ตกลงใครอยู่เบื้องหลังเหตุก่อการร้ายต่อโรงคอนเสิร์ตชานเมืองมอสโกที่มีคนตายกว่า 130 คนเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา จนกลายเป็นเหตุการณ์ระดับโลก?
คอนเสิร์ตฮอลล์ยอดนิยมในกรุงมอสโกแห่งนี้กลายเป็นสถานที่เกิดเหตุเลวร้ายในตอนเย็นของวันที่ 22 มีนาคม
กลุ่มมือปืนสวมหน้ากากพร้อมปืนไรเฟิลอัตโนมัติ เปิดฉากยิงใส่ฝูงชนในงานแสดงดนตรีร็อก
คอนเสิร์ตฮอลล์ชื่อ Crocus ถูกถล่มโจมตีโดยมือปืน 4 คนที่ยิงกราดใส่ผู้คนอย่างบ้าเลือด
ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเหตุการณ์ กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกแถลงการณ์อ้างความรับผิดชอบ
ต่อมา กลุ่มไอเอสออกคลิปผ่านโซเชียลมีเดีย อ้างว่าเป็นรูปที่มือปืนของตนเป็นคนถ่ายเอาไว้ในขณะปฏิบัติการอันโหดเหี้ยมนั้น
แต่ในคำปราศรัยของประธานาธิบดีปูตินค่ำวันต่อมา มีการโยงไปถึงยูเครน
ผู้นำรัสเซียบอกว่ามือปืนทั้ง 4 ถูกจับได้ขณะพยายามจะหนีข้ามไปยูเครน
และอ้างว่ายูเครนได้เปิดช่องทางไว้ช่วยเหลือการหลบหนีของมือปนกลุ่มนี้ด้วย
แต่ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนออกมาโต้ว่าปูตินพยายามจะโยนบาปให้คนอื่นทั้งๆ ที่เป็นความผิดพลาดของตนเองอย่างปฏิเสธไม่ได้
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นสองสัปดาห์หลังจากสถานทูตตะวันตกเตือนถึงการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในกรุงมอสโกที่กำลังจะเกิดขึ้น
พร้อมแนะนำให้ประชาชนของตนหลีกเลี่ยงการรวมตัวขนาดใหญ่
ในวันเดียวกันกับที่มีการเตือนนี้ออกมา หน่วยรักษาความปลอดภัยของรัสเซียประกาศว่าได้ขัดขวางการโจมตีสุเหร่ายิวแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 9 มีนาคม
มีรายงานว่าชาวคาซัค 2 คนถูกสังหารในการยิงต่อสู้กับหน่วยต่อต้านการก่อการร้าย
ปูตินไม่เชื่อคำเตือนของตะวันตก
ในคำปราศรัยประจำปีต่อสายลับอาวุโสของรัสเซียเมื่อวันที่ 19 มีนาคม เขาบอกว่า
“ทั้งหมดนี้คล้ายกับการแบล็กเมล์ และเป็นความตั้งใจที่จะข่มขู่และทำให้สังคมของเราไม่มั่นคง”
เป็นช่วงจังหวะที่กำลังจะมีการเลือกตั้งที่ต่อมามีผลให้ปูตินกลับมาดำรงตำแหน่งสูงสุดของประเทศอีก 6 ปี
ปูตินอาจคิดว่าคำเตือนเรื่องก่อการร้ายในมอสโกของอเมริกาน่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศที่ไม่ปกติให้กับคนรัสเซียก่อนจะมีการเลือกตั้ง
แต่เมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้นจริง ปูตินจะชี้แจงย้อนหลังก็คงจะไร้ผล
Crocus City เป็นย่านทันสมัย อยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือชานเมืองมอสโก ที่ประกอบด้วยร้านค้าปลีกและความบันเทิงสุดหรู
อีกทั้งเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ซึ่งมีสถานีรถไฟใต้ดินเป็นของตัวเอง
ที่นี่เป็นที่จัดแสดงคอนเสิร์ตของกลุ่มใหญ่ๆ เป็นประจำ เช่น Piknik นักดนตรีร็อกรุ่นเก๋าซึ่งมีกำหนดแสดงในคืนวันศุกร์
สถานที่จัดงานแห่งนี้มีความโดดเด่นด้วยเหตุผลอื่นด้วย เพราะเจ้าของคือ Aras Agalarov ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รัสเซีย-อาเซอร์รี ซึ่งมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับปูติน
รายงานบางสื่อระบุว่า อากาลารอฟเป็นคนเชื่อมต่อระหว่างเครมลินและโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงการเลือกตั้งปี 2016
คำถามใหญ่ตอนนี้ก็คือ ใครบ้างที่อาจอยู่เบื้องหลังเหตุก่อการร้ายครั้งนี้?
