จากยุค “บกพร่องโดยสุจริต” ในการซุกหุ้นของ “ทักษิณ ชินวัตร” เมื่ออดีต ก็มาถึงยุคกลับประเทศไทยอย่างเท่ๆ ไม่ต้องติดคุกติดตะรางแม้แต่วันเดียว ล่าสุดยังสามารถไปเยี่ยมชมพรรคการเมืองที่เป็นลูกหลานของพรรคไทยรักไทยในอดีตอย่างพรรคเพื่อไทยได้อีก โดย “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรมก็ไฟเขียวแล้วว่าสามารถทำได้ เพราะระเบียบของกรมราชทัณฑ์ไม่ได้ระบุไว้ ...๐
เหมือนตอกฝาโลงเข้าไปอีก เมื่อ “อิทธิพร บุญประคอง” ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ไปให้สัมภาษณ์ในงานสัมมนาที่เมืองทองธานีว่าการไปพรรคเพื่อไทย รวมถึง การเดินสายไปจังหวัดต่างๆ ในอนาคตของ “ทักษิณ” นั้นก็ทำได้ ไม่ใช่การครอบงำพรรคแต่ประการใด ในช่วงท้าย “อิทธิพร” ยังเล่นมุกอีกเมื่อเจอคำถามว่ามีการมองว่าเป็นเรื่องของครอบครัว ดังนั้นกันทำกิจกรรมเกี่ยวกับครอบครัวกับการครอบงำแตกต่างกันหรือไม่ ว่าไม่ใกล้เคียงกันเลย สิ่งที่ใกล้เคียงกันมีเพียงคอควายเท่านั้น ...๐
แล้วจะไม่บอกว่าเป็นปฏิกิริยา “เดวาจู” ในยุคทักษิณครองเมืองได้งัย เพราะขนาดฝ่ายค้านในยุคนี้อย่างพรรคก้าวไกลและพรรคประชาธิปัตย์ก็ออกอาการชัดเจนที่จะไม่อภิปรายเรื่องดังกล่าว เพราะก่อนหน้านี้ “ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่มีหัวโขนเป็นประธานวิปฝ่ายค้านก็แพลมๆ ออกมาแล้วว่าเรื่องของ “นักโทษวีวีไอพี” ไม่ใช่ประเด็นใหญ่ ล่าสุด “ชัยชนะ เดชเดโช” จากค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผมก็ออกอาการล้อฟรีเช่นกัน โดยไปอิงว่าสภาสูงได้อภิปรายไปแล้ว จึงไม่รู้ว่าควรนำเรื่องดังกล่าวมาพูดซ้ำอีกหรือไม่ แหม! ทำให้นึกไปถึง การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่ผ่านมาไม่ได้ เพราะชาวบ้านชาวช่องเขานึกว่า “ปชป.” เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเสียอีก เพราะแทบจะไม่ได้ยินเสียงการซักฟอกงบประมาณ ซึ่งถือเป็นการซ้อมย่อยของการอภิปรายเลย ...๐
แล้วที่ขำไม่ออกเข้าไปอีกคือ สภากาแฟทั้งหลายเขาถามกันว่าตกลงทุกวันนี้ ปชป.มีหัวหน้าพรรคเพื่ออะไรกันแน่ ใช่ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” หรือไม่อย่างไร หรือจะชื่อ “ชัยชนะ เดชเดโช” หรือ “ราเมศ รัตนะเชวง” กันแน่ เพราะมีบทบาทในหน้าสื่อมากกว่าหัวหน้าพรรคอย่างเฉลิมชัยเสียอีก ...๐
ไม่ใช่มีแต่ท่าทีของพรรคใหญ่ในฝ่ายค้านที่ดูอ่อนแรงเมื่อเจออิทธิฤทธิ์ของ “น.ช.แม้ว” เท่านั้น ขนาดพรรคฝ่ายค้านเล็กอย่าง “ไทยสร้างไทย” ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็โดนหางเลขไปกับเขาด้วย ที่สำคัญยังออกอาการมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะ “สุภาพร สลับศรี” สส.ยโสธร ถึงกับไปต้อนรับ “นายใหญ่” ที่พรรคเพื่อไทยด้วย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอีกเช่นกัน เพราะ ก่อนหน้านี้ “สุภาพร” ก็เป็น 1 ใน 3 สส.ของพรรคหญิงหน่อยที่โหวตสวนมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ในวาระแรกมาแล้ว ก็ไม่รู้ว่า “สุดารัตน์” จะยังกัดฟันยื้อเก้าอี้ของ “สุภาพร” ไว้กับพรรคจนถึงเมื่อไหร่เท่านั้น เพราะตอนนี้ “ใจและกาย” ก็แทบไม่อยู่กับพรรคแล้ว ...๐
