บันทึกหน้า 4

วันพุธที่ 10 เมษายน พุทธศักราช 2567 ขึ้น 2 ค่ำ เดือนห้า ปีมะโรง ต้องถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งเลยทีเดียว เพราะมีหลายเรื่องให้เป็นที่จับตามากมาย แม้ บางเรื่องจะไม่เกินคาดเดาก็ตามที โดยเริ่มจากกรณีนักโทษวีวีไอพีคนแรกและคนเดียวในประเทศไทยอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขณะนี้ถูกพักโทษอยู่ที่ “วิมานจันทร์ส่องหล้า” ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เเละกฎหมายคอมพิวเตอร์ จากกรณีไปให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศเมื่อวันที่ 21 พ.ค.2558 ซึ่งวงการพนันขันต่อบอกแทงร้อยเอาขี้หมากองเดียวว่าเลื่อนแน่นอน ซึ่งก็ยังไม่มีใครกล้าเล่น แล้ว ผลก็เป็นไปตามคาด เมื่อเลื่อนนัดฟังคำสั่งไปในวันที่ 29 พ.ค.2567 ...๐

ส่วนที่จับตาอีกประเด็นหนึ่ง แม้ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะให้สัมภาษณ์มาตั้งแต่หลังประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารว่าไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ ก็ตามทีในเรื่อง “ดิจิทัลวอลเล็ต” แต่เมื่อถึงเวลาแถลงจริงตามเวลาที่เลื่อนมานักต่อนัก ก็ต้องบอกว่าไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์จริงๆ มีแต่คำถามเต็มไปหมด แต่ “เศรษฐา” กลับตัดจบแบบให้ซักไซ้ไล่เลียงพอเป็นพิธีเท่านั้น ต่างจากการแถลงเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมา ก็ไม่รู้ว่าตกลงเรื่องดังกล่าวสะเด็ดน้ำจริงหรือไม่อย่างไร ...๐

ขนาด “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีต กกต.ยังโพสต์เฟซบุ๊กหลังแถลงเรื่องดังกล่าวจบว่า วังเวงเหมือนเดิม และต้องฝันกันต่อไป ซึ่งก็เป็นจริง โดยเฉพาะการไปรีดเงินจาก “ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร” หรือ ธ.ก.ส. จำนวน 1.75 แสนล้านบาทนั้น เมื่อถูกถามจะใช้คืนพร้อมดอกเบี้ยเมื่อใดอย่างไร ก็เล่นเอา “ลวรณ แสงสนิท” ปลัดกระทรวงการคลัง ก็พลิ้วไปว่ารองบประมาณปี 2568 ออกมาก่อนถึงจะมีรายละเอียดตามมา พระเจ้าจอร์จ! ตกลงประชุมกันนี่ได้บทสรุปแน่แท้หรือไม่ หรือแค่ “สมมุติ” ตัวเลขกันมาให้แถลงข่าวผ่านๆ ไปเท่านั้น ...๐

แล้วที่สังคมโดยเฉพาะนักการเมืองยังสงสัยกันอยู่ เรื่องนี้ “คำนูณ สิทธิสมาน” สว. ได้ฟันธงก่อนแถลงแล้ว ซึ่งต้องบอกว่าเป๊ะเหมือนเครื่องถ่ายเอกสาร คือเรื่องการใช้งบประมาณปี 2567 โดยคำนูณบอกว่าไม่มีโครงการเรื่องดังกล่าวบรรจุในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่เพิ่งผ่านสภาล่างและสภาสูงไปเลย ...๐

แล้วที่สภากาแฟยังงงไม่เลิกก็คือ “เศรษฐา” ก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเงินจะเข้ากระเป๋าคน 50 ล้านคนวันไหน ในขณะที่ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.การคลัง ที่ตอบได้เหมือนขุนคลังตัวจริงมากกว่าก็ตอบไม่ได้เช่นกัน โดยบอกเพียงว่าได้ในไตรมาส 4 นี่ยังไม่นับรวมเรื่องการปูดใช้ “ซูเปอร์แอป” แทนแอป “เป๋าตัง” อีก ที่จะต้องเสียเงินเสียทองในการจัดทำหรือไม่อย่างไรที่ยังไม่มีใครถาม ส่วนที่ถามว่าใช้กับร้านค้าใดได้บ้างก็ตอบแบบติดๆ ขัดๆ ว่าเซเว่นฯ ใช้ได้ ส่วนห้างอย่างแม็คโคร-โลตัสไม่ได้ คำถามคือ แล้ว พวก “มินิบิ๊กซี-มินิโลตัส” ใช้ได้หรือไม่ ก็เป็นคำถามที่ไม่ได้คำตอบ รวมถึงเรื่องรัศมีการใช้ที่เดิมเคยขีดเส้นไว้ก็ไม่พูดถึงหรือว่ายกเลิกไปแล้ว ...๐

