เป็นไปตามคาด?

"เอาจริงๆ เราก็เป็นธรรมชาติของเราแบบนี้แหละ

ถ้าไม่ชอบหรือไม่ถูกใจก็ขอโทษด้วยค่ะ เราก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ"

นี่..เป็นคำอธิบายของคุณอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับกรณีนำภาพนายทักษิณยกดัมเบลอยู่ในสระน้ำ และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึงห้วงวันสองวันนี้

ก็..จะพูดอย่างไรดีล่ะ เอางี้..มันไม่ใช่เรื่อง “ชอบ-ไม่ชอบ” หรือ “ถูกใจ-ไม่ถูกใจ” แต่มันเป็น “ภาพ” ที่ทำให้คนเขาสงสัย คนป่วยกระดูกคอเสื่อม เอ็นไหล่เปื่อยยุ่ย ที่เพิ่งผ่านการเจาะ-การรักษา

ซ้ำยังเป็นนักโทษที่ได้รับการพักโทษตามหลักเกณฑ์-ข้อกฎหมาย.. “นักโทษนั้นต้องอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อย”

แต่..ทำไมมายกของหนัก และทำตัวร่าเริงเบิกบานแจ่มใสไม่ต่างคนปกติทั่วไป ซึ่งเขามองว่าการได้รับการพักโทษ น่าจะมีความไม่ชอบมาพากล..

ประเด็นมันอยู่ตรงนี้..ไม่ได้เกี่ยวกับชอบ-ไม่ชอบ ถูกใจ-ไม่ถูกใจ อะไรเลย!

ส่วนคุณอุ๊งอิ๊งจะชี้แจงเป็นดัมเบลโฟม หรือดัมเบลฟองน้ำ นั่นก็เป็นสิทธิ หากคนเชื่อก็จบ แต่หากไม่เชื่อ เขาก็มีสิทธิจะสงสัย ซึ่งก็ไม่เห็นจะต้องขอโทษ-ขอโพยแต่อย่างใด!

หรือถ้าอยากขอโทษจริงๆ..ขอแนะนำให้คุณอุ๊งอิ๊งขอโทษแพทย์ ขอโทษกรมราชทัณฑ์ และขอโทษ พ.ต.อ.ทวีนู่น ที่ต้องมาหนักอก-เหนื่อยใจกับการตอบคำถาม-ชี้แจง..

ในเรื่องไม่เป็นเรื่อง จากการกระทำที่ไม่คิดหน้า-คิดหลังของพ่อ-ลูกที่เห็นแก่ตัว-เอาแต่ได้ โดยไม่สนใจ-ไม่แคร์ ใคร-ผู้ใดจะเดือดร้อน-จะติดคุก!

เอ้า..แต่นั่น ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะหลังจาก “คุณเต๋า ทีวีพูล” นักข่าวคนดัง โพสต์..“พิธีกรดังอักษรย่อ 2 พยางค์ โดนสั่งปลดทุกแพลตฟอร์ม เหตุผู้ใหญ่ไม่ปลื้ม..

พลาดงานเดียวแล้วจอดไปตลอดชีวิต” ไม่ทันให้คนได้คิด-ได้เดา

คุณหนุ่ม กรรชัย ก็รีบโพสต์ทันที-ทันควัน..“อะไร อะไร ก็กูสินะ ไม่คิดว่าเป็นไอ้ป๋องบ้างเหรอ มันชื่อ กพล นะ

#อยู่ดีๆก็ตกงานว่างั้น #ผู้ใหญ่ไม่รักซะงั้น (อิโมจิร้องไห้หนักมาก)”

ครับ..อ่านแล้ว พ่อยก-แม่ยก แฟนคลับก็น่าจะโล่งอก-สบายใจกันได้ พิธีกรดังอักษรย่อ 2 พยางค์ คงไม่ใช่ “กรรชัย” แน่

เพราะดูเจ้าตัวยังอารมณ์ดี ไม่ได้มีอาการบ่งบอกเป็นคนถูกปลดจากงานอย่างใดไม่!

อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความที่คุณเต๋าปูดนั้นจะไม่เป็นความจริง เพราะพิธีกรดังอักษรย่อ 2 พยางค์ในวงการทีวียังมีอีกตั้งหลายท่าน..

คุณปัญญาก็ใช่ คุณเพชรทายก็ใช่ คุณกิตติก็ใช่ คุณกนก คุณธีระก็ใช่!

ฉะนั้น..ก็ให้ตามดู-ตามเดากันต่อไป แต่ถ้าเกิดเป็นคุณปัญญา (นิรันดร์กุล) ขึ้นมาจริงๆ มีหวังได้ช็อกยิ่งกว่าพรรคก้าวไกลถูกยุบแน่!

อ้อ..แต่คงชะเง้อคอรออีกนานแหละกว่าศาลท่านจะตัดสิน เพราะวานนี้นอกจากข่าว “อัยการเลื่อนฟังคำสั่งคดี ทักษิณ ชินวัตร หมิ่นเบื้องสูง มาตรา 112 ไปเป็นวันที่ 29 พ.ค.นี้” แล้ว

ยังมีข่าว (จากผู้จัดการออนไลน์) รายงานว่า.. “นายนครินทร์ เมฆไตรลักษณ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาคำร้องยุบพรรคก้าวไกล

และการขอขยายระยะเวลาการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่า ต้องแล้วแต่ที่ประชุมของศาล ซึ่งก็จะดูความพอเหมาะพอควร เขาก็ขอขยายเวลามา

เรื่องนี้จะมีการเข้าสู่ที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 17 เม.ย. ซึ่งคงบอกได้ ไม่ได้เป็นความลับอะไร ก็คงขยายระยะเวลาให้อีก 15 วัน

แล้วถ้าจะขอขยายต่อก็คงไม่เป็นปัญหาอะไรก็ให้ชี้แจง และยื่นพยานหลักฐานมาให้ที่ประชุมได้พิจารณา

ส่วนที่คาดการณ์กันว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลภายในสิ้นเดือนนี้ ประธานศาลรัฐธรรมนูญยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้

เพราะพรรคก้าวไกลขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจง 15 วันก็เกินสิ้นเดือนนี้ไปแล้ว...”

อย่างงี้ พี่ตู่ผมก็หน้าแตกสิครับ!.

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก

เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน

นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?

ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..

ประชาชนควรพึ่งประชาชน

วันนี้-1 มกราคม.. เริ่มต้นปฏิทินหน้าแรกของปีใหม่ พ.ศ.2568 ก็ขออนุญาตกล่าวคำอำนวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านจงมีแต่ความสุข ความสมหวัง ไม่เจ็บ ไม่จนกันนะครับ!

ผลพวงจาก 'ฉายา'

หยิกแกมหยอก หรือเหน็บแนมทีเล่นทีจริงพอได้ยิ้มหัว นั่นคือ เจตนารมณ์ ความตั้งใจแรกในการมอบฉายาให้กับ “ดารา นักร้อง คนบันเทิง” ที่ผม (สันต์ สะตอแมน) ได้เสนอต่อนายกสมาคมนักข่าวบันเทิงในยุคนั้น

เอาที่สบายใจ

อย่าเพิ่งยุบสภานะ! ผมขอร้องทั้งนายกฯ แพทองธาร ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ เพราะไม่รู้ใครมีอำนาจ (ตัดสินใจ) เหนือใครใน “รัฐบาล ‘พ่อ’ เลี้ยง” นี้?

หอยสังข์พันล้าน

จะมองว่า เป็นข่าวตลกก็มองได้.. แต่สำหรับเรื่องของกฎหมายแล้ว ผิดก็คือผิด เปรียบเหมือนขับรถฝ่าไฟแดง จะอ้างว่าฝ่าแค่ชั่วไม่กี่วินาทีไม่น่าผิดความผิดไม่ได้ฉันใด..