เมื่อโอบามา, คลินตัน ต้องออก มาช่วยไบเดนระดมทุนสู้ทรัมป์

คงเป็นด้วยความกลัวในพรรคเดโมแครตว่าถ้าไม่มีการระดมสรรพกำลังกันภายในพรรค, โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งรีพับลิกัน จะสามารถคว่ำโจ ไบเดน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีนี้เป็นแน่แท้

เราจึงได้เห็นภาพที่หาดูได้ยากเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

นั่นคือการมาปรากฏตัวของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา และบิล คลินตัน พร้อมกับโจ ไบเดน ในงานระดมทุนช่วยไบเดนหาเสียง

งานนี้กวาดเงิน $26 ล้าน (กว่า 900 ล้านบาท) 

โดยผู้ที่เข้าร่วมงานต้องซื้อตั๋ววีไอพีหัวละ$500,000 (ประมาณ 18 ล้านบาท) กันเลยทีเดียว

เป็นอีเวนต์ยักษ์ที่เราเห็น 3 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งพรรคเดโมแครต พร้อมด้วยคนดังจากวงการบันเทิงที่ประกาศรวมพลัง เปิดระดมทุนครั้งสำคัญเพื่อช่วยไบเดนสกัดกั้นทรัมป์ให้จงได้

งานมีขึ้นเมื่อคืนวันพฤหัสบดีในนครนิวยอร์ก ขึ้นเวทีพร้อมกันที่ Radio City Music Hall ใจกลางเกาะเเมนฮัตตัน  

เป็นบรรยากาศแสนคึกคัก

ผู้คนลืม “ความเป็นท่านผู้เฒ่า” ของโจ ไบเดน ไปได้ชั่วคราวทีเดียว

มาขึ้นเวทีทั้งที ก็ต้องแสดง มีการอวยกันให้เต็มที่

โอบามาบอกว่าไบเดนคือ "ประธานาธิบดีในเเบบที่ผมต้องการ" คลินตันบอกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีนี้ ประชาชนคนอเมริกันจะต้อง "ยึดกับสิ่งที่จะทำให้ระบบมันเดินต่อไปได้"

ไบเดนถือโอกาสซัดทรัมป์ว่าคู่แข่งของเขาคนนี้เป็นนักการเมืองที่มีความคิดความอ่าน “ค่อนข้างเก่าและล้าสมัย”

พิธีกรของงานก็เป็นนักพูดคนดัง สตีเฟนโคลเเบร์ ใช้มุกตลกแกมเสียดสีเล่นงานทรัมป์เช่นกัน

“รู้ไหมว่าเรามีประธานาธิบดี 3 คนมานิวยอร์ก แต่ไม่มีใครใน 3 คนนี้ที่มาเพื่อปรากฏตัวที่ศาล"

ก็เพราะทรัมป์กำลังต้องฟันฝ่าคดีต่าง ๆ มากมายในระหว่างที่การหาเสียงของทั้งสองค่ายกำลังดำเนินไปอย่างร้อนแรง

ไบเดนคงต้องหวั่นไหว และเรียกร้องให้โอบามาและคลินตันมาปราฏตัวเพื่อช่วยกระตุ้นเสียงสนับสนุนตน

เพราะผลโพลหลายสำนักยังให้ไบเดนในระดับต่ำ และทรัมป์นำอยู่ในหลายการสำรวจด้วยซ้ำไป

ค่ายทรัมป์คงปลอบใจตนเองว่าครั้งที่ผ่านมา ทรัมป์สามารถเอาชนะฮิลลารี คลินตัน โดยไม่จำเป็นต้องระดมทุนได้มากกว่าคู่แข่ง

หน้าบริเวณงานมีทั้งผู้สนับสนุนและผู้ประท้วง

หนึ่งในกลุ่มที่มาชุมนุมคือคนประท้วงนโยบายของไบเดนต่อสงครามในฉนวนกาซา

และต่อต้านการที่วอชิงตันสนับสนุนอิสราเอล

สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า คนดังที่มาช่วยระดมทุนครั้งนี้มีเช่น ลิสโซ, มินดี คาลิง, ควีน ลาติฟาห์, เบน เเพลตต์, ซินเธีย อีริโว  และดีเจ ดีไนซ์

ราคาตั๋วเข้าร่วมรายการมีตั้งแต่ 225 ดอลลาร์ (ประมาณ 8,000 บาท) จนถึง 1 แสนดอลลาร์ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) สำหรับใครที่ขอโอกาสถ่ายรูปกับไบเดน โอบามา และคลินตัน ทั้ง 3 คน

แต่ถ้าจะสนทนาแบบ exclusive กับทั้ง 3 คน ก็ต้องควัก 500,000 เหรียญฯ หรือประมาณ 18 ล้านบาท

ด้านค่ายทรัมป์นั้น ทีมงานคาดว่าจะระดมทุนได้ 33 ล้านดอลลาร์จากกิจกรรมสัปดาห์นี้ หรือประมาณ 1,155 ล้านบาท

