คำพูด บทสนทนา ในบทละครเรื่องพระเจ้า Richard ที่ 3 ของคุณปู่ William Shakespeare ที่กลายมาเป็นคำคม เป็นวาทะ อันถูกนำไปเอ่ยอ้างคราวแล้ว คราวเล่า คือคำพูดประโยคที่ว่า “No beast so fierce but knows some touch of pity, but I knows none, and therefore am no beast.” หรือประมาณว่า...แม้แต่สัตว์เดียรัจฉานที่แสนจะดุร้ายยังรู้จักความเมตตา-สงสาร แต่ด้วยเหตุเพราะข้าฯ ไม่รู้...ข้าฯ เลยไม่ใช่สัตว์เดียรัจฉาน อะไรทำนองนั้น...
โดยหนังแอ็กชันฮอลลีวูดเมื่อปี ค.ศ.1985 เรื่อง Runaway Train ของผู้กำกับหนังชาวรัสเซีย Andrei Konchalovsky ที่นำเค้าโครงมาจากผู้กำกับหนังชาวญี่ปุ่นอย่าง Akira Kurosawa อีกทีหนึ่ง ถึงกับนำไปพาดหัวในช่วงเกริ่นนำได้อย่างสอดคล้อง ต้องกัน กับเนื้อหา แก่นสาระ ของหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่พระเอกเจ้าบทบาท อย่าง Jon Voight ได้กระทำการลงมือ ลงตีน กระทืบ เพื่อนโจร ผู้เคยยกย่อง เทิดทูน บูชาตัวเอง ชนิดไม่ต่างไปจาก ไอดอล วีรบุรุษประจำใจ อย่าง Eric Roberts แบบแทบจะไร้ความสงสาร ความเมตตาใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่จะสบถคำพูด คำอุทานออกมาว่า ก็เพราะกู เพราะข้า...คือ มนุษย์ ไง!!! เลยถึงได้เหี้ยม ได้โหด ประมาณนี้...
ส่วนในรายละเอียดของเรื่อง มันจะลึกซึ้ง ดื่มด่ำ น่าคิด น่าสะกิดใจ หรือน่าประทับใจกันไปถึงขั้นไหน บรรดา คอหนัง ทั้งหลายคงต้องควานหามาดูกันเอาเอง แต่สิ่งที่อยากจะหยิบเอามาพูดถึง เอ่ยถึงในที่นี้ ก็คือเรื่องของความเมตตา-สงสารที่อาจถือได้ว่า น่าจะเป็นเสมือนหนึ่ง สัญชาตญาณ ของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย แม้กระทั่ง สัตว์เดียรัจฉาน ที่สุดแสนจะดุร้ายเพียงใดก็เถอะ เพียงแต่มันอาจถูกปิดบัง หรือครอบงำ เอาไว้ด้วยอารมณ์-ความรู้สึกต่างๆ จนไม่อาจปรากฏออกมาให้เห็นกันแบบชัดๆ จะจะ หรือโดยสิ่งที่บรรดาพวก พระๆ ทั้งหลาย ท่านเรียกว่า กิเลส หรือ อวิชชา อะไรประมาณนั้น...
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...บรรดามนุษย์-มนา อย่างเราๆ-ทั่นๆ ที่มีขีดความสามารถในการ ปรุงแต่ง อารมณ์-ความรู้สึกต่างๆ นานาได้ค่อนข้างสลับซับซ้อน ทั้งลึก ทั้งกว้าง ยิ่งกว่าบรรดาสัตว์เดียรัจฉานทั้งหลาย ไม่รู้จะกี่เท่าต่อกี่เท่า สิ่งที่เป็นเสมือน สัญชาตญาณ ไม่ว่าจะเรียกว่าความรัก ความเมตตา-สงสาร มันเลยถูกกดทับ ปิดบัง หรือถูกครอบงำเอาไว้ แบบแทบไม่หลุดออกมาให้เห็นแม้แต่นิดๆ เอาเลยก็เป็นได้ ส่งผลให้ผู้ซึ่งมีสถานะเป็นมนุษย์-มนาบางคน บางราย เต็มไปด้วยความโหดความเหี้ย...ย์ย์ย์มม์ม์ม์ หนักซะยิ่งกว่าสัตว์เดียรัจฉาน ไม่รู้จะกี่เท่าต่อกี่เท่า...
ยิ่งเป็นอารมณ์-ความรู้สึก...ที่เกิดจากการมุ่งเอาชนะ-คะคานซึ่งกันและกัน ไม่ว่าด้วยพลังอำนาจ ด้วยเหลี่ยมเล่ห์เพทุบายด้วยแผนการณ์ต่างๆ นานา ทั้งประเภทหยาบกระด้าง หรือละเอียดประณีตเพียงใดก็ตามที แต่สุดท้าย..เลยส่งผลให้ตัวเองหลงลืม สัญชาตญาณ ที่เคยติดตัวเอาไว้นับตั้งแต่ยังเป็นแค่ สัตว์เดียรัจฉาน กลายไปเป็น มนุษย์ ผู้ปราศจากความรัก ความเมตตา ความสงสารใดๆ อีกต่อไป อันสามารถประสบพบเห็นได้ตั้งแต่ระดับปุถุชนคนธรรมดา ไปจนถึงผู้มีอำนาจราชศักดิ์ มีฤทธิ์ มีเดช โดยเฉพาะบรรดา นักการเมือง ทั้งหลาย ที่ต้องหมกมุ่น คร่ำเคร่ง อยู่ในสมรภูมิแห่งการเอาชนะ-คะคานซึ่งกันและกันมาโดยตลอด ยิ่งเป็นอะไรที่สามารถเห็นได้ สัมผัสได้โดยไม่ยาก...
