![สันต์ สตอแมน](https://storage-wp.thaipost.net/2022/05/profile-02text-1.png)
เรื่องความนิยมผมเห็นด้วยกับผลโพล!
แต่..ที่คุณเทพไท เสนพงศ์ ว่า.. “เมื่อมองถึงแนวโน้มการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้และอนาคต พรรคก้าวไกลยังครองใจคนส่วนใหญ่ของประเทศ
ยิ่งประชาชนมีความรู้สึกว่า พรรคก้าวไกล ถูกกลั่นแกล้งหรือถูกรังแกทางการเมืองมากเท่าไหร่ คะแนนความสงสาร คะแนนของชนชั้นกลาง ก็จะเทให้พรรคก้าวไกลมากขึ้นเท่านั้น
ซึ่งเป็นโจทย์ที่ฝ่ายอนุรักษนิยมต้องขบคิดกันต่อไปว่า ทำอย่างไรถึงจะเอาชนะพรรคก้าวไกลให้ได้
การทำลาย การบอนไซ หรือการตัดตอนพรรคก้าวไกล โดยการยุบพรรค ไม่ใช่โจทย์คำตอบในการเอาชนะพรรคก้าวไกลบนเวทีการเมืองได้” นั้น
ผมเห็นจะขอขัดคอโดยเฉพาะประโยคท้าย.. “การทำลาย การบอนไซ หรือการตัดตอนพรรคก้าวไกล โดยการยุบพรรคไม่ใช่โจทย์คำตอบในการเอาชนะพรรคก้าวไกล..”
แม้ลึกๆ ผมเชื่อมีความพยายามจะทำลาย จะบอนไซ จะตัดตอนพรรคก้าวไกล แต่ผมไม่มีทางเชื่อหรอกว่าการทำลายก็ดี การบอนไซก็ดี หรือการตัดตอนก็ดี..
จะสำเร็จได้ดังหมาย หากว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ทำผิดกฎหมายในทุกกรณี!
ฉะนั้น พรรคก้าวไกลจะถูกยุบ-ไม่ถูกยุบจึงขึ้นอยู่กับ “ความผิด” โดยศาลเป็นผู้วินิจฉัย ซึ่งทุกเรื่องที่พรรคก้าวไกลถูกร้องเรียน ก็ล้วนเกิดจากการกระทำของตัวเองทั้งนั้น!
คุณเทพไทอาจจะเป็นประชาชนคนหนึ่งที่รู้สึกว่าพรรคก้าวไกลถูกกลั่นแกล้ง-ถูกรังแก นั่นก็เป็นสิทธิ์ที่ใครก็ไม่อาจห้ามความรู้สึก-ความคิดได้
และแม้คะแนนความสงสาร คะแนนของชนชั้นกลางจะเทให้พรรคก้าวไกลมากขึ้นก็ไม่เห็นเป็นไร และถ้าก้าวไกล (ไม่ถูกยุบ) จัดตั้งรัฐบาลได้ ก็ต้องยอมรับ
คุณเทพไทไม่ต้องห่วงหรือกังวลหรอกว่า “ฝ่ายอนุรักษนิยม” จะเอาชนะก้าวไกลได้อย่างไร และไม่ต้องไป (ช่วย) โน้มน้าวสังคมว่าก้าวไกลถูกกลั่นแกล้ง!
ตอนนี้..เอาจริงๆ ผมก็อยากให้พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลอยู่นะ ถึงจะอ่านเลขผิดๆ ถูกๆ ก็เถอะ!
เปล่า..ผมไม่ได้นิยมชมชอบหรือศรัทธาในตัวคุณพิธาอะไรหรอก แค่ผมคิดเอาว่า ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล เรื่องเดียวที่จะทำคือการยกเลิก ม.112
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้โดยง่าย จะต่างกับพรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ ที่คิด-ทำหลายอย่าง โดยแต่ละอย่างล้วนส่อไปในทางสร้างความมั่นคง-มั่งคั่ง..