โดยกำหนดสถานที่ไว้ที่เมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา 

วันที่ไบเดนจัดงานระดมทุน ทรัมป์ก็ไปอยู่เขตนิวยอร์กเหมือนกัน

โดยอ้างว่ามาร่วมงานพิธีรำลึกเจ้าหน้าที่ตำรวจนิวยอร์ก โจนาธาน ดิลเลอร์ ที่ถูกยิงเเละเสียชีวิตขณะเรียกให้รถหยุดในเขตควีนส์

โอบามากับคลินตันพยายามจะวาดภาพว่าหน้าที่การงานของไบเดนเป็นงานที่ “หิน”  มาก

เพราะการเป็นผู้นำสหรัฐฯ นั้นต้องเผชิญกับความเหงาและความหงุดหงิดกับนโยบายที่อาจได้ผล แต่สาธารณชนไม่ได้รู้สึกในทันที 

จะเรียกว่า Biden-Obama-Clinton Show ก็ไม่ผิดนัก

เพราะพิธีกรจัดให้มีการพูดคุยสลับกันเป็นเรื่องตลกขบขันและจริงจัง 

จบลงด้วยการสวมแว่นกันแดดทั้งสามในห้องแสดงดนตรีที่มืดหม่นเป็นส่วนใหญ่ 

ถือเป็นการยกย่องแว่นกันแดด Ray-Ban ที่เป็นเครื่องหมายการค้าที่ไบเดนมักสวมออกงาน

ไม่แน่ชัดว่าแว่นยี่ห้อนี้เป็นหนึ่งในผู้บริจาคเงินเข้าพรรคหรือไม่

แต่งานนี้บัตรขายเกลี้ยง ถือเป็นการส่งสัญญาณทางบวกให้กับไบเดนไม่น้อย

ไบเดนได้เยี่ยมชมสมรภูมิการหาเสียงหลายแห่งในช่วงสามสัปดาห์นับตั้งแต่คำปราศรัยรายงานประจำปีต่อรัฐสภาที่เรียกว่า State of the Union 

มีป้ายพร้อมข้อความส่งเสริม “ค่ำคืนกับโจ ไบเดน บารัก โอบามา บิล คลินตัน” ตั้งเรียงรายตามถนนโดยรอบ เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ผู้ประท้วงมีกิจกรรมที่ทำให้การแสดงหยุดชะงักในช่วงสั้นๆ โดยได้รับคำมั่นจากไบเดนที่จะดำเนินการต่อไปเพื่อหยุดยั้งการเสียชีวิตของพลเรือน 

โอบามาบอกผู้อยู่ในห้องประชุมที่แน่นขนัดว่า “ท้ายที่สุดแล้ว คุณต้องเลือกว่าใครจะมองเห็นคุณและห่วงใยคุณบ้าง ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผู้ชายอีกคนไม่ได้ทำแบบนั้น”

ณ จุดหนึ่งพิธีกรบอกว่าเขาสงสัยว่าคนอเมริกันบางคนลืมแง่มุมที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงวันที่ 6 มกราคม 2021 

อันเป็นวันแห่งความมืดมนสำหรับประชาธิปไตยของสหรัฐ

เมื่อกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์บุกตึกรัฐสภาของสหรัฐอเมริกาอย่างรุนแรงด้วยความพยายามที่จะล้มล้างผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 

ไบเดนบอกว่า เขากังวลเกี่ยวกับเหตุจลาจลวันนั้น เพราะมันดังก้องไปทั่วโลก

ทำให้ผู้นำต่างชาติตั้งคำถามถึงเสถียรภาพของระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐฯ 

ไบเดนย้ำว่า “ประชาธิปไตยของเรายังคงเปราะบาง”

สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง Jill Biden ก็มาร่วมอย่างคึกคัก เพราะเธอเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนอย่างเต็มพิกัด

เมื่อโอบามาและคลินตันทุ่มสุดตัวอย่างนี้ หากไบเดนยังแพ้ทรัมป์ก็คงจะเป็นปราฏการณ์ที่ “เกินฝัน” จริงๆ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ

แหล่งค้ามนุษย์ใน 3 เหลี่ยมทองคำ

เขตเศรษฐกิจพิเศษหรือ SEZ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่โยงกับไทยนั้นกลายเป็นประเด็นเรื่องอาชญกรรมข้ามชาติที่สมควรจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยอย่างจริงจัง

พรุ่งนี้ ลุ้นดีเบตรอบแรก โจ ไบเดนกับโดนัลด์ ทรัมป์

ผมลุ้นการโต้วาทีระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มิถุนายน) เพราะอยากรู้ว่า “ผู้เฒ่า” สองคนนี้จะมีความแหลมคมว่องไวในการแลกหมัดกันมากน้อยเพียงใด

เธอคือ ‘สหายร่วมรบ’ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค NLD คนสุดท้าย!

อองซาน ซูจีมีอายุ 79 ปีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา...และยังถูกจำขังในฐานะจำเลยของกองทัพพม่าที่ก่อรัฐประหารเมื่อกว่า 3 ปีที่แล้ว

อองซาน ซูจี: เสียงกังวล จากลูกชายในวันเกิดที่ 79

วันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมาคือวันเกิดที่ 79 ของอองซาน ซูจี...ในวันที่เธอยังถูกคุมขังเป็นปีที่ 4 หลังรัฐประหารโดยพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2021