นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ประกาศจะให้ไทยเป็น “ฮับ” ด้านต่างๆ รวมถึงด้านเทคโนโลยี เช่น semi-conductors ทำให้เราต้องถามว่าประเทศเพื่อนบ้านของเราที่เขาก็กำลังเดินแนวทางเดียวกันนี้กำลังทำอะไรอยู่
ล่าสุด ข่าวจากปีนังของมาเลเซียทำให้เราต้องลุกขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้ให้ละเอียดรอบด้าน เพราะใครก็ประกาศเป็น “ฮับ” ได้ แต่ใครจะทำสำเร็จหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
จะมีความฝันและความทะเยอทะยานเพียงใด ถ้าไม่สามารถนำไปสู่การทำให้เกิดขึ้นจริงได้ก็เป็นเพียงคำมั่นสัญญาที่ต้องการจะสร้างภาพให้สวยงามเท่านั้น
ข่าวบอกว่ามีบริษัทต่างชาติที่สนใจจะมาลงทุนสร้าง “ชิป” ในไทยเป็นเจ้าแรกแล้ว เราก็กำลังรอคำยืนยันและรายละเอียดจากทางการอยู่
แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนมีคำประกาศจากมาเลเซียว่า บริษัท Advantech ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อุตสาหกรรมของไต้หวันกำลังเพิ่มการลงทุนในด้านการผลิตและการปฏิบัติการอื่นๆ ในมาเลเซีย
และประกาศว่าจะสร้างให้เป็น “ศูนย์กลางระดับภูมิภาค” ในการให้บริการลูกค้าทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ทางบริษัทนี้จะนำไปเปิดศูนย์แบบเดียวกันนี้ในเม็กซิโกและตุรกีด้วย
หากตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้จะพบว่าคอมพิวเตอร์และผลิตภัณฑ์ Internet of Things ของ Advantech ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ไปจนถึงระบบรถไฟความเร็วสูง
พอเกิดวิกฤตระหว่างประเทศ เพิ่มความตึงเครียดทางการเมืองไปทั่ว ทำให้เกิดปัญหาการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทไต้หวันแห่งนี้ก็เริ่มยุทธศาสตร์ขยายกิจกรรมไปหลายๆ ประเทศ
เป็นแผนการที่จะขยายขอบเขตการผลิตไปทั่วโลก และเพิ่มการลงทุนทั้งในด้านการเงินและทรัพยากรบุคคล
เพื่อสร้างให้ตนกลายเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคเพื่อตอบสนองต่อลูกค้าที่ก็ต้องการจะกระจายธุรกิจและความเสี่ยงของตนเองเหมือนกัน
เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทได้เปิด “ศูนย์บริการร่วมแห่งใหม่” รวมไปถึงการเพิ่มสายการผลิตผ่านพันธมิตรการผลิตตามสัญญาในปีนังของมาเลเซีย
ใครไปปีนังช่วงหลังจะเห็นว่าเขากำลังจะยกระดับตัวเองให้เป็น Silicon Valley ของมาเลเซียอย่างคึกคัก นอกเหนือจากจะเป็นเกาะสำหรับนักท่องเที่ยวและเป็นศูนย์กลางการศึกษาระดับสากลด้วย
บริษัทไต้หวันแห่งนี้ยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในมาเลเซียเพื่อสร้างบุคลากรที่มีความสามารถด้านวิศวกรรมชั้นสูงมาตั้งรับกับการขยายงานของตนด้วย
ผู้บริหารของ Advantech เปิดตัวเองอย่างร้อนแรงในมาเลเซีย
"เรากำลังทุ่มเทความพยายามอย่างมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราทุ่มทุนเพื่อสร้างศูนย์บริการร่วมแห่งใหม่ของอาเซียนในปีนัง ... นี่คือกลยุทธ์สำคัญของเรา - ในการเลือกสถานที่อย่างรอบคอบและแผ่ขยายการเข้าถึงของเราไปยังทั่วภูมิภาค” Vincent Chang กรรมการผู้จัดการของ Advantech ประจำภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคข้ามทวีปกล่าวกับ Nikkei Asia
"เราจะจำลองกลยุทธ์นี้ในเม็กซิโกและตุรกีในภายหลัง ดังนั้นโมเดลนี้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงต้องประสบความสำเร็จ”
น่าสนใจว่าบริษัทระดับสากลอย่างนี้ เวลาที่เขาวางแผน เขามองทั้งโลกเป็นแหล่งผลิตและตลาดไปพร้อมๆ กัน