ด้วยเหตุนี้...จึงไม่ถือเป็นเรื่องแปลก ที่ไม่ว่า การเมืองไทย หรือ การเมืองโลก ก็แล้วแต่ เลยเต็มไปด้วยตัวละครประเภท Runaway Train ที่เหี้ยมแสนเหี้ยม โหดแสนโหด หรือที่ต่างหลงลืม สัญชาตญาณขั้นพื้นฐาน อันเคยผนึกติดตัวอยู่ในอารมณ์-ความรู้สึกมาครั้งตั้งแต่ยังเป็นเพียง สัตว์เดียรัจฉาน ต้องกลายไปเป็น สัตว์การเมือง ที่น่าเกลียด น่าทุเรศเวทนา น่าขนลุก-ขนพองเอามากๆ ไม่ว่าสัตว์การเมืองเหล่านั้นจะเรียกขานตัวเองในนาม คนรุ่นเก่า หรือ คนรุ่นใหม่ ก็ตามที แต่ถ้าดันหลงลืมสิ่งที่แม้แต่สิ่งที่เดียรัจฉาน ยังสามารถรู้สึกได้ สัมผัสได้ อันได้แก่ ความรัก ความเมตตา-สงสาร เสียอย่างแล้ว สัตว์เหล่านั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากกันซักเท่าไหร่ คือย่อมเป็นอะไรที่เลวร้ายซะยิ่งกว่าเดียรัจฉาน ไม่รู้จะกี่เท่าต่อกี่เท่า...
เหตุที่ต้องหยิบเอาเรื่องราวเหล่านี้...มาพูดจาว่ากล่าวเอาไว้ ณ ที่นี้ ก็คงไม่มีอะไรมากมายหรอกทั่น เพียงแต่สิ่งที่เรียกว่า การเมือง ไม่ว่าในระดับบ้านเรา หรือระดับสังคมโลกก็แล้วแต่ มันดูจะหนักไปทางที่ทำให้ผู้ซึ่งปรารถนาและต้องการที่จะเข้าไปหมกมุ่น วุ่นวาย อยู่กับแวดวงเหล่านี้ มักหลงๆ ลืมๆ สัญชาตญาณขั้นพื้นฐาน ในลักษณะดังกล่าวลงไปเรื่อยๆ มุ่งที่จะเอาชนะ-คะคานซึ่งกันและกัน อย่างไม่คิดลดรา-วาศอกเอาเลยแม้แต่น้อย ดังนั้น...ไม่ว่าผู้ที่ถูกจัดอยู่ในประเภทล้าหลังอย่างพวก อนุรักษนิยม หรือผู้ที่ถือว่าตัวเองก้าวหน้าอย่างพวก เสรีนิยม ทั้งหลาย แต่ถ้าหากปราศจากเสียซึ่งความรัก ความเมตตา ติดปลายนวมเอาไว้บ้างแล้ว ก็คงไม่ต่างอะไรไปจากผู้ที่ไม่ใช่สัตว์เดียรัจฉาน เพียงเพราะ ข้าฯ ไม่รู้ นั่นเอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
4 กลุ่มชั่วน่ากลัวเป็นนักหนา กลุ่มที่ 5 ยิ่งน่าสยอง
ณ เวลานี้ หลายคนมองประเทศไทยด้วยความห่วงใยว่า ประเทศไทยของเราที่เป็นที่ชื่นชมของชาวโลก ทั้งการลงทุน การทำมาค้าขาย การเข้ามาพำนักยามชรา และการมาท่องเที่ยว
ลิ้นงู...ที่อยู่ในปากงู!!!
ถึงแม้นจะพะงาบๆ อยู่ห่างๆ...ไม่มีโอกาสได้ลงลึก เจาะลึก ในรายละเอียด ด้วยเหตุเพราะสุขภาพ สังขาร ร่างกาย และอาจด้วยความห่างเหิน ห่างหาย กับใครต่อใครมานานแสนนาน
ตั้ง 'นายพัน' สีกากีเริ่ม
อะไรจะเร็วขนาดนั้น! โผแต่งตั้ง "ตำรวจ" ระดับ "นายพันสีกากี" เริ่มขยับนับหนึ่งกันแล้ว ทั้งๆ ที่ระดับ "นายพล" ล็อตแรก ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)
ลัคนาตุลกับเค้าโครงชีวิตปี2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีที่มีระยะแตกแยกพี่น้อง หรือเพื่อนสนิท หรือยุ่งยากมรดก-การเงิน
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม