ไม่รู้ "แมวเก้าชีวิต" จะยังมีชีวิตที่สิบหรือเปล่า หลังผลสอบสวนเกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชุดที่ นายกฯ นิด-เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้ง 3 อรหันต์ ทั้ง ปลัดฉิ่ง-ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย บิ๊กนัย-พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรอง ผบ.ตร. และ ชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด มาทำความจริงให้ปรากฏ ล่าสุด "บิ๊กนัย" ตั้งโต๊ะแถลงความคืบหน้าครั้งที่ 1 เบื้องต้น คกก.มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกับศาล เชื่อว่า บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. มีส่วนร่วมในการกระทำผิดจริง เป็นการฟอกเงินที่พบเส้นทางการเงินจากเว็บพนันออนไลน์มายังบัญชีม้าและเชื่อมโยงมายัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ส่วนฝั่ง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เห็นแบบนี้แล้วดูท่า "แมว" จะจอดแค่เก้าชีวิตกระมัง
นี่ก็เล่นเอาหลายคนสะดุ้ง บทสัมภาษณ์ บิ๊กเอก-พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ตอบคำถามขั้นตอนกระบวนการเอาผิดทางวินัย "บิ๊กโจ๊ก" หลังศาลออกหมายจับในคดีสมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงินตามที่สมคบกัน เพราะแม้ "บิ๊กเอก" จะแจกแจงตามหลักการเรื่องกรอบและระยะเวลาในการดำเนินการทางวินัย เริ่มจากการไต่สวนตรวจสอบข้อมูลหลักฐาน หากไม่มีมูลก็สั่งยุติจบไป แต่ถ้ามีมูลสามารถไต่สวนพิจารณาหลักฐานต่างๆ ก่อนส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาลงโทษได้ มีกรอบระยะเวลา 120 วัน หากระหว่างการไต่สวนพบว่าเป็นการกระทำความผิดวินัยร้ายแรง โทษสูงสุดอาจถึงไล่ออก ปลดออก มีกรอบระยะเวลา 270 วัน แต่พอคนฟังนำกรอบระยะเวลา 120 วัน มาบวก 270 วัน ก็ปาเข้าไป 390 วัน ขั้นตอนการสอบวินัยจะเสร็จสิ้น ก็เลยทำให้หลายคนสะดุ้ง สอบกันปีกว่าๆ ถึงจะรู้ผล จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา อย่างไรก็ดี หากมองในแง่บวกถึงกรอบระยะเวลาที่ลากยาวไปขนาดนั้น แต่ในความเป็นจริงส่วนใหญ่ไม่กี่สัปดาห์ก็น่าจะรู้ผลกันแล้ว หากไม่มีรายการคุณขอลากมา แต่ดูท่าทีจากผลสอบชุด "บิ๊กนัย" ส่งออกมา โอกาสดึง โอกาสลากยาวไปจนสุดกรอบระยะเวลา อย่างที่หลายคนกังวลคงเกิดขึ้นน้อย จริงมั้ย บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ๐
เหมือนตกอยู่ในห้วงพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก "บช.ไซเบอร์" ที่มี บิ๊กเจี๊ยบ-พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา นั่งเก้าอี้ "ผบช.สอท." เพราะเพิ่งถูกทนายคนดังแฉลูกน้องในสังกัด เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นนิ้ว เป็นมือบิ๊กตำรวจใหญ่ในขบวนการส่วยพนันออนไลน์ จนต้องสั่งเด้งเข้ากรุพร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ตอนนี้ก็ไปเจอ "สีกากีนอกแถว" ลูกน้องในสังกัด บช.ไซเบอร์ ยศ "ร.ต.ท." ขายอาวุธปืนผ่านทางออนไลน์อย่างผิดกฎหมาย จน "บิ๊กเจี๊ยบ" นำทีมเข้าจับกุมด้วยตัวเอง สอบปากคำลูกน้องรับสารภาพชื่นชอบเรื่องอาวุธปืน จึงศึกษาและทดลองสั่งอุปกรณ์ต่างๆ มาประกอบขายให้กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบอาวุธปืน รายได้ต่อเดือนกว่า 3 แสนบาท ปิดฉากเครื่องแบบสีกากีไปอีกหนึ่งราย แต่สำหรับเจ้านาย "บิ๊กเจี๊ยบ" หมดภารกิจจากช่วงสงกรานต์ปีนี้ คงต้องนิมนต์พระมาทำบุญหน่วยครั้งใหญ่เสียแล้ว ๐
