"20ปี ที่รอคอย"

ฝันที่เป็นจริงเสียที สำหรับ “สมศักดิ์ เทพสุทิน“  รองนายกรัฐมนตรี ที่ผลักดัน โครงการโคล้านตัวได้สำเร็จ  หลังรอคอยมาร่วม 20 ปี

ล่าสุด การประชุมครม.นอกสถานที่เมืองพะเยา  เมื่อวันที่19 มี.ค. ที่ผ่านมา  มีมติเห็นชอบ อนุมัติงบประมาณสำหรับโครงการ ‘วัวแสนล้าน‘ วงเงิน 5,000 ล้านบาท แต่ยังมีเงื่อนไขในเรื่องของดอกเบี้ยเงินกู้ใช้จ่ายในโครงการเท่านั้น ที่จะมอบสิทธิ์ให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน    

รองนายกฯสมศักดิ์ บอกว่า  โครงการวัวแสนล้าน อาจมีการปรับเปลี่ยนชื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และมั่นใจว่าจะช่วยเหลือเกษตรกรให้มีอนาคต มีโอกาส และมีทรัพย์สิน  

โครงการนี้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว มีคนเห็นด้วยน้อยมาก แต่ได้ทำการทดลองโครงการนี้มาแล้ว 4 ปี โดยร่วมมือกับภาคเอกชน นำวัว 2 ตัวไปเลี้ยง ปรากฎว่า 4 ปีผ่านมา วัวออกลูกออกหลานเป็น 11 ตัว ได้วัวหนึ่งตัวราคา 25,000 บาท หากเลี้ยงเป็นจำนวนมากในระดับแสนครัวเรือน ประชาชนจะมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น

ๆ อีกทั้งในกองทุนหมู่บ้านมีสมาชิก 13 ล้านครัวเรือน หากใครพร้อมก็สามารถเลี้ยงวัวเป็นทางเลือกเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีอนาคตได้ 

ย้อนกกลับไป หากพูดถึงนโยบายหรือโครงการโคล้านตัว ก็ต้องนึกถึง  "สมศักดิ์"    ที่พยายามผลักดันโครงการนี้มาแต่สมัยอยู่พรรคไทยรักไทยในปี 2547  และในช่วงหาเสียงเลือกตั้งปี 2548 ได้เดินทางไปปราศรัยขายฝันโคล้านตัวทั่วประเทศ 

โดยมีเงื่อนไขแจกโค 5 ล้านตัว 1 ล้านครอบครัว ให้ทุกครัวเรือนที่ยากจน  ต่อมาโครงการปรับเปลี่ยนในสมัยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์  และสุดท้าย รัฐบาลก็ไม่สามารถเดินหน้าโครงการนี้ได้

ผ่านไปหลายปี  "สมศักดิ์"  ก็ยังไม่ลืม และถือคติที่ว่า  "ล้มเหลว แต่ไม่ล้มเลิก" หากมีโอกาสก็จะสานฝันโครงการนี้ให้สำเร็จ 

แม้ในรัฐบาลรัฐบาลประยุทธ์ ยังไม่สบโอกาสแบบเหมาะๆเพราะรับผิดชอบกระทรวงยุติธรรม  แต่ก็ส่งไม้ต่อให้ "น้องรัก"  "เสี่ยแฮงค์"  อนุชา นาคาศัย อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ  ริเริ่มภายใต้ชื่อ "โคล้านครอบครัว" จนกลายเป็นโครงการโคต้นน้ำในพื้นที่น้ำร่องหลายแห่ง  

กระทั่ง ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน "สมศักดิ์"  เป็นรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกองทุนหมู่บ้านฯ จึงได้สานต่อโครงการ "วัวแสนล้าน" เป็นผลสำเร็จในที่สุด 

เชื่อว่าด้วยฝีมือ "สมศักดิ์ "จะพาชาวบ้านหลุดพ้นความยากจนด้วยโครงการโคล้านตัวได้เสียที. 

 

 

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ออร่าจับมาก

ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย

“ไม่ต้องรอมติพรรค”

“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ทันเกมทักษิณ

โบราณว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” จริงที่สุด ดูการเมืองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน

“เดี๋ยวก็หายไปแล้ว”

ช่วงนี้คนกรุงเทพฯ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ อากาศตอนเช้าอุณหภูมิประมาณ 20 องศา ถือว่าเป็นอากาศเย็นสบายๆ

หัวหน้าแก๊งเด็ก

พร้อมลุยงานกันต่อในปี 2568 สำหรับทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้อนรับปีใหม่ด้วยการตีปี๊บข่าวสารด้านต่างๆของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม โดยเฉพาะ “รองฯโบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายกล้าธรรม (กธ.) ที่ล่าสุดรีบแจ้งข่าวสารถึงเกษตรกรไทย

ไร้บอดี้การ์ด

ต้อนรับปีใหม่ปีงู 2568 แล้ว แต่ภารกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังคงเข้มข้นเช่นเดิม หลังเห็นรีวิวส่งท้ายปีของ รทสช. ที่บอกว่า พร้อมพังทุกอุปสรรค เพื่อประโยชน์ชาติ ทั้งพัง..การผูกขาด, พัง..ระบบที่เน่าเฟะ และพัง..การโกงกินทุกรูปแบบ พร้อมผลิตเสื้อพรรคสีน้ำเงิน สกรีนข้อความ “พัง! เพื่อประโยชน์ชาติ” ให้ได้เห็นกัน