ใบบัวปิดไม่มิด

ถึง นาย ค. ซึ่งมีการทำธุรกรรม และโยงไปถึงญาติ ประกอบด้วยภรรยา พี่สาว และพี่ชายของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ยศนายพล อักษรย่อ “ต.” ภรรยาอักษรย่อ ก. พี่สาวอักษรย่อ จ. และพี่ชายอักษรย่อ ช. นี่คืออะไร? จะให้จบกันเฉยๆ แบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือ? เพราะเป็นเรื่องการรับเงินพนันออนไลน์ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หากไม่ทำความจริงให้ปรากฏ สังคมจะตั้งคำถาม พอชาวบ้านตาสีตาสาทำผิดจับติดคุกติดตะราง แต่พวกเดียวกันทำผิดบอกไม่มีอะไร...อิหยังวะ

ยิ่งพอฟัง 10 ข้อสั่งการที่ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. รับมอบนโยบายมาจากนายกฯ เศรษฐา ในข้อ 6 ปราบปรามเว็บพนันออนไลน์ หากไม่ขยับ หากไม่นำข้อมูลที่คนระดับผู้การออกมาเปิดโปง  ต่อยอด ขยายผล สอบสวนข้อเท็จจริง จะท่องแค่รอผลสอบคณะกรรมการที่นายกฯ ตั้ง 3 อรหันต์มาสอบข้อเท็จจริงปมร้อนในกรมปทุมวัน น่าจะคนละเรื่องกัน ก็ในเมื่อร้องแรกแหกกระเชอ บอกปมร้อนที่เกิดขึ้นเปิดความขัดแย้งของ 2  บิ๊ก ไม่เกี่ยวกับพนันออนไลน์ เรื่องนี้ก็ต้องดำเนินการเร่งด่วน  ไม่ใช่รอ ไม่ใช่ปล่อยผ่านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ๐

สะกิดกันตั้งแต่เนิ่นๆ ในวันอังคารที่ 26 มี.ค. เวลา  13.30 น. นายกฯ เศรษฐา จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ซึ่งจะเป็นนัดแรกหลังจาก "บิ๊กต่อ" และ "บิ๊กโจ๊ก" ถูกคำสั่งไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยจะมี "บิ๊กต่าย" ทำหน้าที่รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เพื่อเสนอวาระต่างๆ เข้าที่ประชุม ซึ่งมีกระแสข่าวลือให้จับตา อาจมีการ "ปัดฝุ่น" เรื่อง "การขออนุมัติให้ ตร.นำข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2566 มาใช้ในการแต่งตั้งโดยอนุโลม" ให้ที่ประชม ก.ตร.พิจารณา เพื่อให้การแต่งตั้งวาระเดือนเมษายน  ซึ่งจะมีการแต่งตั้ง "นายพลแก้มลิง" ตอบแทนการทำงานของตำรวจที่จะเกษียณวันที่ 30 ก.ย. 2567 ได้เพิ่มยศ เพิ่มตำแหน่ง สามารถทำบัญชีแต่งตั้งในตำแหน่งอื่นได้ด้วย โดยเฉพาะตำแหน่งว่างระดับหัวๆ ที่ตอนนี้ชัดๆ ก็มีเก้าอี้ รอง ผบ.ตร. ของ บิ๊กรอย-พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่โอนย้ายไปเป็น เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และเก้าอี้ ผู้ช่วย  ผบ.ตร.ของ บิ๊กหลวง-พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ที่โอนย้ายไปเป็น เลขาฯ ป.ป.ส. หากการปัดฝุ่นดังกล่าวถูกเสนอเข้าวงประชุม ก.ตร.จริงๆ รับรองปลายปีศึกชิงเก้าอี้ "ผบ.ตร." สนุกแน่ ๐

