![cafaeDam](https://storage-wp.thaipost.net/2024/03/cafaeDam.jpg)
ความเคลื่อนไหวตรงข้ามชายแดนไทยฝั่งพม่ามีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา และความไม่แน่นอนนี้เองที่ทำให้รัฐบาลไทยต้องให้ความสำคัญกับการสร้างกลไกติดตามอย่างมีประสิทธิภาพ
การตั้ง “คณะทำงานพิเศษ” ที่มีรัฐมนตรีต่างประเทศเป็นหัวหน้า และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นเลขาฯ นั้น อาจจะยังไม่มีความชัดเจนเพียงพอที่จะทำหน้าที่เป็น War Room อย่างจริงจังและต่อเนื่อง
เพราะฝ่าย KNU ได้ออกแถลงการณ์ประกาศจะทำงานร่วมกับฝ่ายไทย ทำให้เมียวดีเป็น “เขตปลอดภัย” หรือ Safe Zone นั้นจำเป็นจะต้องมีการประสานกับฝ่ายต่างๆ ให้เกิดความเข้าใจตรงกัน เพื่อไม่ให้มีการสู้รบที่จะมีผลกระทบต่อความมั่นคงของไทยในวันข้างหน้าอีก
หลังจากการสู้รบมาหลายเดือนในช่วงหลัง และฝ่ายต่อต้านอ้างว่าสามารถเข้าควบคุมเมียวดีได้เบ็ดเสร็จแล้วก็มีแถลงการณ์ออกเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2567 ที่น่าสนใจ โดยคณะกรรมการกลาง สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU)
เป็นแถลงการณ์ว่าด้วยเสถียรภาพ สันติภาพ และความปลอดภัยของสาธารณะบริเวณชายแดนเมียวดีและชายแดนไทย-พม่า/เมียนมา
โดยระบุว่าสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง นำกองกำลังฝ่ายต่อต้าน รวมทั้งกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) องค์กรป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNDO) และกองกำลังประชาชน (PDF) ได้ยึดฐานบัญชาการยุทธวิธี Thingannyinaung ภายใต้กองบัญชาการตะวันออกเฉียงใต้ของกองทัพพม่า เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567
ต่อมาในวันที่ 10 เมษายน 2567 กองกำลังฝ่ายต่อต้านก็ได้ยึดกองพันทหารราบที่ 275 ที่ประจำการอยู่ในเมืองเมียวดี อย่างไรก็ตาม ทหารบางส่วนจากกองพันทหารราบที่ 275 ได้ล่าถอยไปยังสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ซึ่งได้สร้างที่กำบังและหลบภัยอยู่ใกล้สะพาน
แถลงการณ์บอกด้วยว่า นับตั้งแต่ยึดฐานได้ กองกำลังพันธมิตรกำลังปฏิบัติการทางทหารเพื่อสกัดกั้นและขัดขวางกองกำลังเสริมที่ส่งมาโดยสภาบริหารแห่งรัฐพม่า (SAC) เพื่อไม่ให้สูญเสียเมืองเมียวดี มีภารกิจเพื่อที่จะให้เมียวดีปลอดภัย โดยแจ้งประชาชนให้อยู่อาศัยและเดินทางโดยปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัย
“เมื่อเมียวดีอยู่ในภาวะที่ปลอดภัยแล้ว KNU โดยการมีส่วนร่วมของคนในท้องถิ่นจะกำหนดการบริหาร ป้องกันธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ธุรกิจเถื่อน และการค้ามนุษย์ และจะดำเนินการด้านความมั่นคง การบังคับใช้กฎหมาย บริการสาธารณะที่จำเป็น และขนส่งสินค้าในพื้นที่เมียวดีจากตำแหน่งที่เป็นไปได้ แม้จะมีความท้าทายก็ตาม” แถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์ระบุว่า KNU มีจุดยืนดังต่อไปนี้
