เศรษฐกิจไทยจะไปทางไหนต่อ

ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยเวลานี้เหมือนคนป่วยโรคเรื้อรัง ที่อาการแค่ดีขึ้นเล็กน้อย แต่รักษายังไม่หายขาด ส่งผลให้การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ยังคงติดๆ ขัดๆ นับตั้งแต่ผ่านพ้นจากวิกฤตโควิดมากว่า 2 ปี

ล่าสุด ดร.เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลกประจำประเทศไทย ออกมาคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 67 ซึ่งมีการแจ้งปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 67 ลงเหลือ ขยายตัว 2.8% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 3.2%

โดยประเด็นสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยยังโตแบบกระท่อนกระแท่นแบบนี้ มีสาเหตุหลักๆ มาจากการค้าโลกที่ชะลอลง และนโยบายการคลังและงบประมาณที่ล่าช้า ทำให้การลงทุนภาครัฐชะลอลง ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าสุดในอาเซียน

และมองดูจากการบริหารงานของรัฐบาลปัจจุบัน ตอนนี้ก็ยังไม่มีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แน่ชัด จะมีก็เพียงโครงการแจกเงินหมื่นผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งตอนนี้รายละเอียดก็ยังคลุมเครือ และคงต้องรอการแถลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 เมษายนที่จะถึงนี้ ว่าจะออกมาเป็นเช่นไร แต่โครงการนี้ก็เป็นเหมือนดาบสองคม เพราะภาครัฐจะต้องหาเงินมาใช้กว่า 5 แสนล้านบาท ก็ทำให้ต้องมีภาระต้นทุนการคลังที่เพิ่มขึ้น 

รวมถึงการผลักดันการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ที่ยังถือว่าลูกผีลูกคน และยังต้องฝ่าอีกหลายด่านกว่าจะเกิดขึ้นได้จริง 

ส่วนนโยบายลงทุนแลนด์บริดจ์ ก็ดูเหมือนจะเป็นโครงการขายฝัน ที่น่าจะหาแนวร่วมที่จะเข้ามาลงทุนได้ยากเสียแล้ว

ดังนั้น เวลานี้จึงมองว่านโยบายทางด้านเศรษฐกิจอื่นๆ ก็ยังไม่มีอะไรหวือหวา และพอจะฝากผีฝากไข้ในการปลุกเศรษฐกิจได้เลย จนเกิดคำถามว่า ตอนนี้เศรษฐกิจของไทยจะไปทางไหนต่อ ซึ่งนี่คือคำถามสำคัญที่เป็นโจทย์ที่ท้าทายทีมรัฐบาลที่ต้องตีปมให้ออก ก่อนที่จะวางนโยบายในการบริหารจัดการ

โดยล่าสุดทางธนาคารโลกมีการออกรายงาน วิเคราะห์แนวทางการพัฒนาประเทศอย่างเป็นระบบสำหรับประเทศไทย ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2567 จึงขออนุญาตคัดลอกมาให้เป็นแนวทางและข้อเสนอแนะให้รัฐบาล นำไปประยุกต์ใช้ต่อ

ซึ่งรายงานฉบับนี้ได้เสนอปัจจัยที่ช่วยให้ไทยเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจและพัฒนาสู่ประเทศรายได้สูงได้ภายในปี 2580 ประกอบไปด้วย 1.ให้ไทยเร่งเสริมสร้างการพัฒนาทุนมนุษย์ ให้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและเท่าเทียม 2.การส่งเสริมเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันและพัฒนานวัตกรรม 3.ส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่เมืองคาร์บอนต่ำ  การใช้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ ป้องกันผลกระทบจากภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ 4.รวมทั้งต้องปฏิรูปหน่วยงานด้านการคลังและการจัดสรรงบประมาณภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ

แต่นี่ถือว่าเป็นเรื่องการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจแบบครั้งใหญ่ ที่จะต้องรีบลงมือเข้ามาจัดการ หากต้องการจะยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ.

 

ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผ่าแผนรับมือรถติดสร้างสายสีส้ม

จากการที่รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เตรียมจัดการจราจรเพื่อดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

เปิดขุมทรัพย์จากพฤติกรรมสุดขี้เกียจ

เชื่อหรือไม่ว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่กดสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรี ทั้งที่ร้านอยู่ใกล้แค่ใต้คอนโดฯ สั่งซื้อของจากร้านสะดวกซื้อทั้งที่ร้านอยู่แค่ฝั่งตรงข้าม หรือยอมจ่ายเงินจ้างคนไปต่อคิวเพื่อซื้อของ ทำธุระ

สงครามการค้าเวอร์ชัน 2.0

อย่างที่ทราบกันดีว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐล่าสุด ผู้ชนะก็คือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งคว้าชัยแบบทิ้งห่างคู่แข่งอย่างนางกมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต

แห่ส่งเสริมนวัตกรรมพลิกโลก

เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต ออฟ ติงส์ หรือ IoT(ไอโอที) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญในยุคสมัยนี้ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นนวัตกรรมที่ทำให้การสื่อสารระหว่างมนุษย์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไร้รอยต่อยิ่งขึ้น

OCAแก้วิกฤตพลังงานไทย

ปัจจุบันปริมาณสำรองก๊าซของไทยลดลงอย่างต่อเนื่องจนเข้าขั้นวิกฤต ส่งผลให้ต้องนำเข้าก๊าซ LNG ในราคาที่ผันผวนเพิ่มมากขึ้น มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นของประชาชนและรายได้งบประมาณของรัฐลดลง

แอ่วเหนือ...คนละครึ่งบูมเศรษฐกิจ

จากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ทั้งในแง่ของการคมนาคม เดินทางเข้าสู่พื้นที่และความเสียหายต่อแหล่งท่องเที่ยว