กรรมเก่า-กรรมใหม่-และการชดใช้

กว่าจะถึงจุดที่ บิ๊กต่อ-เละ-คาโจ๊ก หรือ โจ๊ก-เละ-จนไม่ต้องเสียเวลาต่อ อะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ มันคงต้องใช้เวลาสะสมและสั่งสมมาอย่างชนิดยืดเยื้อ ยาวนาน พอสมควร คือไม่ใช่เป็นเรื่องที่จู่ๆ จะเกิดขึ้นมาแบบปุ๊บๆ ปั๊บๆ เพราะระดับผู้ที่สามารถผงาดขึ้นมาเป็น ผบ.ตร.-รอง ผบ.ตร. อันถือเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายตั้งแต่ต้นน้ำ ดันมาเละเป็นขี้ เละเป็นโจ๊กซะเอง อันนี้..มันคงต้องผ่าน กรรมเก่า-กรรมใหม่ มาจนแทบไม่ต้องเสียเวลาไปถามหา ท่านสารวัตร ใดๆ เอาเลยก็ว่าได้...

ไม่ต่างอะไรไปจากเรื่อง นักโทษชั้น 14 หรือ เทวดาชั้น 14 เขานั่นแหละ...ถ้าไม่ใช่ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...ที่ได้สะสมและสั่งสมมานานเต็มที โอกาสที่จะนำมาซึ่งสิ่งนี้ หรือนำมาซึ่งอากัปกิริยาปานประดุจ ช้างเหยียบนา-พญาเหยียบเมือง ชนิดไม่ว่าตาเถร-ยายชี-พระไทย-พระพม่า ฯลฯ ต่างต้องมีอัน ตกเก้าอี้ 

แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ว่าอะไรมันจะไร้มาตรฐานแทบไม่หลงเหลือมาตรฐานใดๆ อีกต่อไปแล้ว สำหรับกฎ-ระเบียบ-กติกา ไปจนถึงวัฒนธรรม-ประเพณี หรือแม้กระทั่ง ค่านิยมทางสังคม ไปโน่นเลย...

คือมันต้องเต็มไปด้วยสิ่งนี้-สิ่งนี้มานานแล้ว...เพียงแต่อาจ ถูกซุกไว้ใต้พรม หรือใต้กองขยะ กองระเกะระกะใดๆ ก็แล้วแต่ โดยที่ต่างฝ่าย หรือโดยที่เราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลายนี่แหละ ต่างพยายาม มองไม่เห็น หรือไม่คิดจะมอง เลยทำให้สิ่งต่างๆ ค่อยๆ กระทำกิริยา-ปฏิกิริยา จนสุดท้าย...ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้ จึงนำมาซึ่งสิ่งนี้จนได้!!! โอกาสที่จะแก้ไข เยียวยา ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง มันเป็นไปด้วยดี จึงย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หรือไม่ง่ายแบบการแก้กรรม-สแกนกรรม ที่พวกพุทธพาณิชย์ทั้งหลายเขาชอบออกมาป่าวร้องโฆษณาอย่างเป็นที่เอิกเกริก แต่สุดท้าย...แทบช่วยอะไรไม่ได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ก่อเวร-ก่อกรรมมานานเต็มที มีแต่ต้องพร้อม ชดใช้ ลูกเดียวเท่านั้น มันถึงจะพอ คลี่คลาย ไปได้เป็นเปลาะๆ...

ดังนั้น...ช่วงเวลาสำหรับประเทศไทย สังคมไทย ระหว่างนี้ ก็คือ ช่วงเวลาแห่งการชดใช้ นั่นเอง ไม่ใช่ช่วงเวลาแห่งความเจริญรุ่งเรือง ความสูงส่งศิวิไลซ์ หรือยุคชาววิไล แบบที่ใครต่อใครพยายามฝันกลางฤดูร้อนว่า พระศรีอาริย์ ใกล้ๆ มาโปรดอะไรไปโน่น พูดง่ายๆ ว่า มันน่าจะเป็นช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก ความทุกข์-ทรมาณอยู่พอสมควร ไม่ใช่ช่วงเวลาแห่งความชื่นมื่น ชื่นสะดือ อะไรมาก อีกทั้งเป็นช่วงที่ต้องอาศัยความอดทน อดกลั้น ความบากบั่น พยายาม ความมานะ พากเพียร ในอันที่จะ ชดใช้ กรรมเก่าที่สั่งสมและสะสมกันมา จนกลายมาเป็นประเทศไทย สังคมไทย ทุกวันนี้...นั่นแล...