แล้วที่เห็นชัดมากที่สุดคงไม่มีกรณีใดเกิน “จักรภพ เพ็ญแข” อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในรัฐบาลทักษิณ ประกาศกลับประเทศไทยแล้ว หลังจากลี้ภัยทางการเมืองไปอาศัยอยู่ต่างประเทศมากว่า 10 ปี ซึ่งต้องเรียกว่าเดินตาม “ทักษิณ” เลยที่จะกลับเมืองไทยแบบเท่ๆ อีกราย ซึ่งก็อยากรู้ว่า “จอม เพชรประดับ” หรือแม้แต่ “จรัล ดิษฐาอภิชัย” ประธานผู้ลี้ภัย หรือแม้แต่ “สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” จะสนใจกลับมาเจริญรอยตาม “จักรภพ” เพื่อนำร่องให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่จะมาในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าหรือไม่อย่างไร ...๐
อิทธิพลของ “ทักษิณ” ในการเหยียบบ้านเก่า ยังทำให้ข่าวเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) กระหึ่มขึ้นมาอีกรอบ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วจะโยงว่าเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวก็ว่าได้ เพราะสุดท้ายไม่ว่าจะปรับหรือไม่ปรับยังไงก็ ต้องรอสัญญาณจาก “จันทร์ส่องหล้า” อยู่แล้ว แม้จะไม่ไปพรรคก็ตามที ซึ่งต้องยอมรับว่าผลงานกว่า 6 เดือนที่ผ่านมาของ “ครม.เศรษฐา 1” นั้น หลายคนกลายเป็นรัฐมนตรีโลกลืมไปแล้ว ในขณะที่ “เศรษฐา” เองก็ต้องบอกว่าผลงานไม่เข้าตาเฉกเช่นกัน หากวัดในตำแหน่งที่ตัวเองนั่งควบ เพราะมีที่ไหนนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการ แต่เมื่อถามถึงการกำหนดการประชุมกลับโยนให้ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.การคลังกำหนดเอง รวมถึงไทม์ไลน์เรื่องดิจิทัลวอเล็ตด้วย ทั้งที่ตอนคิดและเปิดเผยโครงการสู่สังคมครั้งแรกก็ออกมาจากปากเศรษฐาแท้ๆ หรือเป็นการส่งสัญญาณว่าจะถีบหัวส่งกันจ๊ะ เลยออกอาการตีชิ่งโยนเผือกให้รัฐมนตรีช่วยรับหน้าเสื่อไปแทน ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพชรบุรี นครศรีธรรมราช และอุดรธานี เมืองหลวงคนเสื้่อแดง 24 พฤศจิกายน ภาพรวมผู้ใช้สิทธิ์บางตา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ประชาชนให้ความสนใจน้อยกว่าการเลือกตั้ง สส. เพียงแต่การเลือกตั้งนายก อบจ.ในครั้งนี้
บันทึกหน้า 4
22 พ.ย. ลุ้น ผลการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะ “รับ-ไม่รับ” คำร้องของ “ธีรยุทธ สุวรรณเกษร” ให้ “ทักษิณ ชินวัตร” และ “พรรคเพื่อไทย” หยุดพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง จาก 6 กรณี ดังนี้ หนึ่ง “ทักษิณ” ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
บันทึกหน้า 4
ต้องเรียกว่า “พุธพิพากษา” ของแท้ โดยเฉพาะศาลอาญาที่ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 และมารดาผู้เสียชีวิตร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง “สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์” หรือ “แอม ไซยาไนด์” อายุ 36 ปี
บันทึกหน้า 4
ควันหลงการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ที่ นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ. สังกัดพรรคเพื่อไทย (พท.)
บันทึกหน้า 4
สมรภูมิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ในวันที่ 24 พ.ย. ไม่เพียงแค่ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนในสนามท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการหยั่งกระแสของทั้งสองฝ่ายในเวทีใหญ่ทางการเมืองอีกด้วย โดยเฉพาะทัพแดงนั้นแพ้ไม่ได้
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันครึ้มฟ้าครึ้มฝนจากผลกระทบปลายๆแถวพายุหม่านยี่ เสียงฟ้าร้องฟ้าคะนองอาจจะไม่มี แต่เสียงอื้ออึง "ทักษิณ" กลับมาแล้ว