มะกันทุ่ม 3.5 ล้านล้านบาท ให้ยูเครน, อิสราเอล, ไต้หวัน!

ผู้นำยูเครนคงไม่ได้คำตอบอะไรชัดเจนจากอเมริกาและมิตรประเทศตะวันตกเท่าใดนัก

เพราะโฆษกทำเนียบขาวอธิบายว่า “มันเป็นคนละสมรภูมิ และเป็นคนละบริบท”

คำตอบที่แท้จริงคงจะเป็นว่า สหรัฐฯ ไม่ต้องการจะเผชิญหน้ากับรัสเซียเหนือน่านฟ้ายูเครน

แต่สำหรับอิหร่านนั้น ตะวันตกคงจะเห็นว่ามีความน่ากลัวที่จะเปิดศึกกับอเมริกาได้น้อยกว่า

แต่คำถามของเซเลนสกีคงจะไม่ได้มีจำกัดเพียงแค่เรื่องนี้ เพราะมีสัญญาณชัดขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาว่า การสู้รบของฝ่ายตนกับรัสเซียกำลังทำท่าจะมีอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงลง

เพราะอาวุธจากตะวันตกไม่ส่งมอบตามสัญญา ขาดแคลนทั้งกระสุนและกระแส

แต่แล้วหลังจากที่วิวาทะกันในรัฐสภาสหรัฐฯ อยู่หลายเดือน เพราะกลุ่มก้อนในพรรครีพับลิกันหัวอนุรักษนิยมพยายามจะดึงเกม ไม่ยอมยกมือผ่านงบประมาณก้อนใหญ่นี้ แต่ท้ายที่สุดก็เจรจาตกลงกันได้

แพ็กเกจความช่วยเหลือที่มียอดเงินสูงถึง 95,000  ล้านเหรียญ หรือประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท ก็ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคการเมืองอย่างท่วมท้น

มีการลงมติถึง 4 วาระติดต่อกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพราะเป็นเรื่องที่ให้เงินสนับสนุนพันธมิตรสหรัฐฯ ทั้ง 3 ที่กำลังเผชิญกับภัยคุกคาม

รวมถึงร่างกฎหมายอีกฉบับหนึ่งที่อาจเป็นการเอาใจฝ่ายอนุรักษนิยม และอาจมีผลถึงกับต้องแบน TikTok ทั่วอเมริกา

เหล่าบรรดา สส.ทั้งสองพรรคยอมรับว่าจะต้องเดินหน้าช่วยยูเครนชนะสงครามรัสเซียให้ได้

กฎหมายฉบับนี้แบ่งเงินช่วยเหลือ 60,000 ล้านดอลลาร์ให้ยูเครน

26,000 ล้านดอลลาร์สำหรับอิสราเอล และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับพลเรือนในพื้นที่ขัดแย้ง รวมถึงฉนวนกาซา

และ 8,000 ล้านดอลลาร์สำหรับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งเน้นการช่วยไต้หวันเป็นหลัก

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการที่ช่วยปูทางในการขายทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัด เพื่อเอาเงินไปช่วยสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน

รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่

เมื่อวุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายชุดนี้ในสัปดาห์นี้ ก็จะส่งไปที่โต๊ะของประธานาธิบดีไบเดน

เป็นการปิดเกมของการต่อสู้กันในสภาคองเกรสสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อและร้อนแรงมาหลายเดือน

 “วันนี้สมาชิกของทั้งสองฝ่ายในสภาลงมติให้ส่งเสริมผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติของเรา และส่งข้อความที่ชัดเจนเกี่ยวกับพลังของผู้นำอเมริกันบนเวทีโลก" นายไบเดนกล่าว

ไม่กี่นาทีหลังการลงคะแนนเสียง ประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครนได้กล่าวขอบคุณสมาชิกสภานิติบัญญัติ โดยเอ่ยชื่อนายไมก์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน ว่า “สำหรับการตัดสินใจที่จะช่วยรักษาประวัติศาสตร์ไว้บนเส้นทางที่ถูกต้อง”