แม้การคิดที่จะแก้ไขข้อผิดพลาด หรือคิดเอาชนะความไม่ถูก-ไม่ต้องทั้งหลาย...ย่อมต้องถือเป็น ความดี หรือจะเรียกว่า ความใฝ่ดี ก็คงพอได้ แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า...มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ!!! ไม่ว่าจะวิ่งไปหา พระ มารดน้ำมนต์ มาช่วยแก้กรรม-สแกนกรรมดังที่กล่าวไปแล้ว หรือแม้จะลงทุน ลงแรง ยอมเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า เพียงใดก็เถอะ ด้วยเหตุเพราะบรรดาสิ่งนี้-สิ่งนี้ มันได้ถูกสะสมมานานเต็มที ชนิดเผลอๆ พระ ที่ถูกอัญเชิญ ถูกนิมนต์ ให้มาช่วยรดน้ำมนต์ อาจออกไปทาง พระพม่า หรือพระธรรมกาย ฯลฯ อะไรไปโน่น เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของ ปัจเจกบุคคล ที่ไม่ถูก-ไม่ต้อง ที่ผิดๆ พลาดๆ หรือเพราะบรรดาความไม่ถูก-ไม่ต้อง หรือความผิดๆ พลาดๆ ทั้งหลาย มันกำลังสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่ฝังราก เกาะกิน อยู่ใน ระบบทั้งระบบ เอาเลยก็ว่าได้...

อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยต้องใช้ความอดทน อดกลั้น อย่างเป็นพิเศษ ต้องใช้ อุเบกขาธรรม เป็นฐานราก ใช้ ศีล-สมาธิ-และปัญญา เป็นตัวต่อยอด หนุนเสริมอีกด้วยต่างหาก และยังอาจต้องอาศัย เวลา ที่จะเป็นตัวนำมาซึ่ง เงื่อนไข-เหตุปัจจัย ในแต่ละช่วง แต่ละจังหวะ อีกทั้งระหว่าง กรรมเก่า ค่อยๆ คลี่ ค่อยๆ คลาย ก็อย่าเผลอไปสร้าง กรรมใหม่ ให้ต้องวุ่นๆ วายๆ จนอาจกลายเป็น ลิงแก้แห ยิ่งขึ้นไปอีก มีแต่ต้องยึดมั่นใน ธรรม เอาไว้อย่างไม่คิดจะผันแปรไปเป็นอื่น รวมทั้งยังต้อง ทำใจ ไว้ล่วงหน้าอีกด้วยว่า การแก้ไข เยียวยา ความผิดพลาด ความไม่ถูก-ไม่ต้องทั้งหลาย มันอาจไม่สิ้นสุด ยุติ ไม่สำเร็จ เสร็จสิ้น ภายในช่วงเวลาของ คนรุ่นเรา ที่ต่างตกอยู่ในฐานะ ผู้ชดใช้ เอาเลยก็เป็นได้!!!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พระผู้เป็นเจ้า'กับ'กรรมดี-กรรมชั่ว'

ถ้าหากยังไม่ถึง จังหวะ และ โอกาส ที่เหมาะ-ที่ควร...ในอันที่จะทำให้ เพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป ความพยายามที่จะเคี่ยวเข็ญ-บังคับ-ขับไส

สีกากีไม่มีแผ่ว

วลี "สีกากีไม่มีแผ่ว" ดูจะไม่เกินจริงนัก ศึก "นายพล" ยังคงคุกรุ่นพร้อมจะลุกโชนตลอดเวลา "นายพัน-นายร้อย" ก็ไม่น้อยหน้า คำสั่งเด้งเข้ากรุแทบจะออกมาเป็นรายวัน

ทำไม่ดีก็ยังไม่ได้...ผลที่ได้เลยยังไม่ดี

การเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในครั้งนี้ ดูเหมือนจะไม่ถูกอกถูกใจคนจำนวนมาก เริ่มต้นตั้งแต่การกำหนดวิธีเลือกที่หลายคนติดตามแล้วรู้สึกสับสน เข้าใจยาก

การปะทะทางอารยธรรมที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้

ด้วยเหตุเพราะ อ่านหนังสือหมดบ้าน จนแทบไม่เหลืออะไรให้อ่านอีกต่อไปแล้ว!!!...เลยต้องหันไปคว้าเอา พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ที่ท่านทูตวัฒนธรรมอิหร่าน

รักในอาชีพตำรวจ

หลังนายกฯ เศรษฐา สะบัดปากกาส่ง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กลับคืน "กรมปทุมวัน" ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะ