ว่าไหมสงกรานต์ปีนี้มันมีความอายๆหลบๆของรัฐบาลซ่อนอยู่ โดยเฉพาะการโปรโมทเกี่ยวกับการจัดงานสงกรานต์ตามสถานที่ต่างๆของประเทศไทย บางคนยังไม่ทราบเลยว่ามีงานสงกรานต์ยิ่งใหญ่ที่ท้องสนามหลวง ระหว่าง 11-15 เม.ย. นี้ด้วย
อาจเป็นเพราะโดนกระแส “คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ” ภายใต้การนำของ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานคณะกรรมการ ป่าวประกาศเล่นใหญ่ไปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ว่าจะจัดงานให้บิ๊กเบิ้มระดับโลก สมกับที่ “สงกรานต์ไทย” ได้ประกาศขึ้นทะเบียนยูเนสโก ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
ทีมงานคุณภาพของ “อุ๊งอิ๊ง” ตั้งโต๊ะแถลง “กิจกรรมที่สำคัญที่สุดแห่งปี ได้แก่ งานสงกรานต์ โดยเราจะใช้ชื่อในการทำงานว่า “World Water Festival The Songkran Phenomenon” ประเทศไทยต้องเป็นเจ้าแห่งสงกรานต์โลก จะไม่มีใครมาเคลมได้ ดังนั้น เราได้เตรียมแผนว่า ต้องจัดแบบยิ่งใหญ่ ให้คนทั้งโลกมองเห็น
จะมีการจัดงานมหาสงกรานต์ตลอดเดือน เม.ย. และมีกรุงเทพฯเป็นจุดศูนย์กลาง ที่ถนนราชดำเนิน จะมีขบวนแห่ของ 77 จังหวัด เช่น ขบวนแห่เทียน ดอกไม้ การแสดง การละเล่น 3 วัน 3 คืน มีเวทีหลักโดยรอบ 3 เวทีหลัก เวทีใหญ่จะจัดที่ท้องสนามหลวง เวทีที่สอง คือ ที่สะพานผ่านฟ้า ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ และเวทีที่สาม ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก และการจะจัดงานระดับโลกได้ แน่นอนเชิญศิลปินระดับโลกมาร่วมเฉลิมฉลองสงกรานต์”
ฟังจบ ขนลุกซู่ เพราะได้กลิ่นอายความคึกคัก สนุกสนาน
แต่...ก็เท่านั้น เวลาล่วงเลยมาจนต้นเดือนเม.ย. งานที่โปรโมทไว้เงียบกริบ กระทั่งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา “หมอเลี้ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ในฐานะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ ออกมายอมรับ สรุปใจความว่า “จัดไม่ทัน” เนื่องด้วยงบประมาณรายจ่ายปี67 ช้า แต่ปีหน้าจะทำให้ปั๊วะปังแน่นอน และเชื่อว่าปีนี้งานจะยิ่งใหญ่ไม่แพ้ปีที่ผ่านๆมา
รู้หรือยังละว่า ทำไมสงกรานต์ปีนี้ดูแปลกชอบกล แถมการโปรโมทใดๆ ก็ดูเหงา เข้าไม่ถึงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่จะเข้ามาท่องเที่ยว หนึ่งในสาเหตุนั่นก็มาจาก “คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์” เข้าไปคร่อมงานที่คนอื่นๆเขาทำอยู่แล้ว คนทำงานก็ต้องชะลอไว้ เพราะต้องรอดูว่าคณะกรรมการชุดนี้จะทำอย่างไรก่อน
แหม แทนที่จะได้เป็นเวทีแสดงฝีมือ กลับได้เป็นเวทีโชว์ความมือไม่ถึงซะนี่ หุหุ
มินนี่เม้าธ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ออร่าจับมาก
ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย
“ไม่ต้องรอมติพรรค”
“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ทันเกมทักษิณ
โบราณว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” จริงที่สุด ดูการเมืองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
“เดี๋ยวก็หายไปแล้ว”
ช่วงนี้คนกรุงเทพฯ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ อากาศตอนเช้าอุณหภูมิประมาณ 20 องศา ถือว่าเป็นอากาศเย็นสบายๆ
หัวหน้าแก๊งเด็ก
พร้อมลุยงานกันต่อในปี 2568 สำหรับทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้อนรับปีใหม่ด้วยการตีปี๊บข่าวสารด้านต่างๆของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม โดยเฉพาะ “รองฯโบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายกล้าธรรม (กธ.) ที่ล่าสุดรีบแจ้งข่าวสารถึงเกษตรกรไทย
ไร้บอดี้การ์ด
ต้อนรับปีใหม่ปีงู 2568 แล้ว แต่ภารกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังคงเข้มข้นเช่นเดิม หลังเห็นรีวิวส่งท้ายปีของ รทสช. ที่บอกว่า พร้อมพังทุกอุปสรรค เพื่อประโยชน์ชาติ ทั้งพัง..การผูกขาด, พัง..ระบบที่เน่าเฟะ และพัง..การโกงกินทุกรูปแบบ พร้อมผลิตเสื้อพรรคสีน้ำเงิน สกรีนข้อความ “พัง! เพื่อประโยชน์ชาติ” ให้ได้เห็นกัน