1.KNU มีความกังวลอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายแดนไทย-พม่าทั้ง 2 ฝั่ง ความมั่นคงของชายแดน และการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และเราจะพยายามอย่างเต็มที่
2.KNU มุ่งมั่นที่จะรักษาและฟื้นฟูความปลอดภัยและเสถียรภาพข้ามพรมแดน เรากำลังเตรียมการที่จำเป็นเพื่อความต่อเนื่องของกิจกรรมข้ามพรมแดนตามกฎเกณฑ์ที่สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของภูมิภาค
3.เพื่อฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคงของประชาชนที่อาศัยอยู่ทั้ง 2 ฝั่งชายแดนไทย-พม่า/เมียนมา KNU กำลังทำงานเพื่อให้บรรลุความร่วมมือที่มีความหมายกับรัฐบาลไทย องค์กรพันธมิตรระดับท้องถิ่นและระหว่างประเทศ รวมถึงชาวกะเหรี่ยงที่มีชายแดน องค์กรและเชื่อมโยงกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
4.เราเคารพและให้เกียรติสหายของเราทุกคนที่สละชีวิต เลือด และหยาดเหงื่อเพื่อกำจัดเผด็จการทุกรูปแบบ รวมถึงเผด็จการทหาร และสถาปนาสหพันธรัฐประชาธิปไตยที่นำโดยพลเรือน ซึ่งเคารพความหลากหลายและรวมทุกคน (inclusion) โดย KNU จะยังคงต่อสู้เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกับองค์กรชาติพันธุ์และพันธมิตรประชาธิปไตย และขอเรียกร้องให้ประชาชนชาวกอทูเล (รัฐกะเหรี่ยง) และพม่า/เมียนมา มีส่วนร่วมและต่อสู้อย่างไม่หยุดยั้ง
อีกด้านหนึ่งที่อยู่ใกล้กับชายแดนไทยเช่นกันคือ ด้านรัฐคะเรนนี ซึ่งก็มีความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญต่อการวางยุทธศาสตร์ของรัฐบาลไทย
เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2567 สื่อออนไลน์พม่า Khit Thit Media รายงานข่าวว่า กองกำลังฝ่ายต่อต้านสภาบริหารรัฐพม่า (SAC) สามารถยึดฐานทหารพม่าในรัฐคะเรนนี ประเทศพม่า ตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เข้ามาถึงผาซองได้ทั้งหมด และจับกุมทหารพม่าได้ 58 นาย รวมทั้งผู้บังคับกองพัน
สื่อออนไลน์พม่าอ้างอิงคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่กลุ่มดาวแดง KNPLF (Karenni Nationalities People’s Liberation Front) หรือกาลาลาตา ว่าทหารพม่า 58 นาย รวมทั้งผู้บังคับกองพันถูกโจมตีขณะที่ขบวนรถกำลังจะมาถึงเมืองผาซอง
โดยเมื่อวัน 11 เมษายน เวลาประมาณ 04.00 น. กองทหารราบของกองทัพพม่า SAC ซึ่งมีกำลังมากกว่า 100 นาย กำลังเดินทัพจากเมืองโบลาเคไปยังเมืองผาซองเพื่อเสริมกำลัง ถูกโจมตีโดยกองทัพปฏิวัติคะเรนนี
“เป็นการต่อสู้ตลอดทั้งวัน ทหารพม่าถูกจับทั้งกองแล้ว ทั้งผู้บังคับกองพัน และนาวาตรี รวม 58 นาย มีเชลยศึกได้รับบาดเจ็บบ้าง” เจ้าหน้าที่กองกำลัง KNPLF กล่าว
