ในข่าวร้าย ย่อมมีข่าวดีอยู่เสมอ
ขณะนี้โลกหวาดผวากับ โอมิครอน คาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยมากกว่า เดลตา แต่ผู้เสียชีวิตจะน้อยกว่า
กระนั้นก็ตาม การมาของโอมิครอน สร้างผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งในแง่เศรษฐกิจและสังคม
แต่ในข่าวร้ายนี้พอจะมีข่าวดีอยู่บ้าง และเป็นข่าวชี้เป็นชี้ตายเกี่ยวกับโอมิครอน
จุดเริ่มต้นของโอมิครอนคือประเทศในโซนแอฟริกาใต้ ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
รัฐบาลแอฟริกาใต้แถลงการณ์ว่า ข้อมูลจากแผนกสุขภาพระบุว่า ประเทศแอฟริกาใต้ได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดของการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอนแล้ว
ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ ๒๕ ธันวาคม ลดลง ๒๙.๗%
พบผู้ติดเชื้อ ๘๙,๗๘๑ ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่พบ ๑๒๗,๗๕๓ ราย
ขณะที่ตัวเลขผู้เข้ารักษาในโรงพยาบาลลดลงในทุกจังหวัด ยกเว้นเพียงจังหวัดเวสเทิร์นเคปจังหวัดเดียว
อัตราการเสียชีวิตลดลง
รัฐบาลแอฟริกาใต้จึงยกเลิกคำสั่งเคอร์ฟิวตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตี ๔ โดยมีผลทันที
แต่การรวมตัวกันยังจำกัดไม่เกิน ๑ พันคนในตัวอาคาร และไม่เกิน ๒ พันคนในสถานที่กลางแจ้ง
รวมทั้งกำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะตามเดิม
โอมิครอน แม้จะแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว แต่มีอัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่ำกว่าการระบาดครั้งก่อนๆ มาก
หากย้อนกลับไปดูกำเนิดของโอมิครอน ในประเทศบอตสวานา และแอฟริกาใต้ นั้น เพิ่งจะพบเชื้อตัวนี้เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนมานี่เอง
แม้การระบาดจะเกิดขึ้นไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว แต่ที่ประเทศต้นตอ กลับอยู่ในช่วงขาลงมาตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม
ที่อเมริกาผู้เชี่ยวชาญคาดว่า โอมิครอน อาจถึงจุดสูงสุดปลายเดือนมกราคมนี้เช่นกัน
มีแนวโน้ม โอมิครอน จะไม่สร้างความเสียหายเท่า เดลตา ฝั่งยุโรปแม้หลายประเทศจะติดเชื้อกันหลักแสนคนต่อวัน แต่เริ่มมีมาตรการผ่อนคลายออกมา
เช่น ฝรั่งเศส โอลิวิเยร์ เวรอง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ประกาศว่า ฝรั่งเศสเตรียมลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-๑๙ เหลือ ๕-๗ วัน
จากเดิมที่ต้องกักตัว ๑๐ วัน
แนวคิดของฝรั่งเศสคือ โอมิครอน แพร่กระจายได้รวดเร็วเกินกว่าที่จะควบคุมได้ นอกเสียจากว่าจะกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด
ฝั่งสหรัฐเอง ก่อนหน้านี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ได้ประกาศคำแนะนำให้ลดระยะเวลาในการกักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-๑๙ ที่ไม่แสดงอาการ เหลือเพียง ๕ วัน จากเดิม ๑๐ วัน
ทั้งๆ ที่สหรัฐติดเชื้อ ๒-๓ วันรวมล้านคน
ทุบสถิติโลก!
ฉะนั้นแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลหลายๆ ประเทศเริ่มรู้จัก โอมิครอน มากขึ้น และรู้ว่าต้องจัดการอย่างไรไม่ให้มีผลกระทบกับเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ของประชาชนมากจนเกินไป
สำหรับประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ถึง ๑ มกราคม ๒๕๖๕ พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนสะสม ๑,๕๕๑ ราย
แบ่งเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ๗๗๙ ราย
ติดในประเทศ ๗๗๒ ราย
กระจายไปใน ๔๗ จังหวัด
จังหวัดที่พบมากที่สุด
ชลบุรี ๔๔๒ ราย
กรุงเทพมหานคร ๓๙๕ ราย
กาฬสินธุ์ ๑๙๕ ราย
ภูเก็ต ๑๒๕ ราย
และร้อยเอ็ด ๑๑๙ ราย
ตัวเลขนี้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า การระบาดในประเทศได้เริ่มในอัตราเร่งที่เร็วขึ้นแล้ว
ข่าวดีคือ เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โรคไม่รุนแรง
