สงครามพม่าประชิดชายแดนไทย พร้อมข่าวฝ่ายต่อต้านยึดเมียวดี

ข่าวการสู้รบในพม่ายิ่งวันยิ่งขยับเข้ามาใกล้ชายแดนไทย...และตอกย้ำถึงความเพลี่ยงพล้ำของฝ่ายกองทัพพม่าของมิน อ่องหล่ายอย่างชัดขึ้นทุกวัน

ใครที่เคยคิดว่าอย่างไรเสียกองทัพพม่าก็ยังมีแสนยานุภาพทางทหารสูงกว่าฝ่ายต่อต้านทุกกลุ่มรวมกันก็อาจจะต้องประเมินสถานการณ์ใหม่

เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวการมอบตัวของทหารพม่ากว่า 400 คนที่เมียวดีตรงข้ามชายแดนไทย

และฝ่ายต่อต้านใช้โดรนถล่มเป้าหมายทางทหารในเมืองหลวงเนย์ปีดอว์ได้สำเร็จด้วย

เมื่อค่ำวันเสาร์ ข่าวจากสื่อพม่าหลายกระแสยืนยันว่าฝ่ายต่อต้านยึดเมืองเมียวดีตรงข้ามอำเภอแม่สอด, จังหวัดตากของไทย, เรียบร้อยแล้ว

• เครดิตภาพ: สำนักข่าวชายขอบ

สำนักข่าวชายขอบของไทยอ้างสำนักข่าว Voice of Spring และสำนักข่าว Chindwin News รายงานว่า ทหารพม่าจากกองพลทหารราบเคลื่อนที่เร็ว ที่ 275 กว่า 400นาย ในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ได้ยอมแพ้และวางอาวุธให้กับกองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army : KNLA )

รวมถึงสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(The Karen National Union: KNU) และกองทัพเพื่อประชาชน (People’s Defense Force : PDF)  ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ โดยฝ่ายต่อต้านสามารถยึดอาวุธได้เป็นจำนวนมากจากฐานทัพพม่าในพื้นที่

ความคืบหน้าล่าสุดชี้ว่ากองกำลังของกองทัพพม่าอ่อนแอลงอย่างชัดเจนเพราะการยอมวางอาวุธครั้งนี้ถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของกองทัพพม่า

“สำนักข่าวชายขอบ” ของไทยเองอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงชายแดนไทยด้านอำเภอแม่สอดว่าขณะนี้กองกำลังหลักของกองทัพพม่ารอบเมืองเมียวดี ทั้งกองพัน 355 กองพัน356 และกองพัน 357ซึ่งตั้งอยู่เขตชานเมืองเมียวดี ได้ถูกกองกำลังผสมของ KNUและ PDF ยึดได้หมดแล้ว 

เหลือเพียงกองพัน 275 ที่มี 2 กระแสข่าว โดยกระแสหนึ่งระบุว่าทหารพม่ายอมวางอาวุธหมดแล้ว แต่อีกกระแสหนึ่งเชื่อว่าอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรอง

หากข่าวการยึดฐานต่างๆเกือบทั้งหมดเมื่อวันเสาร์เป็นจริงก็แปลว่าเมืองเมียวดีได้ตกอยู่ในควบคุมดูแลของฝ่ายต่อต้านอย่างเบ็ดเสร็จแล้ว

สำนักข่าวชายขอบรายงานว่ายังคงเหลือเพียงพื้นที่ทางทหารทางตอนใต้เมียวดีฝั่งตรงข้ามกับ อ.พบพระ ที่กำลังเป็นที่จับตามองว่าเป็นเป้าหมายต่อไปของฝ่ายต่อต้านหรือไม่ 

เช่นเดียวกับพื้นที่ตรงข้าม อ.อุ้มผางซึ่งเหลือพื้นที่ทางทหารของกองทัพพม่าอีกเพียงเล็กน้อย 

ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานฝ่ายต่อต้านจะต้องรุกคืบผลักดันทหารพม่าออกไปทั้งหมด

ขณะที่ พล.อ.มิน อ่องหลาย ไปเยือนเมืองท่าขี้เหล็กระหว่างวันที่ 1 – 6 เมษายน 2567  เพื่อเข้าร่วมงานศพพระผู้ใหญ่

สำนักข่าว SHAN รายงานว่า มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในพื้นที่ ทำให้ประชาชนในเมืองท่าขี้เหล็กได้รับความยากลำบาก

สำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า ทางกองทัพเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Army: KIA) ซึ่งต่อสู้เคลื่อนไหวในรัฐคะฉิ่นทางเหนือสุดของประเทศพม่า สามารถยึดเส้นทางหลวงเชื่อมระหว่างรัฐคะฉิ่นและเมืองมัณฑะเลย์ไว้ได้แล้ว 

โดยพื้นที่ที่ทาง KIA สามารถยึดมาได้นั้น อยู่ในบริเวณเส้นทางบะหม่อ – มัณฑะเลย์ ในเมืองม่านซี เป็นระยะทางราว 14กิโลเมตร 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทาง KIA บุกโจมตีเพื่อยึดพื้นที่ดังกล่าวเป็นเวลา 3 วัน 

โดยทหารพม่าจำนวน 50 นาย ที่ประจำในพื้นที่ได้ทิ้งค่ายและหลบหนีไป

เช่นเดียวกันกองทัพอาระกัน (Arakan Army- AA) ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในรัฐอาระกัน ทางตะวันตกของประเทศ ล่าสุด สามารถยึดฐานบัญชาการใหญ่ของกองทัพพม่า ในเมืองบูทีดองได้เมื่อวันที่ 5เมษายนที่ผ่านมา 

เหตุสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายในเมืองน้ำ มีทหารพม่าเสียชีวิต 80 นาย และสามารถยึดอาวุธของกองทัพพม่าได้จำนวนหนึ่ง   

ขณะที่สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNOCHA) รายงานว่า ผู้พลัดถิ่นภายในประเทศหรือ IDPs ในพม่านั้นพุ่งเป็น 2.8 ล้านคนแล้วจากทั่วประเทศ 

โดยตัวเลขผู้พลัดถิ่นภายในที่อยู่ในรัฐอาระกัน หรือรัฐยะไข่เพียงแห่งเดียวเพิ่มขึ้นเป็น 157,000 คน นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว หรือนับตั้งแต่กองทัพอาระกันเปิดฉากโจมตีกองทัพพม่ารอบใหม่ และสงครามรุนแรงมากยิ่งขึ้น 

โดยขณะนี้ผู้พลัดถิ่นภายในกำลังประสบกับปัญหาการขาดแคลนขาดแคลนน้ำดื่มในช่วงที่สภาพอากาศร้อนจัด

ก่อนหน้านั้นเพียงสองวัน ฝ่ายต่อต้านพยายามทำการโจมตีด้วยโดรนพร้อมกันหลายจุดเข้าใส่ฐานปฏิบัติการของทหารในกรุงเนปิดอว์

สถานีโทรทัศน์เมียวดีของกองทัพเมียนมาว่า ความพยายามของ “ผู้ก่อการร้าย” ที่จะทำลาย “จุดที่ตั้งสำคัญ” ในเนปิดอว์นั้นถูกสกัดไว้ได้ 

โดยอ้างว่ากองทัพสามารถยิงโดรนตกลง 13 ลำ ในจำนวนนี้มี 4 ลำที่มีระเบิดติดมาด้วย

ข่าวทางการอ้างว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และไม่มีทรัพย์สินใด ๆ ได้รับความเสียหาย 

การที่ฝ่ายต่อต้านสามารถถล่มที่ตั้งทางทหารในเมืองหลวงพม่าย่อมสะท้อนถึงความสามารถของฝ่ายต่อต้านที่เพิ่มขึ้นและฝ่ายรัฐบาลที่อ่อนแรงลงอย่างปฏิเสธไม่ได้

รัฐบาลคู่ขานหรือรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Government – NUG) อ้างว่าหน่วยรบของกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People’s Defense Forces – PDF) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในเครือข่ายได้ประสานกับพันธมิตรติดอาวุธอื่น ๆ เพื่อโจมตีกองบัญชาการใหญ่ของกองทัพและฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งในกรุงเนย์ปิดอว์ด้วย

จ่อ ซอว์ โฆษกรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติประกาศว่า

“นี่คือความสำเร็จ การโจมตีด้วยโดรนนี้เป็นการโจมตีพิสัยไกลและหนักหน่วงกว่าปกติ เรามีแผนจะทำการเช่นนี้อีก” 

พร้อมเสริมว่า “นี่คือเวลาที่รัฐบาลทหารจะบังคับให้มีการเกณฑ์ทหารและก่อกระแสความกลัวในหมู่ประชาชน การโจมตีเช่นนี้เข้าใส่ศูนย์กลางประสาทของพวกเขา ซึ่งก็คือ เนปิดอว์ เน้นย้ำว่า พวกเขาไม่มีที่ ๆ จะบอกว่า ปลอดภัย ได้อีกต่อไป”

ฝ่าย NUG อ้างว่าในการโจมตีครั้งนี้ใช้โดรนถึง 30 ลำ และมีการตั้งเป้ายิงเข้าใส่ที่พักของมิน อ่อง หล่ายด้วย

แต่ไม่มีรายละเอียดว่าการพุ่งเป้าถล่มที่พักผู้นำกองทัพพม่าได้ผลอย่างไรหรือไม่

ข่าวการสู้รบในพม่าไหลออกมาอย่างต่อเนื่องจากสื่อทุกรูปแบบในพม่าและนอกประเทศ

ล้วนส่อไปในทางที่รัฐบาลไทยต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา 

รัฐบาลมีกลไกประสานงานทุกฝ่ายของไทยเราเองเพื่อเกาะติดข่าวคราวและเสาะหาข่าวกรองเพื่อปรับยุทธศาสตร์ของเราให้ทันกับแนวโน้มการล่มสลายของรัฐบาลทหารพม่าแล้วหรือยัง?

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ

แหล่งค้ามนุษย์ใน 3 เหลี่ยมทองคำ

เขตเศรษฐกิจพิเศษหรือ SEZ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่โยงกับไทยนั้นกลายเป็นประเด็นเรื่องอาชญกรรมข้ามชาติที่สมควรจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยอย่างจริงจัง

พรุ่งนี้ ลุ้นดีเบตรอบแรก โจ ไบเดนกับโดนัลด์ ทรัมป์

ผมลุ้นการโต้วาทีระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มิถุนายน) เพราะอยากรู้ว่า “ผู้เฒ่า” สองคนนี้จะมีความแหลมคมว่องไวในการแลกหมัดกันมากน้อยเพียงใด

เธอคือ ‘สหายร่วมรบ’ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค NLD คนสุดท้าย!

อองซาน ซูจีมีอายุ 79 ปีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา...และยังถูกจำขังในฐานะจำเลยของกองทัพพม่าที่ก่อรัฐประหารเมื่อกว่า 3 ปีที่แล้ว

อองซาน ซูจี: เสียงกังวล จากลูกชายในวันเกิดที่ 79

วันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมาคือวันเกิดที่ 79 ของอองซาน ซูจี...ในวันที่เธอยังถูกคุมขังเป็นปีที่ 4 หลังรัฐประหารโดยพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2021