สงครามยูเครนฝ่ายรัสเซียมีแต่ชนะกับเสมอ ส่วนยูเครนมีแต่เสมอกับแพ้ เพราะรัสเซียพร้อมใช้นิวเคลียร์ถ้าใกล้แพ้ ส่วนนาโตไม่กล้าใช้นิวเคลียร์ช่วยยูเครนที่กำลังปกป้องประชาธิปไตยยุโรป
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคิดว่าโอกาสใช้อาวุธนิวเคลียร์มากที่สุดในช่วง 2-3 ปีนี้มาจากสงครามยูเครน รัฐบาลรัสเซียเคลื่อนไหวกองกำลังนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง ฝ่ายตะวันตกเสนอข่าวโอกาสเกิดสงครามนิวเคลียร์ แม้ฝ่ายนาโตพยายามชี้ว่าไม่คิดทำสงครามล้างโลก
2022 ปีเริ่มสงครามยูเครน CIA เตือนรัฐบาลไบเดนว่ารัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี (Tactical nuclear weapon) 50% หรือมากกว่านี้ ถ้ากองทัพพ่ายแพ้หรือไครเมียโดนยึดคืน ไบเดนกล่าวว่า ผู้นำรัสเซียจริงจังกับเรื่องนี้ อาจใช้นิวเคลียร์ทางยุทธวิธีหรือ WMD อื่นๆ
ภาพ: เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ Tu-160
นายพล Mark Milley อดีตคณะเสนาธิการร่วม (Joint Chiefs of Staff) เตือนว่า ยิ่งยูเครนเป็นฝ่ายได้เปรียบ ยิ่งกดดันให้ปูตินใช้นิวเคลียร์
ในทำนองเดียวกัน มกราคม 2024 นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญสถานการณ์โลกชี้ว่าโลกเข้าใกล้วันโลกาวินาศ การแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์ สงครามยูเครนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการประเมินวันโลกาวินาศในระยะนี้ คิดว่าประธานาธิบดีปูตินกล้ากดปุ่มนิวเคลียร์
อาวุธนิวเคลียร์เป็นอีกข้อที่ชี้ว่าเซเลนสกียูเครนไม่มีวันชนะสงคราม เพราะรัสเซียจะใช้นิวเคลียร์เมื่อคิดว่าตนกำลังจะแพ้ มหาอำนาจนิวเคลียร์ต่างมีแนวคิดเช่นนี้
รัสเซียพร้อมใช้นิวเคลียร์ถ้าเสี่ยงสิ้นชาติ:
มีนาคม 2018 ประธานาธิบดีปูตินประกาศจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เป็นมาตรการตอบโต้เท่านั้น คือเมื่อโดนโจมตีด้วยนิวเคลียร์ แม้ทำให้กลายเป็นสงครามล้างโลก เพราะต้องตอบคำถามว่าทำไมจึงปล่อยให้กลายเป็นโลกที่ปราศจากรัสเซีย
เป็นแนวคิดป้องปรามด้วยนิวเคลียร์โดยแท้
มีนาคม 2024 ท่ามกลางสงครามยูเครนที่ยืดเยื้อและทำท่ารบต่อปีนี้ ปูตินย้ำอีกครั้งว่ารัสเซียพร้อมใช้นิวเคลียร์ถ้าประเทศตกอยู่ในความเป็นความตาย เสี่ยงสิ้นชาติ แต่ตอนนี้ไม่มีเหตุให้ใช้นิวเคลียร์ ส่วนเหตุที่ต้องสะสมอาวุธจำนวนมากเพื่อต้านภัยจากนาโต
จะเห็นว่าจุดยืนการใช้นิวเคลียร์รัสเซียยังเหมือนเดิม คือใช้เพื่อป้องกันประเทศหากตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง เสี่ยงสิ้นชาติ ตรงกับที่ตะวันตกบอกว่ารัสเซียพร้อมใช้นิวเคลียร์หากกำลังจะแพ้
หลักฐานการแสดงออก:
ลำพังคำพูดเพียงอย่างเดียวจะดูไร้น้ำหนักและทำให้คิดว่าไม่จริง มีตัวอย่างการเคลื่อนไหวที่ชี้ว่ารัฐบาลปูตินเตรียมทำสงครามนิวเคลียร์
ตั้งแต่สงครามยูเครนยังไม่เริ่ม ช่วงที่รัฐบาลปูตินเตือนว่ากำลังจะบุกเข้ายูเครน นอกจากการซ้อมรบครั้งแล้วครั้งเล่าใกล้ชายแดนยูเครนแล้ว ยังซ้อมรบทำสงครามนิวเคลียร์เต็มระบบ แสดงให้เห็นว่าอยู่ในสภาพพร้อมยิงนิวเคลียร์
2-3 ปีนี้รัสเซียซ้อมรบกองกำลังนิวเคลียร์สม่ำเสมอ แสดงถึงการเตรียมความพร้อมต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังปรากฏข่าวประจำการเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ เรือดำน้ำติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ การทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ใหม่ๆ