การโจมตีดังกล่าวร่วมโดยแนวร่วมปลดปล่อยประชาชนกะเรนนี -KNPLF กองกำลังดาวขาว KNSO กองทัพคะเรนนี (Karenni Army-KA) กองกำลังป้องกันคะเรนนี (KNDF) และกองทัพประชาชน (PDF) โดยกองพันพม่าที่ 134 และ 135 ของ SAC ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองผาซอง ถูกกองทัพปฏิวัติคะเรนนีสกัดกั้นและโจมตีเป็นเวลานานกว่า 2 เดือน
หากกลุ่มต่อต้านต่างๆ สามารถพูดคุยกันได้เพื่อหาทางสร้างสูตรสันติภาพได้ ไทยก็อาจจะเป็นหนึ่งในประเทศที่จะประสานให้เริ่มกระบวนการเจรจาสันติภาพได้
แต่ต้องยอมรับว่าวิกฤตพม่าเป็นเรื่องซับซ้อนเกินกว่าที่จะสรุปง่ายๆ ว่าเป็นเรื่องของการต่อรองระหว่างกองทัพพม่ากับฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยที่นำโดย อองซาน ซูจี เท่านั้น
ความขัดแย้งที่กลายเป็นสงครามกลางเมืองวันนี้ยืดเยื้อมากว่า 70 ปีแล้ว ประเด็นหลักคือการที่กลุ่มชาติพันธุ์กว่า 10 กลุ่ม ต้องการระบบการปกครองแบบสหพันธรัฐที่ตนมีสิทธิ์ในการปกครองตนเองในระดับสูง
ดังนั้นหากไทยจะเสนอตัวเป็น “ตัวกลาง” ในการแสวงหาสันติภาพก็ต้องเข้าใจความลุ่มลึกและซับซ้อนของปัญหา
อีกทั้งต้องระดมผู้มีส่วนได้เสียในประเทศ และ “ตัวละครสำคัญ” อื่นๆ เช่น อาเซียน, จีน, อินเดีย, สปป.ลาว (ประธานอาเซียนหมุนเวียนปีนี้) และแม้แต่สหรัฐและสหภาพยุโรปเพื่อให้การแก้ไขปัญหาครั้งนี้ “ครอบคลุมและยั่งยืน” จริงๆ
การเริ่มต้นเล็กๆ ที่จะมี “เขตปลอดภัย” ตรงข้ามฝั่งไทยเพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้ชาวพม่าอย่างเปิดเผยและโปร่งใสอาจจะเป็นก้าวเล็กๆ เพื่อการสร้างความไว้วางใจต่อกันและกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ
แหล่งค้ามนุษย์ใน 3 เหลี่ยมทองคำ
เขตเศรษฐกิจพิเศษหรือ SEZ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่โยงกับไทยนั้นกลายเป็นประเด็นเรื่องอาชญกรรมข้ามชาติที่สมควรจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยอย่างจริงจัง
ไบเดนหรือทรัมป์? เอเชียน่าจะเลือกใครมากกว่า?
ผมค่อนข้างมั่นใจว่าการดีเบตระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ วันนี้ (เวลาอเมริกา) จะไม่ให้ความสำคัญต่อเอเชียหรืออาเซียน
พรุ่งนี้ ลุ้นดีเบตรอบแรก โจ ไบเดนกับโดนัลด์ ทรัมป์
ผมลุ้นการโต้วาทีระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มิถุนายน) เพราะอยากรู้ว่า “ผู้เฒ่า” สองคนนี้จะมีความแหลมคมว่องไวในการแลกหมัดกันมากน้อยเพียงใด
เธอคือ ‘สหายร่วมรบ’ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค NLD คนสุดท้าย!
อองซาน ซูจีมีอายุ 79 ปีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา...และยังถูกจำขังในฐานะจำเลยของกองทัพพม่าที่ก่อรัฐประหารเมื่อกว่า 3 ปีที่แล้ว
อองซาน ซูจี: เสียงกังวล จากลูกชายในวันเกิดที่ 79
วันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมาคือวันเกิดที่ 79 ของอองซาน ซูจี...ในวันที่เธอยังถูกคุมขังเป็นปีที่ 4 หลังรัฐประหารโดยพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2021