เป้าแรกก็คงจะคือกลุ่ม ISIS-K ที่ประกาศอ้างความรับผิดชอบค่อนข้างรวดเร็ว
แต่นักวิเคราะห์หลายสำนักก็บอกว่ายังมีกลุ่มผู้เข้าข่ายสงสัยได้เช่นกัน
ต้องไม่ลืมว่าสงครามที่ยืดเยื้อมาสองปีในยูเครนได้ก่อให้เกิดศัตรูรายใหม่สำหรับรัสเซีย
ทหารรัสเซียที่กลับจากสมรภูมิในยูเครนมาพร้อมอาวุธที่หลุดเข้าไปในแวดวงต่างๆ มากขึ้น
อีกทั้งยังเกิดขบวนการชาตินิยมหัวรุนแรงและระบบศาลเตี้ยที่มีอิทธิพลกว้างขวางขึ้น
มิหนำซ้ำ รัสเซียยังพัวพันกับความขัดแย้งนองเลือดภายในเชชเนียและดาเกสถาน
เพิ่มความเสี่ยงให้กับรัสเซียที่ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มก่อการร้ายอิสลามิสต์จากหลากหลายแนวมาเป็นเวลานาน
รัสเซียเข้าไปแทรกแซงกิจการในซีเรียเพราะปูตินสนับสนุนรัฐบาลอัล อัสซาด ที่นั่น
ยูเครนปฏิเสธทันควันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีครั้งนี้
รัฐบาลยูเครนกังวลว่าเครมลินอาจพยายามสร้างเหตุการณ์ก่อการร้ายประเภทนี้ เพื่อใช้เป็นอาวุธในการหาข้ออ้างเพื่อยกระดับการถล่มโจมตียูเครน
แต่ไม่ว่าจะสรุปอย่างไร ปูตินก็พยายามจะดึงยูเครนเข้ามาเกี่ยวข้องจนได้
ส่วนกลุ่มรัฐอิสลามโคราซาน (ISIS-K) ที่อ้างความรับผิดชอบนั้นมีประวัติที่น่าศึกษาไม่น้อย
“โคราซาน” เป็นชื่อเก่าที่ใช้เรียกภูมิภาคนี้ ซึ่งรวมถึงบางส่วนของอิหร่าน เติร์กเมนิสถาน และอัฟกานิสถาน
กลุ่มนี้ถือกำเนิดขึ้นในอัฟกานิสถานตะวันออกเมื่อปลายปี 2014
และสร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วในเรื่องความโหดร้ายแบบสุดโต่ง
ISIS-K เป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายระดับภูมิภาคที่แข็งขันมากที่สุดของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส)
แต่จำนวนสมาชิกของกลุ่มนี้ลดลงนับตั้งแต่จุดสูงสุดประมาณปี 2018 เพราะกองกำลังตอลิบานและกองกำลังสหรัฐฯ โหมสกัดกั้นจนเกิดความสูญเสียอย่างหนัก
ISIS-K มีประวัติการโจมตีเป้าหมายหลายอย่าง รวมถึงต่อมัสยิดทั้งในและนอกอัฟกานิสถาน
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ดักฟังได้ถึงการสื่อสารที่ยืนยันว่ากลุ่มนี้ก่อเหตุระเบิดสองครั้งในอิหร่าน คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 100 คน
ในเดือนกันยายน 2022 กลุ่มติดอาวุธ ISIS-K ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานทูตรัสเซียในกรุงคาบูล
กลุ่มนี้ยังเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุโจมตีสนามบินนานาชาติในกรุงคาบูลในปี 2021 ซึ่งทำให้ทหารสหรัฐฯ เสียชีวิต 13 นายและพลเรือนอีกจำนวนมากระหว่างการอพยพของสหรัฐฯ ออกจากประเทศที่ค่อนข้างวุ่นวาย
ISIS-K จับจ้องไปที่รัสเซียในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยมักวิพากษ์วิจารณ์ปูตินว่ามีนโยบายต่อต้านคนมุสลิมอย่างต่อเนื่อง
สรุปว่าหากปูตินไม่สามารถจะพิสูจน์ว่ายูเครนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุร้ายครั้งนี้ ก็ต้องยอมรับทฤษฎีว่า IS อยู่เบื้องหลังจริง
ซึ่งก็สะท้อนว่าการบริหารประเทศอีก 6 ปีของปูตินจะเต็มไปด้วยขวากหนามทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
อีกทั้งยังไม่รู้ว่าสงครามยูเครนจะยุติได้เมื่อใด
เพิ่มความเสี่ยงให้กับรัสเซียทั้งประเทศอย่างเห็นได้ชัดขึ้นทุกวัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