แต่ก็ประมาทไม่ได้
ไม่ป่วยย่อมดีกว่าป่วย
ฝั่งเอเชียอยู่ในช่วงระบาดน้อยกว่าอเมริกา-ยุโรป เช่นเดียวกับกรณีการระบาดของเดลตา
ฉะนั้นช่วงอเมริกา-ยุโรป เริ่มสงบ ฝั่งเอเชียจะเป็นช่วงขาขึ้น การจัดการกับโควิดจึงแตกต่างกันตามเงื่อนไขด้านเวลา
รัฐบาลไทยประกาศมาตรการแรกๆ คือ work form home ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เป็นเวลา ๑๔ วัน เพื่อตัดวงจรการระบาด
ที่ชลบุรี จะเป็นกรณีศึกษา การจัดงานใหญ่ๆ คนเยอะๆ ควรจะงด ถ้าจะจัดต้องมีมาตรการเข้มงวด หากพลาดคือคลัสเตอร์ใหม่ ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหญ่
ใครคิดจะจุดม็อบ ควรจะรอให้ โอมิครอน อยู่ในช่วงขาลงก่อน
แต่หากอยากท้าทาย ควรประกาศให้ชัดว่า พร้อมที่จะควักเงินรักษาตัวเอง อย่าให้เป็นภาระต่อภาษีประชาชนโดยรวม
ข้อมูลจาก ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล พูดถึงแอฟริกาใต้สถานการณ์ดีขึ้น ผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตลดลงมาก เนื่องจากในแอฟริกาใต้มีการติดเชื้อตามธรรมชาติจำนวนมาก
“...โอมิครอนดูโดยภาพรวมหลังจากทยอยแพร่ระบาดทั่วโลก จากนั้นอาการและผู้ติดเชื้อจะลดลงอย่างรวดเร็ว ไม่เหมือนเดลตา
ส่วนการใช้วัคซีนต่อไปในอนาคตอาจจะต้องคำนึงเส้นทางการติดเชื้อด้วย จะเห็นว่ากรณีที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะหรือเป็น MRNA เน้นเฉพาะส่วนของหนามแหลมอย่างเดียว จึงยังมีความสุ่มเสี่ยง เพราะโอมิครอนกลายพันธุ์ในส่วนหนาม แอนติบอดีจับไม่ได้ แอนติบอดีสังเคราะห์หลายตัวก็ทำงานไม่ได้
ตัวโอมิครอนจึงเปรียบเสมือนตัวที่เข้ามาเติมเต็ม ทำให้กลายเป็นวัคซีนครบสูตร ทั้งเชื้อตาย เชื้อไวรัสเป็นพาหะ MRNA และเชื้อเป็นที่อ่อนกำลัง
อาจเรียกได้ว่าเป็นซูเปอร์วัคซีนที่ดึงเอาส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนามแหลม เปลือกของไวรัสเข้ามาด้วย แล้วฉีดเข้าไป”
ความโดยสรุปคือ โอมิครอนจะแพร่เชื้อเร็ว จากนั้นจะลดลงเร็วเช่นกัน
แม้จะยืนยันไม่ได้ว่า โอมิครอน คือบทอวสานของโควิดหรือไม่ เพราะธรรมชาติของไวรัสยิ่งกลายพันธุ์ยิ่งอ่อนแอลง เป็นการปรับสภาพให้สามารถอยู่รอดได้
แต่อย่างน้อยโลกได้เห็นว่า โอมิครอน ไม่ได้เลวร้ายไปกว่า เดลต้า หนำซ้ำอัตราการตายน้อยกว่ากันมาก
แถมท้ายคนละครึ่งเฟส ๔ มาแน่นอนแล้ว เริ่มต้น ๑ มีนาคม ๒๕๖๕
กติกาง่ายกว่าเดิม
ใครที่ได้สิทธิ์ในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ ๓ ซึ่งมีอยู่ร่วมๆ ๒๘ ล้านราย แค่กดยืนยันตัวตนอีกครั้งผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง
ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่
ส่วนผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียน ต้องสมัครผ่านทางเว็บไซต์
ค่าเงินบาทในกระเป๋าแข็งค่าขึ้นมาอีกรอบครับ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทลายทุนผูกขาด
ชื่นใจ... ชื่นใจในความรวยของเศรษฐีไทยครับ วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันปีนี้เป็นปีที่ ๓๑ แล้วครับ
นายกฯ ฝึกงาน
ขยี้ตาสิบที... แถลงผลงานในรอบ ๓ เดือนแน่นะ "อิ๊งค์" ไปดูอีกทีกับการแถลงข่าววานนี้ (๑๒ ธันวาคม)
ชะตากรรม 'นายกฯ ชินวัตร'
วันนี้ (๑๒ ธันวาคม) นายกฯ อิ๊งค์ แถลงผลงาน อยากรู้ว่าผลงานมีอะไรบ้าง เชิญเฝ้าหน้าจอสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที หรือช่อง ๑๑ นั่นแหละครับ
ในวันที่ 'ส้ม' โหยหาเพื่อน
ไอ้เสือถอย! ไปไม่ถึงสุดซอยครับ "หัวเขียง" ยอมเลี้ยวกลับเสียก่อน
ง่ายๆ แค่เลิกโกง
อาจถึงขั้นเปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาลกันเลยทีเดียวครับ... หากพรรคเพื่อไทย จะเอาให้ได้ กับร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ด้วยการจับยัดเข้าสภาฯ ก็สามารถยึดอำนาจกองทัพได้สำเร็จครับ
'อุ๊งอิ๊ง' แถลงผลงาน
ล้างตารอไว้นะครับ นายกฯ แพทองธาร นัดไว้แล้ววันที่ ๑๒ ธันวาคม มีข่าวใหญ่