“จากสภาพที่เห็นนายทักษิณ..
ซึ่งนั่งวีลแชร์มาพบอัยการ ดูแล้วป่วยขั้นวิกฤต เดินไม่ไหว และจากการพูดคุย นายทักษิณก็ไม่ค่อยมีเสียง”
นี่..คุณปรีชา สุดสงวน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ได้บอกกับสื่อและสังคมไทยเอาไว้เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567
แต่หลังจากนั้นไม่นาน นายทักษิณก็ได้นั่งร่วมโต๊ะอาหารกับนายฮุน เซน ด้วยสีหน้าเบิกบานแจ่มใส ถัดมาไม่กี่วันก็ออกตระเวนไหว้พระ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ก่อนจะนั่งเครื่องบินส่วนตัว บินปร๋อไปไหว้อัฐิบรรพบุรุษที่เชียงใหม่ พร้อมกับนิราศชมเมือง-ชมไม้ กินข้าว ดื่มกาแฟ โดยมีข้าทาส-บริวารเดินตามเป็นพรวน!
สภาพตามที่เห็น..คนทั้งประเทศพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นายทักษิณ นักโทษที่ได้รับการพักโทษ สุขภาพ พลานามัยเข้มแข็ง แข็งแรงดี..
ดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่ “ผู้ป่วยขั้นวิกฤต” ตามที่คุณปรีชาบอก และยิ่งได้เห็นนายทักษิณเดินทางด้วยรถตู้ไปร่วมงานฌาปนกิจศพคุณพ่อคุณจาตุรนต์ ฉายแสง ที่ จ.ฉะเชิงเทรา
ก็..แทบไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยอีกแล้ว ที่ผ่านมา 180 วันบนชั้น 14 รพ.ตำรวจ เป็นการแสดงละครโรงใหญ่ให้คนไทยทั้งประเทศดูเท่านั้น!
ส่วนคุณปรีชา อธิบดีอัยการฯ ป่านนี้จะมีความสุขสำราญเบิกบานใจหรือไม่ไม่รู้ แต่ที่รู้..มีคนเขาพูดเข้าหู อืมม..ไม่บอกดีกว่า!
ครับ..ถ้าสังเกต ตั้งแต่นายทักษิณกลับมาเหยียบประเทศไทย สังคมไทยจะได้ยิน-ได้ฟังแต่เรื่องโกหก-ตอแหล ทั้งจากนักการเมือง จากหมอ จากพระ..
จากคนในระบอบยุติธรรม จากทหาร จากตำรวจ จากสื่ออยู่ทุกวี่วัน!
จนชาวบ้านร้านตลาดพากันซุบซิบนินทา..ไม่มีใคร-หน่วยงาน-สถาบันไหนเชื่อถือได้แล้วประเทศนี้!
อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อกรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี คนที่เป็นที่พึ่ง ที่น่าเชื่อถือก็ยังคงพอมีอยู่นา อย่างคุณพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย คนหนึ่งล่ะ
เท่าที่ตามดู-ตามฟัง ประเด็น-เรื่องราวที่เขาพูด-เขาเขียน น่ารับฟัง-น่าเชื่อถือมาโดยตลอด อย่างล่าสุดคุณพิชิตโพสต์หัวข้อ “ซักฟอก หรือ ฟอกขาว”...
สส.ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล 3-4 เม.ย. บ้านๆ เขาเรียกศึกซักฟอกรัฐบาลแบบไม่ลงมติ หมายความว่า ศึกหลอกด่ากลางสภานั่นละ
พรรคที่ถือว่าอภิปรายได้ดีมากอันดับต้นๆ ของเมืองไทยในอดีต คือ พรรคประชาธิปัตย์
ประชาธิปัตย์อยู่ฝ่ายค้านรอบนี้เสียด้วยซิ แต่จะให้มองยังไงในเมื่อตอนลงคะแนนเสียงเลือกนายกฯ ปชป.สายหัวหน้าพรรคคนปัจจุบันยกมือเลือกเศรษฐา ทวีสิน
ตอน น.ช.ทักษิณ อยู่ รพ.ตำรวจ กมธ.สาย ปชป.ก็รำลิเก มวยล้มต้มคนดูไปรอบ
อภิปรายรอบนี้ มันจะชกสุดหมัดอยู่เหรอ กลัวจะเป็นศึกฟอกขาวให้รัฐบาลเพื่อปูทางเดินร่วมรัฐบาลในอนาคตอันใกล้ซึ่งจะมาหลังศึกซักฟอกกันแน่ๆ
ส่วนพรรคก้าวไกล ต้องรอดู เพราะในอดีต การอภิปรายไม่ไว้วางใจถือว่าสอบยังไม่ผ่าน คะแนนวาทกรรมได้เยอะกว่าคะแนนเนื้อหา รอบนี้หากเป็นเช่นเดิม
อภิปรายรอบนี้ก็ศึกฟอกขาวให้รัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการบังคับใช้กระบวนการยุติธรรมในระบบนิติรัฐไทย กรณีการบังคับการลงโทษนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบุคคลภายนอกสภา เป็นเรื่องที่รัฐบริหารโทษแบบไม่เป็นธรรม เกี่ยวข้องโดยตรงกับหลักการบริหารประเทศ”
ครับ..เมื่อวาน-3 เมษา. ก็คงจะได้เห็นลีลาฝ่ายค้านกันบ้างแล้ว แนวหน่อจะเป็นอย่างคุณพิชิตว่าหรือไม่ก็พอจะมองออก จะฟอกขาวหรือฟอกดำ รอวันนี้แหละ..รู้กัน!
เอ้า..แล้วนั่นก็ได้รู้กันทั้งบ้าน-ทั้งเมืองแล้ว เพราะตลก “จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม” บอกเองผ่านรายการ “โหนกระแส” ว่า..
“ผมยืม (เงิน) มาทั้งวงการแล้วครับพี่หนุ่ม”!
เฮ้อ..บุ๋มเอ๊ย เชิญยิ้มดีแล้ว อย่าได้ “เชิญชัง” เลย!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก
เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน
นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?
ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..
ประชาชนควรพึ่งประชาชน
วันนี้-1 มกราคม.. เริ่มต้นปฏิทินหน้าแรกของปีใหม่ พ.ศ.2568 ก็ขออนุญาตกล่าวคำอำนวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านจงมีแต่ความสุข ความสมหวัง ไม่เจ็บ ไม่จนกันนะครับ!
ผลพวงจาก 'ฉายา'
หยิกแกมหยอก หรือเหน็บแนมทีเล่นทีจริงพอได้ยิ้มหัว นั่นคือ เจตนารมณ์ ความตั้งใจแรกในการมอบฉายาให้กับ “ดารา นักร้อง คนบันเทิง” ที่ผม (สันต์ สะตอแมน) ได้เสนอต่อนายกสมาคมนักข่าวบันเทิงในยุคนั้น
เอาที่สบายใจ
อย่าเพิ่งยุบสภานะ! ผมขอร้องทั้งนายกฯ แพทองธาร ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ เพราะไม่รู้ใครมีอำนาจ (ตัดสินใจ) เหนือใครใน “รัฐบาล ‘พ่อ’ เลี้ยง” นี้?
หอยสังข์พันล้าน
จะมองว่า เป็นข่าวตลกก็มองได้.. แต่สำหรับเรื่องของกฎหมายแล้ว ผิดก็คือผิด เปรียบเหมือนขับรถฝ่าไฟแดง จะอ้างว่าฝ่าแค่ชั่วไม่กี่วินาทีไม่น่าผิดความผิดไม่ได้ฉันใด..