
"ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด" การเมืองสัปดาห์นี้กลับมาร้อนแรง หลังฝ่ายค้านนำโดยพรรคก้าวไกลจะเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ภายใต้ธีม "รัฐบาลเพื่อใคร หัวใจไม่ใช่ประชาชน" ในวันที่ 3-4 เม.ย.นี้
เพจพรรคก้าวไกล – Move Forward Party โพสต์หนังตัวอย่างว่า 7 เดือนเต็ม หลังการขึ้นบริหารประเทศของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาลผสมข้ามขั้วระหว่างเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เกือบครบทุกพรรค
7 เดือนที่ประชาชนที่ผิดหวังกับการจัดตั้งรัฐบาล ยังหวังว่าปัญหาเศรษฐกิจปากท้องจะดีขึ้น เชื่อว่ารัฐบาลเพื่อไทยที่พิสูจน์ฝีมือมาแล้วในอดีต จะนำพาประเทศไทยไปข้างหน้า แก้ปัญหาของประชาชนที่หมักหมมมากว่า 10 ปีได้
แต่วันนี้ดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่มา ค่าแรงขึ้นเป็นหย่อมๆ ค่าไฟแพงขึ้นเรื่อยๆ ลูกหลานยังต้องไปเกณฑ์ทหาร นักโทษคดีการเมืองยังติดคุก (และบางคนได้กลับบ้าน)
วันนี้เกิดคำถามว่า รัฐบาลเพื่อไทยกำลังทำเพื่อใคร? เพื่อประชาชน หรือเพื่อคนที่หนุนนำให้ได้ตั้งรัฐบาล? รัฐบาลที่จัดตั้งมาโดยฝืนความต้องการของประชาชน จะรับใช้ประชาชน หรือรับใช้คนที่อนุญาตให้ตนได้กลับมามีอำนาจ?
วันที่ 3-4 เมษายนนี้ เชิญชวนประชาชนทุกท่านร่วมรับฟังการอภิปรายทั่วไป พรรคก้าวไกลจะนำทุกท่านไปหาคำตอบว่า รัฐบาลเพื่อใคร? ทำไมในหัวใจ ไม่ใช่ประชาชน
สิ่งที่กล่าวหาถือว่าเป็นสิ่งที่หลายคนกังขา แต่สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นว่าพรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่อย่างสมศักดิ์ศรีหรือไม่ คงเป็นประเด็น จะกล้าแตะ "ทักษิณ ชินวัตร" แบบจริงจังหรือไม่ หากทำจริงก็อาจลบครหาเดิมๆ ลงได้ หลังนายทุนของพรรคนี้เคยมีข่าวดีลกันที่ประเทศฮ่องกงช่วงจัดตั้งรัฐบาล
และสิ่งที่พรรคก้าวไกลต้องรับรู้ไว้ "ทักษิณ" ถือเป็นศัตรูอันดับหนึ่ง เพราะได้ถูกเชิดเป็นหัวหอกของฝ่ายอนุรักษนิยมใหม่ และมีภารกิจสำคัญเพื่อขวางไม่ให้พรรคส้มได้เป็นรัฐบาลนั่นเอง แม้ต้องแลกกับความเสียหายของกระบวนการยุติธรรมของประเทศก็ตาม
ถึงขนาดที่ปรึกษาของนายกฯ "ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ" สุดทน ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า บ่ายนี้คนที่ทำงานในกระบวนการยุติธรรมหลายคนมาบ่นกับผมว่าต้องทำคดีตาม “ธง” ที่ผู้ใหญ่ปรารถนา ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ว่าผิดหลักการ ขัดหลักกฎหมาย และก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาว เราจะอยู่กันอย่างนี้จริงๆ หรือ... ไม่รู้งานนี้ "นายกฯ นิด" เห็นแล้วจะว่าอย่างไรที่ทีมที่ปรึกษาของตัวเองแซะ "นายใหญ่เพื่อไทย"
เพราะ "นายกฯ นิด" เป็น "คนตาบอดไม่กลัวเสือ" หรือเป็นคนพูดตรงเกินไป ซึ่งทางการเมืองบางครั้งต้องคำนึงถึงเรื่องมารยาท ล่าสุดให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าว FRANCE 24 ประเทศฝรั่งเศสตอนหนึ่งถึงการนำกัญชาให้กลับมาอยู่ในบัญชียาเสพติด
โดยเห็นว่าที่ผ่านมาการประกาศให้กัญชาถูกกฎหมายสร้างความเสียหายให้กับคนไทยอย่างใหญ่หลวง มากกว่าจะมีผลทางเศรษฐกิจ
ปะหน้า "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย (มท1.) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เคยผลักดันนโยบายกัญชาทางการแพทย์ ออกมาสอนมวยนิ่มๆ ในทำนองว่า หากเรื่องกัญชาไม่ดีจริง และไม่ทำเพื่อทางการแพทย์และเศรษฐกิจ รัฐบาลชุดนี้นำโดยพรรคเพื่อไทยคงไม่บรรจุไว้ในนโยบายของรัฐบาล และนายกฯ เองก็เป็นคนแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา ให้ประชาชนรับทราบกันทั่วประเทศ
“ขอยืนยันว่ากัญชงกัญชาถ้าใช้อย่างถูกวิธีมีประโยชน์และเพิ่มค่าทางเศรษฐกิจได้ มีคนได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการสร้างผลิตภัณฑ์กัญชงกัญชามากมาย อย่างเช่นประเทศเยอรมนี และอีกหลายประเทศที่มีความก้าวหน้าทางการแพทย์ และเขาก็ยอมรับในการใช้กัญชาเพื่อทางการแพทย์ ไม่ได้ใช้ในเชิงสันทนาการ”.
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
บันทึกจันทร์สุดท้ายของปี 2568 อีกไม่กี่เพลาก็จะขึ้นศักราชใหม่ 2569 ...ประเทศไทยจะก้าวไปทางไหน?!?.. ก็ขอบันทึกสะกิดเตือน @ บรรทัดนี้เลยว่า ใจเย็นๆ ค่อยๆ พินิจพิจารณา ประมวลข้อมูล ทบทวน ไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบแล้วจึงค่อยตัดสินใจว่า เลือกตั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ เราอยากได้ใครมาเป็น "ผู้นำ" พาชาติบ้านเมืองไปสู่ทิศทางที่เหมาะที่ควร!!
บันทึกหน้า 4
จาก "หนู" หนึ่งเดียว กลายเป็นสอง ก่อนหน้านี้ถามกันทุกวันถึง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของภูมิใจไทย ในงานแถลงนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชัดเจนว่า "อนุทิน ชาญวีรกูล" ฉายเดี่ยว โฆษกพรรคย้ำแล้วย้ำอีก
เข้าใจคนชายแดน
ถ้าเอ่ยชื่อ กวาง–ไตรศุลี ไตรสรณกุล นาทีนี้ หลายคนคงนึกถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหญิงของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานเงียบ สุขุม แต่เดินเกมเร็ว ไม่หวือหวา ทว่าจับงานอยู่หมัด
บันทึกหน้า 4
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกรุ่นอยู่ต่อเนื่องอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ แม้วันที่ 24 ธ.ค.2568 จะเป็นวันแรกในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ในวาระพิเศษ
บันทึกหน้า 4
การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ไทยยังเหนือกว่าทุกด้าน สมรภูมิตามแนวชายแดน ทหารกล้าของเราบุกยึดพื้นที่คืนกลับมาเกือบเบ็ดเสร็จ ในเวทีสากล นานาชาติก็เข้าใจสถานการณ์ดี
บันทึกหน้า 4
บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”