เขาแบ่งตลาดเกิดใหม่ออกเป็น 4 ภูมิภาคกว้างๆ ได้แก่ เอเชียแปซิฟิก อินเดีย ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา
ยอดขายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น 200% ในช่วงหกหรือเจ็ดปีที่ผ่านมา เพราะความต้องการจากบริษัทต่างๆ ที่ต้องการจะลดความเสี่ยงด้วยการกระจายห่วงโซ่อุปทานของตน เพราะไม่ต้องการจะถูกเหตุการณ์ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์มากระทบต่ออนาคตของธุรกิจของตน
เขามองถึงพลวัตของตลาดที่มีส่วนเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทาน 'China+1'”
นั่นหมายความว่านโยบายของต่างชาติที่ไปลงทุนในจีนจะต้องคิดหาอีกประเทศหนึ่งในอาเซียนที่จะกระจายความเสี่ยง และเป็น “หลุมหลบภัย” ในกรณีเกิดความขัดแย้งรุนแรงด้วย
เขาเลือกปีนังเพราะเคยเป็น 'ซิลิคอนแวลลีย์แห่งตะวันออก' ที่ต้องการจะฟื้นคืนบทบาทนี้อย่างคึกคัก
อีกทั้งยังมีห่วงโซ่อุปทาน หรือ suppliers ที่มีเทคโนโลยีสูงจำนวนมากรวมตัวกันที่นั่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เขามองว่าศูนย์บริการร่วมแห่งนี้จะตอบสนองความต้องการจากตลาดอาเซียน เช่น สิงคโปร์ เวียดนาม ไทย และอินโดนีเซีย
เขาเลือกปีนังด้วยเหตุผลอันใด?
ผู้บริหารของ Advantech ยอมรับว่ามาเลเซียไม่ใช่ตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่วัฒนธรรมและภาษาที่หลากหลาย รวมถึงบุคลากรคุณภาพสูงจะเป็นประโยชน์ต่อกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัท
อีกทั้งยังสามารถจับมือกับซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นเพื่อจ้างบุคคลภายนอกในการผลิตในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นหมายถึงความคล่องตัวในแง่ของคุณภาพของคนและเครือข่ายของ suppliers ที่มีประสิทธิภาพสูง
เขาตั้งเป้าที่จะขยายทีมวิศวกรในอาเซียน และในระยะยาวจะพัฒนากลุ่มผู้มีความสามารถระดับภูมิภาคที่ธุรกิจต่างๆ ของบริษัทสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
เขาจะสร้างคนอย่างไร?
หนึ่งในกลยุทธ์คือการทำบันทึกความเข้าใจกับมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์มาเลเซีย เพื่อสร้างห้องปฏิบัติการ "ปัญญาประดิษฐ์ของสรรพสิ่ง" ภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือในประเทศไทย เพื่อปลูกฝังผู้มีความสามารถในอุตสาหกรรม Internet of Things
เรามีสถาบันชั้นสูงในเรื่องเหล่านี้ที่ต่างชาติมองเห็นความสำคัญแล้ว อยู่ที่เราจะใช้ศักยภาพของเราเองให้เต็มที่กว่าที่ผ่านมาอย่างไรเท่านั้น
เขามีหลักคิดที่ว่า หากจะสำเร็จในระยะกลางและระยะยาวต้องสร้างบุคลากรที่เก่งขึ้นมาตลอดเวลา
การสร้าง “ทุนมนุษย์” หรือ human capital ต้องไม่มองว่าเป็น “ค่าใช้จ่าย” หากแต่เป็นการ “ลงทุน” เพื่ออนาคตและความยั่งยืน
ส่วนหนึ่งของแผนงานคือการเปิดกว้างให้นักศึกษาของสถาบั้นชั้นสูงของมาเลเซียมาเป็นนักศึกษาฝึกงานและวิศวกรของบริษัทได้ในอนาคตอันใกล้นี้
นี่คือตัวอย่างเล็กๆ ของการรุกคืบของบริษัทในภูมิภาคที่มองเห็นอาเซียนเป็นโอกาสใหม่
ขณะที่เราพยายามจะสร้างตัวเองเป็น “ฮับ” โน่น “ฮับ” นี่ สิ่งสำคัญคือต้องตอบคำถามเรื่อง supply chain และ human capital
สองเรื่องที่ผมยังมองไม่เห็นยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนของรัฐบาลนี้ ขณะที่คนอื่นเขากระโดดเข้ามาใกล้บ้านเราพร้อมกับ “ปัจจัยที่ขาดไม่ได้” ค่อนข้างจะล้ำหน้ากว่าเราไปแล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