ประเทศไทยอยู่ในสภาพความขัดแย้งระหว่างสีเสื้อมาเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว แม้เวลานี้เราจะมีรัฐบาลผสมแบบข้ามขั้ว แต่เราก็ยังไม่เห็นบรรยากาศของความปรองดองเกิดขึ้นอย่างแท้จริง ทั้งนี้เพราะกลุ่มคนที่ใส่เสื้อสีต่างๆ นั้นไม่ได้สร้างความหวังอะไรให้คนไทยได้มากนัก แต่ละสีก็มีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ ไม่ทำให้คนไทยสบายใจ ไม่มีสีไหนที่เราจะพูดได้ว่าเป็นสีที่สวยเป็นความหวังของประเทศ หันไปหาสีไหน ก็มีแต่เรื่องที่ทำให้ขุ่นข้องหมองใจ ไม่อาจจะไว้ใจสีใดได้เลย อนิจจา คนไทยมาถึงยุคไร้ทางเลือก อยู่ในสภาพหนีเสือปะจระเข้อย่างน่าเศร้าใจ
เมื่อมองไปที่สีกากีก็พบว่าพวกเขามีคดีทุจริต ที่ผู้ต้องหาในคดีที่ว่านั้นเป็นผู้บริหารระดับสูง มีการสาวไส้เน่าๆ ออกมาให้กากินในลักษณะไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ คนที่ออกมาแฉก็มีท่าทีมั่นอกมั่นใจหลักฐานที่
เอาออกมาแฉได้อย่างน่าเชื่อว่าหลักฐานเหล่านั้นน่าจะเป็นจริง คนที่ถูกกล่าวหาท่าทางจะรอดยาก ถ้าหากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ผู้รักษากฎหมาย ทำผิดกฎหมายเสียเอง ประชาชนจะพึ่งใครได้อีก
พฤติการณ์แห่งคดีของสีกากีก็คือ พัวพันกับธุรกิจสีเทาหลายๆ เรื่อง ทั้งบ่อนการพนัน ยาเสพติด สถานบันเทิงที่ผู้ประกอบการธุรกิจมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่สามารถทำธุรกิจสีเทาได้เพราะสีเทาคุ้มครอง คำว่าส่วยจึงเป็นคำที่ยังมีอยู่เมื่อพูดถึงคนสีกากีกับคนทำธุรกิจสีเทา เป็นลักษณะผีเน่ากับโลงผุที่เซาะกร่อนบ่อนทำลายการพัฒนาของประเทศ ประชาชนเมื่อรับรู้ แต่ทำอะไรไม่ได้ ก็มีแต่ความเครียดด้วยความห่วงใยอนาคตของประเทศว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ในเมื่อคนทำธุรกิจสามารถดำเนินการได้โดยสะดวก ด้วยการเอื้ออำนวยของคนสีกากี ที่สำคัญสีกากีที่เกี่ยวข้องกับสีเทา ก็ไม่ใช่ตัวเล็กตัวน้อย แต่เป็นตัวที่ใหญ่มากๆ ขององค์กรเลยทีเดียว
ส่วนคนสีแดงได้อำนาจในการบริหารท่ามกลางความเคลือบแคลงระแวงสงสัยของประชาชนเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต แม้ว่าเวลานี้จะยังไม่มีการโกง แต่ที่ผ่านมานั้น ประวัติการโกงของคนสีนี้มากมาย และศาลตัดสินสิ้นสุดแล้วว่าพวกเขามีความผิดจริง ติดคุกก็หลายคน ที่ไม่ติดคุกก็ต้องหนีออกนอกประเทศไป เวลานี้แม้ว่าจะยังไม่มีการโกง แต่ก็มีเรื่องที่ประชาชนกังขา ก็คือเรื่องแจกเงินดิจิทัล 10,000 ให้คนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป ผู้คนเขาถามว่าทำไมต้องแจกเป็นเงินดิจิทัล ไม่แจกเป็นเงินสด ก็ไร้คำตอบ มีผู้รู้จำนวนมากทักท้วงและทัดทานว่าไม่ควรแจก เพราะมันได้ไม่คุ้มเสีย ก็ไม่ยอมฟัง ดึงดันจะต้องทำให้ได้ ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเอา 500,000 ล้านมาจากไหน
