กระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลง

ระเบียบโลก ระบบโลก หรือกฎ-กติกาในระดับโลก กับระเบียบ ระบบ กฎ-กติกาในบ้านเรา...ไปๆ-มาๆ แล้ว แทบสรุปไม่ได้ว่าอะไรจะเละเป็นขี้ เละเป็นโจ๊ก มาก-น้อยไปกว่ากัน แต่โดยสรุปรวมความแล้ว...ไม่ว่าจะในระดับโลก หรือระดับสังคมไทยก็แล้วแต่ อะไรต่อมิอะไรมันออกจะเหลวเป๋ว ปวกเปียก ป้อแป้ จนแทบไม่มีโอกาสไปควบคุม-บังคับใครต่อใครได้เลย

อย่างการเข่นฆ่า ล้างผลาญ พลเรือนผู้บริสุทธิ์ผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ของกองทัพอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ที่ยืดเยื้อคาราคาซังปาเข้าไปถึง 30,000 กว่ารายเข้าไปแล้ว เป็นเด็กเล็กๆ ผู้ไม่รู้ประสีประสานับเป็นหมื่นๆ แม้แทบไม่น่าเชื่อแต่ก็ยังต้องเชื่อจนได้ ว่าขนาดโลกทั้งโลก หรือประมาณ 153 ประเทศในสหประชาชาติ 120 ประเทศ ในกลุ่มผู้ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด จะกู่ก้องร้องตะโกนให้เร่ง หยุดยิง โดยฉับพลัน-ทันที แต่ก็มิอาจทำอะไรได้ ต่อการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่เห็นกันแบบจะจะคาตา ถึงลองไปฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศก็แล้ว คำวินิจฉัยชี้ขาดใดๆ ก็แล้วแต่ กลับไม่ได้รับการตอบสนอง ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงใดๆ แม้แต่น้อย...

แม้แต่มหาอำนาจสูงสุดแห่งโลกอย่างคุณพ่ออเมริกาก็เถอะ...ถ้าเพียงเลิกคิดส่งอาวุธให้กับทหารอิสราเอลแบบวันละเที่ยวสองเที่ยว ก็อาจหยุดยั้งฆาตกรรมและบรรดาฆาตกรได้พอสมควร แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุเพราะความซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศใดๆ ก็แล้วแต่ ด้วยความเป็น พันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างอเมริกากับอิสราเอล เลยทำให้โลกทั้งโลกได้แต่ยืนเบิ่งตา ดูเด็กๆ ผู้หญิงและคนแก่ ถูกเข่น ถูกฆ่า ไม่ก็หิวตายชนิดวันแล้ว-วันเล่า โดยมิอาจทำอะไรได้เลย ถึงขั้นผู้ที่มีหน้าที่ มีส่วนในการช่วยเหลือบรรดาผู้คนเหล่านี้ อย่างเจ้าหน้าที่สหประชาชาติบางราย ต้องตัดสินใจลาออก เพราะไม่อาจทำอะไรตามที่ใจปรารถนาและต้องการแม้แต่นิด...

อันนี้นี่เอง...ที่จะทำให้ กระแสแห่งความเปลี่ยนแปลง ย่อมเป็นสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้อีกต่อไป ระเบียบโลก ระบบโลก กฎ-กติกาที่เคยถูกนำมา บังคับใช้ ในโลก มันคงถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนใหม่ ปรับปรุงและแก้ไขกันใหม่ โดยจะเป็นไปในรูปไหน ต่อรูปไหน ก็ยังมิอาจคาดคะเนกันได้ถนัดๆ แต่สุดท้าย....ย่อมหนีไม่พ้นต้องเป็นไปตามหลักอิทัปปัจจยตา อันว่าด้วย...ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเป็นไปนั่นแล ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อไหร่? ตอนไหน? และอย่างไร? เท่านั้นเอง ไม่เว้นแม้แต่ระเบียบ ระบบ กฎ-กติกาในบ้านเราก็เช่นกัน...

จะด้วย ความเป็นไทย หรือเป็นอะไรก็แล้วแต่...ที่ทำให้สิ่งที่ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับใครๆ ก็ตาม กลับได้รับการยกเว้นให้กับใครคนใด-คนหนึ่งเป็นการเฉพาะ โดยไม่ว่าบุคคลนั้นๆ จะมีอำนาจ มีบารมี มีพระเดช พระคุณ มีความสำคัญต่อผู้หนึ่ง-ผู้ใด ฯลฯ ก็ตามที แต่ภายใต้ ระบบอุปถัมภ์ ที่ก่อให้เกิด 2 มาตรฐาน แบบจะจะคาตา มันเลยทำให้ไม่เพียงกฎ-ระเบียบ-กติกาออกจะเหลวเป๋ว ปวกเปียก ป้อๆ แป้ๆ เละเป็นขี้ เละเป็นโจ๊กอย่างเห็นได้โดยชัดเจน มันยังทำให้ความเป็นไทยในด้านลบ กลับเป็นอะไรที่ฝังรากลงไปในความรู้สึก-นึกคิด กลายเป็นค่านิยม เป็นวัฒนธรรม-ประเพณี ที่ทำให้ความเป็นไทยในด้านบวกทั้งหลาย ไม่ว่าความเมตตา กรุณา ความเอื้ออาทร ความเห็นอก-เห็นใจผู้อื่น ที่เคยช่วยให้สังคมไทยรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้ครั้งแล้ว-ครั้งเล่า มีแต่ต้องเสื่อมลง โทรมลง ยิ่งเข้าไปทุกที...

และอันนี้นี่เอง...ที่จะกลายเป็นตัวกัดกร่อน บ่อนเซาะ ทำลาย ให้โครงสร้างสังคมทั้งสังคม มีแต่จะผุกร่อน ผุพัง ยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ จนไม่อาจแน่ใจได้เลยว่า เสาค้ำสำคัญอย่างที่เรียก ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ จะเอาอยู่-ไม่เอาอยู่ ต่อความเป็นไปในอนาคตของสังคมเบื้องหน้า โดยเฉพาะเมื่อ กระแสแห่งความเปลี่ยนแปลง ทั้งในระดับโลกและสังคมแต่ละสังคม มันออกจะผสมปนเปจนมิอาจแยกขาดออกจากกันได้ง่ายๆ ความเป็นไทยในด้านลบที่เข้ามาแทนที่ความเป็นไทยในด้านบวกอย่างเห็นได้ถนัดชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที มันเลยทำให้ระบบ ระเบียบ กฎ-กติกาต่างๆ ทั้งหลาย ที่เคยสามารถ บังคับใช้ ได้อย่างเสมอหน้า อย่างถ้วนทั่วทุกตัวคน จึงกลายเป็นสิ่งที่รอคอยการเปลี่ยนแปลง ทั้งโดยเงื่อนไขและเหตุปัจจัย อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้...

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้

เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ

เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!

เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม

จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!

ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก

ไม่สนใจใครจะต่อว่า เสียงนกเสียงกา...ข้าไม่สนใจ

ถ้าหากเราจะบอกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงตำหนิ มีการนำเอาการพูดและการกระทำที่ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่เหมาะไม่ควร

จาก 'น้ำตา' ถึง 'รอยยิ้ม' พระราชินี

ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา...ได้อ่านข่าวพระราชาและพระราชินีสเปน เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเยียนผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองปอร์ตา แคว้นบาเลนเซีย