“โผทหาร” กลางปีคลอดออกมาแบบแผ่วๆ เพราะข่าวแวดวง “สีกากี” ที่กำลังดุเดือดกลบมิด ที่เคยมีดรามาเรื่องการทวงตำแหน่งของทีมฝ่าย เสธ.ให้คนของ “สุทิน คลังแสง”  รมว.กลาโหม เพราะช่วงก่อนที่รัฐมนตรีจะเข้ามามีการจัดโผไปแล้ว และโควตาก็เป็นของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ก็มีชื่อ “บิ๊กนุ้ย”  พล.ท.ฐิตวัชร์ เสถียรทิพย์ ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเป็นหัวหน้าทีม  PMOC หนึ่งในทีมตึกไทยฯ ค้างอยู่ แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลก็ต้องมีการจัดทัพใหม่ตามธรรมเนียม โผนี้จึงหมุนออกไปนั่งในตำแหน่งลอยๆ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเจ้าตัวก็อยู่ในช่วงเข้าเรียน วปอ.พอดี โดยมี พล.ต.ธิติวัฒน์ ฐิติพบร่มเย็น ผู้อำนวยการสำนักส่งกำลังบำรุงร่วม กรมส่งกำลังบำรุงทหาร ข้ามมาเป็นผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแทน ในส่วนของเหล่าทัพอื่นมีการปรับเปลี่ยนตัวบุคคลในระดับเจ้ากรมฝ่ายเสนาธิการค่อนข้างเยอะ เพราะมีผู้ขยับไปขึ้นพลเอกก่อนเกษียณ จึงต้องจัดคนมาลงแทน บางตำแหน่งเป็นการเลื่อน ลด ปลด ย้าย จากคดีค้างเดิม และมีบางคนถูกดันขึ้นมาเพื่อรอจังหวะลื่นไหลปลายปี ๐

แต่ในการโยกย้ายปลายปีคงไม่ชิลขนาดนี้ และ “บิ๊กทิน” เองก็ต้องลุ้นในสเตปแรกก่อนว่าจะอยู่หรือไปหลังปรับ ครม.ที่จะเกิดขึ้น เพราะตำแหน่งนี้เป็นไฮไลต์ในการคุมจัดทัพทหาร  ภายใต้การเห็นชอบของคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารที่มี  7 เสือเป็นกรรมการ เสียงของเหล่าทัพวันนี้ถือว่าเป็นเอกภาพในการทำงาน แต่การวางตัว ผบ.เหล่าทัพคนถัดไปแทน พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. และ พล.ร.อ.อะดุง  พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร.ที่จะเกษียณ คาดว่า “เสียงแตก” การเมืองจึงกำลังคำนวณทิศทาง เลือกถือหางฝ่ายที่คุมได้เพื่อถ่วงดุล “สายแข็ง” จึงไม่แปลกที่ว่าช่วงนี้มีความเคลื่อนไหวคึกคักในการดันอดีตนายทหารเกษียณเข้ามานั่งแทน รวมถึงข่าวในทำนองว่าอาจจะมี “เซอร์ไพรส์” มีคนที่เหาะมาจากแรงหนุนของนายทุน เพื่อตรึงบุคคลที่วางตัวไว้ให้ได้ขึ้นตำแหน่ง โดยเฉพาะ “ผบ.ทบ.” ที่คุมขุมกำลังปฏิวัติตามการมองของการเมือง และดูจากคลื่นใต้น้ำจากพลังของรุ่น พลังอำนาจพิเศษนอกรั้วแดงกำแพงเหลือง มีทิศทางว่าส่อเค้าจะกรุ่น

งบประมาณ 2568 เข้า ครม.อังคารนี้ โครงการเรือฟริเกตของ ทร.ที่ถูกตัดออกในชั้นกรรมาธิการงบฯ ปี 2567  จะ “รีเทิร์น” กลับเข้ามาอีกครั้งหลัง รมต.สุทินเซ็นเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการส่งไปที่สำนักงบฯ เรียบร้อย  จากรายการที่มีการวางไว้เป็นงบฯ ผูกพันปีที่ 2 ในกรณีที่งบฯ ตั้งต้นปี 67 ผ่าน ดังนั้น “งบฯ ไม่โป่งพอง” เพราะเป็นกรอบผูกพันงบฯ เดิมที่วางแผนไว้แล้ววงเงิน 2 พันล้าน  เช่นเดียวกับงบฯ จัดหาเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่ทดแทนของ กองทัพอากาศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไฟเขียวมาตั้งแต่ต้น และตามที่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ประกาศเจตนารมณ์ตั้งแต่ต้นว่า จะแถลงให้ทราบถึงผลการคัดเลือกแบบอย่างชัดเจนว่าจะเลือก F-16  Block70 หรือ Gripen/E ระหว่างนี้ระดับผู้บังคับบัญชาจึงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุด และใช้ได้ในระยะยาว รับมือกับการเปลี่ยนเทรนด์ การรบที่ผสมผสานหลายรูปแบบ คิดว่าน่าจะผ่านฉลุย.