ล่าสุด กุมภาพันธ์ 2024 รัฐบาลรัสเซียอัปเดตความก้าวหน้ากับความพร้อมต่อสงครามนิวเคลียร์ว่า 95% ของอาวุธนิวเคลียร์ที่ประจำการอยู่ในขณะนี้เป็นอาวุธรุ่นใหม่ เหลืออีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่รอปรับเปลี่ยน การปรับปรุงทั้งหมดกระทำในทุกระบบ ทั้งเรือดำน้ำ เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ Tu-160M ขีปนาวุธรุ่นใหม่ล่าสุดจากฐานยิงบนบก
อีกประเด็นที่ควรเอ่ยถึงคือ กุมภาพันธ์ 2023 ประธานาธิบดีปูตินประกาศระงับ (suspension) ข้อตกลงจำกัดอาวุธนิวเคลียร์ New START ด้วยเหตุผลว่ารัสเซียขอตรวจสอบให้มั่นใจว่าปลอดภัยไม่ถูกคุกคามเหมือนอย่างเช่นตอนนี้ ระบบอาวุธนิวเคลียร์สหรัฐไม่เป็นภัยคุกคามต่อตน ผลคือนับจากนี้รัสเซียอาจเพิ่มอาวุธนิวเคลียร์ไม่จำกัด ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่สหรัฐเข้าตรวจสอบ ไม่จำต้องรายงานอาวุธที่ถือครอง อีกทั้งอาจมีผลต่อสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ (Comprehensive Nuclear-Test-Ban Treaty: CTBT) สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Non-Proliferation Treaty: NPT)
ศึกยูเครนน่าจะเป็นอีกปัจจัยทำให้รัสเซียระงับ New START
นิวเคลียร์นาโต:
ถ้ารัสเซียใช้นิวเคลียร์ในยูเครน กองทัพยูเครนเพลี่ยงพล้ำ คำถามตามมาคือนาโตยังจะช่วยยูเครนรบรัสเซียต่อหรือไม่ จะโต้กลับด้วยนิวเคลียร์ไหม หลายคนกังวลว่าจะกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ล้างโลก
ถ้ามองแบบนาโต โอกาสเกิดสงครามนิวเคลียร์นับวันจะมากขึ้น เนื่องจากมองว่ากองทัพรัสเซียไม่หยุดที่ยูเครน อีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะรุกรานประเทศอื่นๆ ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ลอยด์ ออสติน (Lloyd Austin) รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเตือนว่าถ้ายูเครนแพ้ เขา “เชื่ออย่างยิ่ง” ว่านาโตจะได้รบกับรัสเซีย เป้าหมายต่อไปของรัสเซียคือประเทศในแถบบอลติก (Baltic states-เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย) ทำให้ฝ่ายอำนาจนิยมฮึกเหิม เพราะฝ่ายประชาธิปไตยเลิกสนับสนุนยูเครน
คำเตือนของรัฐมนตรีออสตินย้ำ สงครามยูเครนคือการต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับอำนาจนิยม ที่ฝ่ายประชาธิปไตยแพ้ไม่ได้ สงครามดำเนินต่อไป
ข่าวรัสเซียบุกยุโรปมีต่อเนื่อง อีกตัวอย่างคือแนวคิดเป้าหมายถัดจากยูเครนคือโปแลนด์ ด้วยเหตุผลว่าโปแลนด์เป็นแหล่งรองรับผู้ลี้ภัยยูเครนมากสุด (บางช่วงสูงถึง 8 ล้านคน) เป็นจุดพักอาวุธของประเทศต่างๆ ก่อนส่งเข้ายูเครน เป็นที่ฝึกทหารยูเครนจำนวนมาก มีพรมแดนติดต่อกับรัสเซียถึง 535 กิโลเมตร
โปแลนด์จึงอยู่เฉยไม่ได้ต้องเตรียมทำสงคราม ทางเดียวที่หยุดรัสเซียได้คือยูเครนเป็นฝ่ายชนะ Paweł Jabłoński รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมจึงกล่าวว่าต้องสนับสนุนยูเครน สงครามจะไม่จบที่ยูเครน รัสเซียมีเป้าหมายมากกว่านั้น หวังว่าเยอรมนีจะแสดงบทบาทต่อต้านรัสเซีย แต่ถ้าไม่ โปแลนด์จะทำหน้าที่นี้เอง ต้องทำให้นาโตเข้มแข็งกว่านี้
เรื่องนี้อาจเป็นเหตุให้มีกระแสข่าวสหรัฐคิดติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ในยุโรป รัฐบาลฟินแลนด์กล่าวว่าอาจติดตั้งขีปนาวุธหัวรบนิวเคลียร์ของสหรัฐเพื่อป้องปรามรัสเซีย ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียประกาศอาจโจมตีด้วยนิวเคลียร์ถ้าสหรัฐติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ในยุโรป เป้าหมายโจมตีคือฐานที่ตั้งนิวเคลียร์เหล่านั้น “เป็นเป้าหมายที่สมควร” (legitimate targets) จากข่าวฟินแลนด์ดังกล่าว