ดูเหมือนว่า “กองทัพเรือ” จะเป็นเหล่าทัพเดียว ที่โดนฝ่ายค้านจัดหนักที่สุดในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ พอจบการอภิปรายแล้ว ผู้สื่อข่าวไม่พลาดที่ต้องไปถามความรู้สึก “บิ๊กดุง” พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งผิดคาดเพราะ “บิ๊กดุง” บอกว่า “ไม่ได้ดุเดือดและเป็นเหตุเป็นผล” ทั้งเรื่องเรือฟริเกต และแนวโน้มของผลสอบเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง นอกจากนั้นยังขอบคุณนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในการช่วยแก้ไขปัญหาเรือดำน้ำจีน ที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาของคณะทำงานของ 2 ประเทศ และน่าจะได้ข้อสรุปในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนงบประมาณปี 2568 ที่กำลังจะเข้าสภาฯ เพราะถ้าทุกอย่างไฟเขียว พร้อมจบลงด้วยการได้มาซึ่งเรือฟริเกต 2 ลำตามที่ “สุทิน คลังแสง" รมว.กลาโหม เปิดหัวไว้ระหว่างการชี้แจงในสภาฯ โอกาสของ “เรือดำน้ำ” ที่จะเข้าประจำการในกองทัพเรือไทยก็จะมืดมนลงทันที ๐
พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เข้าร่วมพิธีเทิดเกียรติ เนื่องในโอกาสรับการจารึกชื่อในทำเนียบศิษย์เก่าเกียรติยศสำหรับนักศึกษานานาชาติ ณ โรงเรียนเสนาธิการทหารบกสหรัฐอเมริกา US Army Command and General Staff College, Fort Leavenworth Kansas โดยมี พลโท Milford H. Beagle Jr. ผบ. US Army Combined Arms Center เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ พล.อ.ทรงวิทย์ ได้เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนเสนาธิการทหารบกสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2542-2543 (Class of 2000) และเป็นนายทหารไทยคนที่ 9 ที่ได้รับการจารึกชื่อไว้ในทำเนียบศิษย์เก่าเกียรติยศแห่งนี้ สำหรับ ศิษย์เก่าทหารไทยที่เคยรับการจารึกชื่อไว้ในทำเนียบศิษย์เก่าเกียรติยศ ณ สถาบันแห่งนี้ มีอาทิ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ, พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์, พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์
ร้อนระอุช่วงฤดูเกณฑ์ทหาร หลังจากฝ่ายค้านเย้ยตัวเลขยอดสมัครใจอาจจะน้อยลงเมื่อเทียบกับก่อนปี 2564 ที่มียอดสมัครถึง 5 หมื่นคน "รมต.สุทิน" จึงโต้ฝ่ายค้านว่า “สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร” อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้สรุปยอดเกณฑ์ทหาร 2 วันแรกออกมาแล้ว มีผู้ที่ร้องขอเป็นทหารกองประจำการในวันตรวจเลือกรวมแล้วทั้งสิ้น 4,444 คน โดยมีพื้นที่ที่มีการร้องขอเต็มแล้วจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี และ อ.นาทวี จ.สงขลา กองทัพบกมองว่าเป็นสัญญาณที่ดี และเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากชายไทยทุกคนที่จะเข้ารับการตรวจเลือกตามที่กองทัพบกได้กำหนด ในระหว่างวันที่ 1-12 เม.ย. 2567 (เว้น 6 เม.ย. 2567) ณ หน่วยที่เข้ารับการตรวจเลือก โดย พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ให้ความมั่นใจต่อผู้เข้ารับการตรวจเลือกและผู้ปกครอง ถึงคุณสมบัติของเจ้าหน้าที่สัสดี ที่จะดำเนินการด้วยความโปร่งใส และซื่อตรงในทุกๆ ขั้นตอน ๐
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม
จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!
ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ไม่สนใจใครจะต่อว่า เสียงนกเสียงกา...ข้าไม่สนใจ
ถ้าหากเราจะบอกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงตำหนิ มีการนำเอาการพูดและการกระทำที่ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่เหมาะไม่ควร
จาก 'น้ำตา' ถึง 'รอยยิ้ม' พระราชินี
ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา...ได้อ่านข่าวพระราชาและพระราชินีสเปน เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเยียนผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองปอร์ตา แคว้นบาเลนเซีย