เชื่อ-ไม่เชื่อก็สุดแท้

ไม่ได้จะโพนทะนา

แต่..ฟังจากขี้ปากของคนที่รู้ลึก-รู้ดีมา เล่าว่าเวลานี้นักร้องลูกทุ่งสาวหน้าตาสะสวย (ไม่ใบ้อักษรย่อ) กำลังเผชิญกับมรสุมชีวิตขั้นรุนแรง

หนี้สินท่วมตัว จนต้องบากหน้าไปวอนขอความช่วยเหลือจากพระสงฆ์องคเจ้าอย่างน่าอเนจอนาถใจ ซึ่งพระท่านก็ได้ให้ความเมตตา..

ช่วยเหลือเจือจุนมากบ้าง-น้อยบ้าง ตามกำลังที่พระท่านมี!

ถามว่าทำไมชีวิตหักเหถึงเพียงนี้ทั้งๆ ที่ดูจากภายนอกแล้ว เธอเหมือนจะมีความสุขสบายดี มีแฟน มีบ้าน มีรถ มีงานร้องเพลง-ออกทีวีอยู่เป็นประจำ

 “ติดการพนัน” คนที่เล่าว่าอย่างนั้น.. “หา” ผมตกใจจริงๆ ไม่ได้เสแสร้ง เพราะเท่าที่สัมผัส-รู้จักนักร้องลูกทุ่งสาวท่านนี้มา เธอดูเรียบร้อยดังผ้าพับ

พูดจาอ่อนหวาน ยิ้มแย้มแจ่มใจ มีสัมมาคารวะ ไม่เคยได้ยินเสียงซุบซิบนินทา..ติดเหล้า ติดยา ติดการพนันมาก่อนเลย!

 “แฟนเล่นหนักมาก” คนที่เล่าขยายความ.. “เธอก็เลยพลอยติดการพนันไปด้วย และพอติดเล่นก็เสียงานเสียการ งานร้องเพลงจึงเลยไม่ค่อยมี ต้องขายรถ ยืมเงินเขาไปทั่ว น่าสงสาร”

นี่..ที่นำมาเล่าสู่กันฟังก็ไม่ได้จะซ้ำเติม หรือ “สมน้ำหน้า” แต่หากจะสื่อสารไปถึงเธอได้ อยากบอกว่า..เลิกได้ก็เลิกเสียเถอะ ทั้งแฟน-ทั้งการพนันนั่นแหละ!

อาชีพนักร้อง-ดารา ควรจะมีแฟนที่มาช่วยสนับสนุน ส่งเสริม ไม่ใช่เอามาเพื่อความมันส์ เพื่อความสนุก แล้วก็ผลาญเงิน กินเหล้าเมายา ติดการพนัน..เชื่อ-ไม่เชื่อก็สุดแท้!

และนั่น..จะยังเชื่ออยู่อีกไหม ก็ที่นายทักษิณ นักโทษอยู่ระหว่างกันพักโทษพูดตอนนู้น..

“การกลับไปไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ผมอยากเลี้ยงหลาน ผมคิดถึงหลาน มีหลาน 7 คน วัยอย่างผมเรียกว่าเป็นวัยรักลูก หลงหลาน หลานมาอยู่ใกล้ๆ แล้วจะมีความสุขมาก

เวลาเราอยู่กับสิ่งที่บริสุทธิ์ อากาศบริสุทธิ์ก็มีความสุข อยู่กับคนที่รักเราอย่างบริสุทธิ์ก็มีความสุข” นั่นไงล่ะ!

เห็น “เพจบิ๊กแดง” โพสต์.. “ไม่ได้กลับมาเลี้ยงหลาน แต่กลับมาเลี้ยงหมาในคอก..หนักแผ่นดิน” 

ก็..แสดงว่า หมดความเชื่อถือไปแล้ว แต่จะยังคบหาสมาคมกันต่อไปหรือไม่ ก็คอยตามดูกันไป ส่วนคุณจตุพร พรหมพันธุ์ ได้แสดงความคิดเห็นว่า..

“ข้อความที่โพสต์ว่า ไม่ได้กลับมาเลี้ยงหลานนั้น แสดงว่าการเลี้ยงหลานอยู่ในดีลการกลับบ้านของทักษิณ ชินวัตร แต่วันนี้ไม่มีใครพูดถึงการเลี้ยงหลานแล้ว

หากตกลงกันว่าจะมาทำพรรคการเมือง หรือจะเดินงานการเมืองต่อ คงไม่มีใครจะกล้าไปดีลด้วย”

คุณจตุพรยังบอกด้วยว่า.. “คู่ดีลกับทักษิณนั้น คงไม่ต้องการยื้อเวลาดีลจนข้ามวันที่ 11 พ.ค. ที่ สว.จะหมดวาระแน่นอน

เนื่องจากส่วนหนึ่งไม่ต้องการไปเผชิญหน้ากับการตีความ สว.รักษาการทำหน้าที่อะไรได้บ้าง แต่ก่อนจะถึงวันดังกล่าว คู่ดีลได้วางแผนไว้อย่างรัดกุมหลายชั้นเพื่อปกป้องการถูกเบี้ยวดีล

และถ้าเกิดการเบี้ยวกันจริงๆ แล้ว จะปรับวิธีการจัดการกันอย่างไรให้สมน้ำสมเนื้อและให้สอดคล้องกับปัญหาที่ถูกเบี้ยว..

ถึงขณะนี้เริ่มมีปฏิบัติการสะท้อนให้เห็นแล้วว่า ถ้ามีการเบี้ยวดีลกันแล้ว จะเกิดปฏิบัติการตอบโต้อย่างหนักหน่วงกว่าทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมา

โดยสถานการณ์ขณะนี้ทำท่าจะผิดดีลกันแล้ว และเรื่องการกลับบ้านมาเลี้ยงหลานนั้นชัดเจนว่า จะไม่เป็นไปตามที่ดีลกันไว้”

ครับ..เชื่อ-ไม่เชื่อ ก็สุดแท้ (อีกแล้ว)!.

 

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก

เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน

นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?

ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..

ประชาชนควรพึ่งประชาชน

วันนี้-1 มกราคม.. เริ่มต้นปฏิทินหน้าแรกของปีใหม่ พ.ศ.2568 ก็ขออนุญาตกล่าวคำอำนวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านจงมีแต่ความสุข ความสมหวัง ไม่เจ็บ ไม่จนกันนะครับ!

ผลพวงจาก 'ฉายา'

หยิกแกมหยอก หรือเหน็บแนมทีเล่นทีจริงพอได้ยิ้มหัว นั่นคือ เจตนารมณ์ ความตั้งใจแรกในการมอบฉายาให้กับ “ดารา นักร้อง คนบันเทิง” ที่ผม (สันต์ สะตอแมน) ได้เสนอต่อนายกสมาคมนักข่าวบันเทิงในยุคนั้น

เอาที่สบายใจ

อย่าเพิ่งยุบสภานะ! ผมขอร้องทั้งนายกฯ แพทองธาร ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ เพราะไม่รู้ใครมีอำนาจ (ตัดสินใจ) เหนือใครใน “รัฐบาล ‘พ่อ’ เลี้ยง” นี้?

หอยสังข์พันล้าน

จะมองว่า เป็นข่าวตลกก็มองได้.. แต่สำหรับเรื่องของกฎหมายแล้ว ผิดก็คือผิด เปรียบเหมือนขับรถฝ่าไฟแดง จะอ้างว่าฝ่าแค่ชั่วไม่กี่วินาทีไม่น่าผิดความผิดไม่ได้ฉันใด..