การอุตส่าห์เลือกวันเวลาแถลงข่าว 10 เมษายน 2567 จึงไม่มีเซอร์ไพรส์อย่างที่ “เศรษฐา” บอกจริงๆ เพราะมีแต่คำถามเต็มไปหมด เอาแค่งบเงินจากงบประมาณปี 2567 จำนวน 1.75 แสนล้านบาทนั้น ยังไม่รู้ว่าจะเอามาได้อย่างไรเลย เพราะ โครงการก็ไม่ได้เขียนไว้ ที่สำคัญหากในช่วงก่อนปิดงบเดือน ก.ย. เกิดเหตุภัยพิบัติอะไรขึ้นมาต้องใช้จ่าย จะเหลือเงินงบประมาณที่คาดหวังไว้ไหม หรือนับจากนี้ต้องบนบานศาลกล่าวกันว่าให้เมืองไทยไร้ซึ่งเหตุใดๆ เลย ...๐

นี่ยังไม่นับกรณี “เศรษฐา” เอานิสัย “ซีอีโอ” ที่ชอบชี้นิ้วสั่งการมาใช้ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 3/2567 อีก โดย ก่อนการประชุมได้ถามหา “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งตามหลักการประชุมแล้ว ระดับเลขานุการในที่ประชุม หรือเลขาฯ นายกฯ ก็ต้องบอกเล่าเก้าสิบ ตั้งแต่ก่อนประชุมแล้ว่า ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติไม่เข้า แต่นี่ก็ยังถามเพื่อให้เป็นข่าวสร้างกระแสขึ้นมาอีก ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่ “เสี่ยนิด” ทำอย่างนี้ ...๐

งานนี้จึงไม่แปลกที่ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งเป็นที่จับตาของสังคมอีกเรื่องหนึ่งนั้น มติ กนง.ที่มี “เศรษฐพุฒิ” เป็นประธาน ลงมติ 5 ต่อ  2 คงอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.5 ต่อไป เพราะเห็นว่าเศรษฐกิจขยายตัวสูงขึ้น ต่อเนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว รวมทั้งมีแรงส่งจากการใช้จ่ายภาครัฐที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ต้องปรบมือดังๆ ให้ กับผู้ว่าฯ แบงก์ชาติเลย เพราะดูข้อมูลจากตัวเลขและข้อเท็จจริงโดยมิได้สนใจเสียงนกเสียงกาเรียกร้องแต่ประการใด ...๐

 

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

เหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาส่งผลถึงประเทศไทยอย่างรุนแรง ทำให้ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่พังถล่มลงมา เป็นการประจานระบบราชการไทยและรัฐบาลอีกครั้ง สำหรับ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

บันทึกหน้า 4

” แผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมาส่งแรงสะเทือนถึงประเทศไทย ไม่เพียงทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตึก สตง.ถล่ม และต่อมายังมีตึกราชการต่างๆ เริ่มทรุดตัว

บันทึกหน้า 4

รายงานสถานการณ์จากศูนย์เอราวัณ กรณีเหตุแผ่นดินไหว ข้อมูล ณ เวลา 06.00 น. พบว่า ในขณะนี้พบผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว 32 ราย เสียชีวิต 17 ราย และสูญหาย 83 ราย

บันทึกหน้า 4

หลังเปิดแผลรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ยุทธการจากนี้ต้อง “โรยเกลือ” เพื่อให้แผลแสบเจียนตาย เมื่อฝ่ายค้านมั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองตรวจสอบ “นายกฯ อิ๊งค์” มีน้ำหนักและมัดแน่น ก็จงยื่นตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่มัวแต่คิดว่าเป็นเรื่องของ “นิติสงคราม” หากมัวแต่คิดแบบนั้นเท่ากับติดกับดักความคิดตัวเอง

บันทึกหน้า 4

ในที่สุด “ลิเกการเมือง” ว่าด้วยศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จบอย่างเป็นทางการแล้ว โดย มติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 488 เสียง ก็ลงมติเห็นด้วยในการไม่ไว้วางใจ 162 เสียง ไว้วางใจ 319 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ไม่ลงคะแนนไม่มี ซึ่งก็เรียบร้อยตามที่ “นายใหญ่” สั่งมานั่นเอง ...๐

บันทึกหน้า 4

การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านไปแล้ว บรรยากาศการอภิปรายมีประท้วงกันบ้าง คำว่า "กี้่กี้" ดังสนั่นสภาและโซเชียลมีเดีย ถือเป็นสีสันการเมือง