ปากกล้าขาสั่น?

ขอบคุณครับ..ขอบคุณ!

ก็..ที่ พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. สั่งการผู้ใต้บังคับบัญชา นำกำลังจับกุมบรรดา “อินฟลูเอนเซอร์” ที่ทำคอนเทนต์การมีเพศสัมพันธ์และการช่วยเหลือตัวเอง

เพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อวดอ้างสรรพคุณทานแล้วอึด ทน ผ่านทางโซเชียลมีเดียที่เห็นกันจนตาแฉะ-ตาเปียกอยู่ในขณะนี้ไง!

ผมน่ะสงสัยมาตลอด บ้านนี้-เมืองนี้มันเสรีกันขนาดทำคลิปลามกจกเปรตเผยแพร่ได้อย่างนี้เชียวหรือ?

เมื่อตำรวจได้เข้ามาจัดการกวาดล้าง ผมก็ได้แต่ยกมือท่วมหัว.. “ขอให้จำเริญๆ เถอะนะพ่อคุณ” และอย่าหยุดแค่นี้..

ต้องปูพรมเดินหน้ากวาดล้างพวกอัปรีย์-จัญไรนี้ต่อไปอย่างแข็งขัน เพื่อความสะอาดตาและประชาชนจะได้ไม่ถูกหลอก-ถูกต้มเหมือนที่ผ่านมา!

ผมยังเชื่อ-ศรัทธาในผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อยู่อย่างมั่นคง ต่อให้มีตำรวจชั่ว-เลวระยำแค่ไหน ผมก็มั่นใจว่า “ตำรวจดี-มีคุณธรรม” ต้องมีมากกว่า

ฉะนั้น จงอย่าให้ความเชื่อ-ความศรัทธาของผมและประชาชนอีกมากมายต้องมลายหายไป ซึ่งก็หาใช่เรื่องลำบาก-ยากเย็นอะไร..

แค่..ตำรวจดีสามัคคี ร่วมแรง-ร่วมใจกันทำงานด้วยความซื่อสัตย์-เที่ยงธรรม ไม่นาน “ภาพลักษณ์งามๆ” ของสำนักงานตำรวจก็จะกลับมา..เชื่อเหอะ!

และนั่นก็เป็นสิทธิ์ที่จะคิด-จะเชื่อ ผมหมายถึงคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล หรือ “นายกว่าว” ที่พูดถึงเรื่องการยุบพรรคว่า..

 “จากการฟังความเห็นของทุกพรรคการเมือง ซึ่งต่างก็ไม่เห็นด้วยกับโทษยุบพรรค จึงฝากสื่อไปถามนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง

ว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการยุบพรรคเพื่อทำลายล้างทางการเมือง ที่ผ่านมาแล้ว 20 ปี การยุบพรรคการเมือง หากเป็นครั้งนี้ก็ถือว่าครั้งที่ 4-5 แล้ว ซึ่งต้องดูว่าสมเหตุสมผลหรือไม่

ซึ่งไม่ใช่เรื่องของพรรคก้าวไกลพรรคเดียวแต่เป็นเรื่องของระบบประชาธิปไตย จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายกลับมาต่อสู้ในระบบ ชนะก็คือชนะ แพ้ก็คือแพ้

และส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าผู้ที่มีอำนาจในการยุบพรรค ได้ถามตัวเองหรือไม่ว่ายุบพรรคไปจะได้อะไร

ซึ่งในระยะสั้นอาจจะทำให้พรรคที่ถูกยุบอ่อนแรงลง ทำให้ฝ่ายค้านอันดับหนึ่งอ่อนแอลง

แต่ในระยะยาวขณะเดียวกันมันก็เป็นการติดเทอร์โบ ทำให้พรรคที่ถูกยุบได้แต้มต่อทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า”

ในฐานะสื่อผมลองถามนักการเมืองให้แล้ว บางท่านก็ว่าเห็นด้วย บางท่านก็บอกไม่เห็นด้วย โดยต่างก็มีเหตุผลในการอธิบายที่น่ารับฟัง

ซึ่งก็แสดงว่า นักการเมืองที่คิดต่าง-เห็นต่างกับคุณพิธาต่อกรณียุบพรรคยังมีอยู่ แต่หาใช่ประเด็นต้องมาถกเถียง

เพราะหนึ่ง นอกจากเป็นเรื่องการกระทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง ไม่ว่าพรรคการเมืองนั้นจะได้รับความนิยมจากประชาชนท่วมท้นอย่างไร กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย!

สอง..ในเมื่อคุณพิธาเชื่อการยุบพรรคเป็นการติดเทอร์โบ ทำให้พรรคที่ถูกยุบได้แต้มต่อทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ก็..ดีแล้ว คนในพรรคก้าวไกลหรือคุณพิธาไม่เห็นจะต้องใช้สิทธิ์ในการขอขยายเวลา หรือขอสิทธิ์ในการไต่สวน และหรือต้องสู้อย่างเต็มที่..

หากควรจะปล่อยให้ศาลได้ตัดสินเสียไวๆ เพื่อที่จะได้ติดเทอร์โบ ทำแต้มต่อเสียแต่บัดนี้!

แต่เท่าที่ดูอาการคนในพรรคจะปากกล้าขาสั่นเสียมากกว่า ไม่งั้นคุณชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคไม่กระตุ้นสมาชิกหรอกว่า..

 “ตอนนี้เราเผชิญพายุใหญ่ในทางการเมือง อาจทำให้หลายคนรู้สึกหวั่นไหวและกังวล แต่วันนี้ความเปลี่ยนแปลงมาไกลมากแล้ว ไม่มีอะไรต้องหวั่นไหว

เพราะคนที่ต้องหวั่นไหวคือคนที่อยากทำลายพรรคการเมืองที่ประชาชนต้องการ ไม่มีใครสามารถทำลายหรือหยุดยั้งความเปลี่ยนแปลงของพรรคก้าวไกลได้อีก..”

ครับ..ขอให้เป็นเช่นนั้น!.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก

เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน

นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?

ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..

ประชาชนควรพึ่งประชาชน

วันนี้-1 มกราคม.. เริ่มต้นปฏิทินหน้าแรกของปีใหม่ พ.ศ.2568 ก็ขออนุญาตกล่าวคำอำนวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านจงมีแต่ความสุข ความสมหวัง ไม่เจ็บ ไม่จนกันนะครับ!

ผลพวงจาก 'ฉายา'

หยิกแกมหยอก หรือเหน็บแนมทีเล่นทีจริงพอได้ยิ้มหัว นั่นคือ เจตนารมณ์ ความตั้งใจแรกในการมอบฉายาให้กับ “ดารา นักร้อง คนบันเทิง” ที่ผม (สันต์ สะตอแมน) ได้เสนอต่อนายกสมาคมนักข่าวบันเทิงในยุคนั้น

เอาที่สบายใจ

อย่าเพิ่งยุบสภานะ! ผมขอร้องทั้งนายกฯ แพทองธาร ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ เพราะไม่รู้ใครมีอำนาจ (ตัดสินใจ) เหนือใครใน “รัฐบาล ‘พ่อ’ เลี้ยง” นี้?

หอยสังข์พันล้าน

จะมองว่า เป็นข่าวตลกก็มองได้.. แต่สำหรับเรื่องของกฎหมายแล้ว ผิดก็คือผิด เปรียบเหมือนขับรถฝ่าไฟแดง จะอ้างว่าฝ่าแค่ชั่วไม่กี่วินาทีไม่น่าผิดความผิดไม่ได้ฉันใด..