้งก๊อกสำรองสู้สุดๆ เพราะก๊อกหลักหรือดาวใหญ่ออกแนวลบ
ลัคนาตุลกับเค้าโครงชีวิตปี2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีที่มีระยะแตกแยกพี่น้อง หรือเพื่อนสนิท หรือยุ่งยากมรดก-การเงิน