 “ประชาธิปไตยและเสรีภาพจะมีความสำคัญระดับโลกเสมอ และจะไม่มีวันล้มเหลวตราบใดที่อเมริกาช่วยปกป้องมัน” เซเลนสกีเขียนบนโซเชียลมีเดีย

 “ร่างกฎหมายช่วยเหลือที่สำคัญของสหรัฐฯ ที่ผ่านโดยสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้จะป้องกันไม่ให้สงครามขยายวงกว้างขึ้น ช่วยชีวิตผู้คนได้หลายพันคน และช่วยให้ประเทศของเราทั้งสองแข็งแกร่งขึ้น”

แน่นอนว่าปฏิกิริยาจากรัสเซียต่อการลงคะแนนเสียงในรัฐสภาสหรัฐฯ ที่ผ่านกฎหมายชุดนี้คือการประณาม...และประกาศพร้อมจะตอบโต้อย่างรุนแรง

โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ดมิทรี เปสคอฟ ปล่อยแถลงการณ์ออกมาอย่างดุเดือด

-เกี่ยวกับการยึดทรัพย์สินของรัสเซีย: "หากเป็นการยึดทรัพย์สินของเราจริงๆ สหรัฐอเมริกาจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเต็มๆ มอสโกจะใช้มาตรการตามผลประโยชน์ของเรา โดยไม่จำกัดเวลา"

-งบประมาณช่วยเหลือยูเครน: "การตัดสินใจนี้จะทำให้สหรัฐฯ ร่ำรวยยิ่งขึ้น และทำให้ยูเครนยังคงยากจนลง  ชาวยูเครนจะเสียชีวิตมากขึ้น"

ส่วนดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติและอดีตประธานาธิบดี บอกว่าเขาพอจะมองเห็นโอกาสที่จะเกิดสงครามกลางเมืองกับสหรัฐอเมริกา:

 “นี่เป็นการโหวตในสภาฯ ที่ทำให้พวกอเมริกันร่าเริง" :

ก) เพื่อสานต่อสงครามกลางเมืองของผู้ที่ถูกแยกออกจากกันในประเทศที่ครั้งหนึ่งเราเคยรวมกันเป็นหนึ่งเดียว (หมายถึงยูเครน)

ข) เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามครั้งนี้ให้มากที่สุด

เมดเวเดฟย้ำว่า “แน่นอนว่าเราจะชนะ แม้ว่าเงินช่วยเหลือจำนวน 61 พันล้านดอลลาร์จะยิ่งทำให้เกิดการนองเลือด ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไปอยู่กับศูนย์การผลิตทางทหารที่ไม่รู้จักพอของพวกเขา แต่พลังและความจริงอยู่กับเรา”

มือขวาของปูตินคนนี้ตอกย้ำอีกว่า

 “แต่เมื่อพิจารณาถึงการตัดสินใจแบบสร้างความหวาดกลัวต่อรัสเซียที่เรียกว่า Rusophobic ผมก็อดไม่ได้ที่จะภาวนาให้สหรัฐฯ จงได้ดำดิ่งเข้าสู่สงครามกลางเมืองครั้งใหม่โดยเร็วที่สุด ซึ่งผมหวังว่าจะแตกต่างอย่างมากกับสงครามระหว่างเหนือและใต้ในศตวรรษที่ 19 และจะใช้เครื่องบิน รถถัง ปืนใหญ่ MLRS ขีปนาวุธทุกประเภท และอาวุธอื่นๆ ซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่การล่มสลายอันน่าอับอายของอาณาจักรที่ชั่วร้ายแห่งศตวรรษที่ 21 นั่นคือสหรัฐอเมริกา"

พอเงินก้อนใหญ่ถูกทุ่มลงในสนามรบ 3 แห่งใหญ่...ก็พอจะมองเห็นถึงความร้อนแรงของการสู้รบที่จะมาเขย่าโลกได้อีกรอบ!