หรือได้ประโยชน์กับเจ้าของพรรคเสียส่วนใหญ่!
สังคมไทยยามนี้ผมมองว่าตกอยู่ในสภาพ “กบเลือกนาย” ไม่เอาก้าวไกลก็ต้องเอาทักษิณ ไม่เอาเพื่อไทยก็ต้องเอาธนาธร-พิธา
ก็..อยากให้ถามใจตัวเองกันว่า ระหว่างทักษิณกับธนาธร เราจะฝากฝี-ฝากไข้ ฝากบ้าน-ฝากเมืองไว้กับใคร?
เออ..แล้วที่คุณอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. พูดถึงกรณีนายทักษิณเดินทางไปพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ยังมีสถานะเป็นนักโทษเด็ดขาดในคดีทุจริตที่อยู่ระหว่างการพักโทษ
การกระทำนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย ผิดกฎหมายพรรคการเมือง ว่า.. “กกต.มีหน้าที่ดูแลพรรคการเมืองอยู่แล้ว ถ้าพรรคใดยินยอมให้บุคคลใดมาครอบงำ
หรือคนใดไปครอบงำพรรคการเมือง ก็มี พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 28 และ 29 ระบุไว้ชัดเจน ห้ามพรรคการเมืองยินยอมให้ผู้ใดมาครอบงำ
ดังนั้นถ้ามีการกระทำใดๆ ที่อาจจะเข้าข่ายฝ่าฝืน 2 มาตรานี้ ก็เป็นเรื่องที่ กกต.สามารถดำเนินการได้
ส่วนการปรากฏตัวของนายทักษิณมี สส. รัฐมนตรี และสมาชิกพรรคไปพบที่พรรค ซึ่งต่างจากการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่
ยืนยันคำเดิมว่า ถ้าผิดกฎหมายจะต้องมีการครอบงำ”
แล้ว.. “ครอบงำ” น่ะ เป็นอย่างไร..หือ?.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“สืบสันดาน”ทั้งตระกูล
ดูจบสักสี่ซ้าห้าวันมาแล้วล่ะ! ก็..ตั้งใจจะเขียน-จะคุยอยู่เหมือนกัน แต่พอดีได้อ่านที่คุณอัษฎางค์ ยมนาค โพสต์ เห็นว่าตรงกับใจตัวเอง
ประชาธิปไตยย่อยยับ?
7 สิงหา..ยุบ-ไม่ยุบ! และถ้ายุบจะเป็นดังนายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาฮิวแมนไรต์วอตช์ ประเทศไทย ได้เคยทำนาย (โพสต์) ไว้หรือไม่ว่า..
พันธุ์ใหม่ของวงการ!
ถ้ารู้จักประมาณตน.. ผมว่า..ทั้งคุณนันทนา นันทวโรภาส ทั้งคุณอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา ก็จะไม่รู้สึกเสียดายหรือเสียความรู้สึกอะไรกับการไม่ได้รับเลือกให้เป็น “ประธาน” กับ “รองประธาน” สว.เลย!
เสียดายเวลา
คิดถึงลุงตู่.. เปล่านะ..ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับภาพคนเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ยฉีกขาด ไปออกรอบตีกอล์ฟกับรัฐมนตรี สส. นักธุรกิจที่เขาใหญ่นั่นหรอก!
“ทีวีดิจิทัล”กับอนาคต!
ปี..2571 คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมต.คมนาคม บอก รถไฟสายสีส้มด้านตะวันออก จากศูนย์วัฒนธรรมถึงมีนบุรี จะวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้
น้ำตาแตกทั้งอาเซียน
ขออีกวัน.. นานๆ ได้ออกงานที ก็ที่ได้ไปร่วมงานประกาศ “รางวัลภาพยนตร์ไทยครั้งที่ 32” ของชมรมนักวิจารณ์ภาพยนตร์ ที่หอศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรมนั่นแหละ!