และที่ทำให้ประชาชนปวดร้าวมากที่สุดในยามนี้ก็คือ ผู้บริหารประเทศสีนี้ก็ยังมีเรื่องนักโทษเทวดามาเป็นเรื่องใหญ่ให้ประชาชนเห็นว่าการจัดการกับนักโทษเทวดาที่กลับเข้ามาในประเทศหลังจากหนีคดีออกไป 17 ปี มาถึงก็ขอพระราชทายอภัยโทษ พูดชัดเจนว่ายอมรับผิด และสำนึกแล้ว แต่ก็ไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว ด้วยการบริหารกระบวนการยุติธรรมของฝ่ายการเมืองและข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ประชาชนเป็นจำนวนมากมองว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการบริหารกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว ไร้ธรรมาภิบาล บดขยี้กระบวนการยุติธรรมของไทยจนย่อยยับ เป็นการกระทำที่ไม่เห็นหัวประชาชน ไม่สนใจว่าประชาชนจะรู้สึกอย่างไร
ยังมีเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการที่หลายคนมองว่าไม่โปร่งใส ผู้ที่ได้ตำแหน่งข้าราชการทางการเมือง ก็ชัดเจนว่าเป็นคนของใคร หลายคนมีประวัติที่ไม่ใส แต่ก็ยังได้ตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการที่ทำงานดีๆ แต่ถูกมองว่าเป็นฝ่ายตรงกันข้ามก็ต้องย้ายออกจากตำแหน่งที่สามารถทำงานสร้างผลงานได้ เรื่องแบบนี้ คนสีนี้เคยทำมาก่อนแล้ว จนเกิดเป็นคดีความ แต่พวกเขาก็ยังทำอีก ทั้งหมดนี้ทำให้คนจำนวนมากไม่อาจไว้ใจการบริหารของสีแดงได้ เพราะไม่แน่ใจว่าใครคือนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ใครกำกับการบริหารประเทศไทย จะใช่คนที่โคตรโกงจนโดนคดีและศาลตัดสินให้ติดคุกเป็นสิบๆ ปีหรือเปล่า เป็นคนที่สำนึกผิดทิพย์ ป่วยทิพย์ ติดคุกทิพย์หรือเปล่า ประชาชนเขากังขานะ
ส่วนสีส้มก็มีพฤติกรรมที่เลวร้ายหลายครั้งหลายครา มีทั้งทำผิดกฎหมาย ทำผิดศีลธรรม ทำลายขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของไทย เป็นปรปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์ ครอบงำเยาวชนด้วยข้อความที่เป็นเท็จ ยุยงส่งเสริมเด็กให้ชังชาติ ชังสถาบันพระมหากษัตริย์ ยุเด็กให้ออกมาทำกิจกรรม ทำผิดกฎหมายจนโดนคดีมาตรา 112 บ้าง 116 บ้าง มีพฤติกรรมหลายอย่างที่ประชาชนจำนวนมากมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ เป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างวาทกรรมหรูหลอกด้อมของตนให้หลงใหล พูดจาโกหกหลายครั้งหลายครา จนมีเพจตั้งชื่อว่าในแต่ละวันนั้นพวกเขาโกหกอะไร เป็นการโกหกที่มีคนจับโป๊ะได้ แต่ที่น่าตกใจก็คือ คนสีนี้ยังได้รับคะแนนนิยมสูงสุด ตัวบุคคลและพรรค อนิจจา ประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรามาถึงสภาพนี้ได้อย่างไร คนไทยเราตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่มีทางเลือกแล้วใช่หรือไม่ สีไหนก็ไม่สวย มีแต่สีแสบ เราต้องทำใจยอมรับสภาพเช่นนี้ตลอดไปหรือเปล่าคะ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาเป็นชุด! 'ดร.เสรี' ฟาดคนโอหัง ความรู้ไม่มี ทักษะไม่มี ไร้ภาวะผู้นำ น่าสมเพชอย่างแท้จริง
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า เตือนก็แล้ว ตำหนิก็แล้ว ต่อว่าก็แล้ว เยาะเย้ยก็แล้ว ล้อเลียนก็แ
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม
จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!
ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ดร.เสรี ยกวาทะจัญไรแห่งปี 'เขาเว้นเกาะกูดให้เรา'
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ประโยควาทะอัปรีย์จัญไรแห่งปี "เขาเว้นเกาะกูดให้เรา" แสดงว่าเขาเมตตาเราสินะ เราต้องขอบคุณเขา สำนึกบุญคุณเขาใช่ไหม