ทุกวันนี้หลายประเทศในยุโรปประจำการอาวุธนิวเคลียร์แต่เป็นชนิดลูกระเบิด ยกเว้นฝรั่งเศสที่มีขีปนาวุธนิวเคลียร์มานานแล้ว ฟินแลนด์คิดเป็นประเทศใหม่ที่ประจำการขีปนาวุธหัวรบติดนิวเคลียร์อย่างเปิดเผย
การติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ในฟินแลนด์เทียบเคียงได้กับความกังวลที่ยูเครนจะติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์หลังเป็นสมาชิกนาโต และเทียบเคียงได้กับวิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบา (Cuban Missile Crisis) 1962 สหภาพโซเวียตอยู่ระหว่างการติดตั้งและขนส่งขีปนาวุธเข้าไปในคิวบาหลากหลายชนิด ทั้งขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ ขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ทั้งแบบพิสัยกลางและพิสัยไกล
ตอนนั้นรัฐบาลสหรัฐยืนกรานให้รัสเซียถอนกลับไป ไม่เช่นนั้นทำสงครามนิวเคลียร์แน่นอน เป็นช่วงตึงเครียดที่สุดของสงครามเย็น รอบนี้เป็นฝ่ายสหรัฐที่คิดติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ใกล้ชายแดนรัสเซีย รัฐบาลปูตินประกาศพร้อมทำสงครามนิวเคลียร์ทันที
ถ้าวิเคราะห์ตามแนวทางข้างต้น ศึกยูเครนฝ่ายรัสเซียมีแต่ชนะกับเสมอ ส่วนยูเครนมีแต่เสมอกับแพ้เพราะนาโตไม่กล้าใช้นิวเคลียร์ (จุดยืนนาโตตั้งแต่ต้นคือไม่รบกับรัสเซียโดยตรงเพราะเสี่ยงเกิดสงครามนิวเคลียร์) ไม่กล้าช่วยยูเครนด้วยนิวเคลียร์ทั้งๆ ที่ยูเครนยอมให้ประเทศพังพินาศ ประชาชนล้มตายมากมายเพื่อปกป้องประชาธิปไตยตะวันตก นาโตไม่ยอมหายนะพร้อมกับยูเครน
ในภาพที่กว้างขึ้น หากมองว่าเป็นศึกระหว่างนาโตกับรัสเซีย หลายปีนี้รัฐบาลปูตินแสดงท่าทีซ้ำๆ ว่าพร้อมทำสงครามนิวเคลียร์ ไม่ยอมโดนโจมตีฝ่ายเดียวแต่จะเป็นหายนะร่วมกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กระสุนนัดเดียวเปลี่ยนโลก
บรรยากาศหาเสียงตอนนี้ไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่นใดอีก ทรัมป์ควรชนะเลือกตั้ง กระสุนนัดเดียวชี้ขาดผลเลือกตั้ง ชี้นำโลกอนาคตควรทำตามนโยบายทรัมป์
เลือกตั้งสหรัฐ 2024 ประชามติเลือกประชาธิปไตย
ไบเดนชี้ว่าตนเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ส่วนทรัมป์อยู่ฝ่ายตรงข้าม ถ้าต้องการปกป้องประชาธิปไตยขอให้เลือกพรรคเดโมแครต
ทำไมสมาชิกอาเซียนสนใจเข้าBRICS
ประเทศไทย มาเลเซีย และเวียดนามพยายามสัมพันธ์ดีกับมหาอำนาจทั้งหลาย ไม่อิงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจนเกินตัว มอง BRICS เป็นโอกาสใหม่
ระบบโลกที่บิดเบี้ยว (2) สงครามยูเครน
เงื่อนไขสงบศึกของปูติน การใช้ทรัพย์รัสเซียที่ยึดได้เป็นหลักฐานชี้ว่าต่างฝ่ายต่างยืนยันรบต่อ บ่งชี้ระเบียบโลกที่บิดเบี้ยว ต้องสู้กันต่อไป
ปูตินยกระดับสัมพันธ์เกาหลีเหนือ-รัสเซีย
บัดนี้เกาหลีเหนือสามารถส่งกระสุนอาวุธต่างๆ ช่วยรัสเซียทำศึกยูเครน แม้กระทั่งส่งกองทัพเกาหลีเข้ารบโดยตรง ดังที่ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวว่า ปูตินคือเพื่อนแท้ที่ดีที่สุด
ระเบียบโลกที่บิดเบี้ยว (1)
สัจนิยมมีข้อดีหลายอย่างแต่เปิดช่องให้รัฐบาลบางประเทศตีความว่าสามารถรุกรานประเทศอื่นๆ เป็นเรื่องปกติของโลก บางประเทศพยายามทำให้ดูดีอ้างว่าเป็นการป้องกันตนเอง