แค่ปลอกคอไม่ได้ทำให้ดูเป็น “ผู้ป่วยวิกฤต” หรอกนะ!
ฉะนั้น..คุณทวี สอดส่อง รมต.ยุติธรรมก็อย่าได้หงุดหงิด แต่ควรที่จะได้พูด-อธิบายความตามที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ถาม..
“นายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้แถลงต่อสภาว่า อดีตนักโทษรายหนึ่งได้รับการพักโทษกรณีพิเศษ เพราะอายุเกิน 70 ปี
และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หรือได้น้อย มีคะแนนความช่วยเหลือตนเองต่ำกว่า 11 จากคนปกติจะมีคะแนน 20 คะแนน
ถ้าการประเมินคะแนนถูกต้อง การเดิน อาบน้ำ เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน กินอาหาร กลั้นอุจจาระ กลั้นปัสสาวะ ต้องมีปัญหา
ทางกรมราชทัณฑ์จึงให้โอกาสมาใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว ตามหลักมนุษยธรรม
จากภาพที่เผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล ดูแล้วอดีตนักโทษรายนี้เดินเองได้ ไม่ต้องมีคนช่วยเหลือ ภาพรวมน่าจะช่วยตนเองได้ มีศักยภาพทำผิดซ้ำได้ มีโอกาสที่จะเป็นอันตรายต่อสังคม
สภาพไม่เหมือนการมาใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว เชื่อได้ว่า มีการโกงการประเมินคะแนน เพื่อให้พักโทษกรณีพิเศษ นายทวีจะชี้แจงอย่างไร”
ก็..รู้ล่ะอึดอัดขัดข้องใจแน่ เพราะที่พูดไปก่อนหน้านั้น ตอนนี้ “ภาพ” มันยืนยันแล้วว่า นักโทษที่ได้รับการพักโทษ..
สุขภาพร่างกายแข็งแรง เดินเหินยังกะหนุ่มใหญ่วัยแค่ 60 ไม่ส่ออาการเยี่ยวกะปริบ กลั้นขี้ไม่ได้แต่อย่างใด?
หรือถ้าคุณทวีจะแถก็ลองอธิบายดู แต่หากไม่อยากให้คนด่า-แช่งไปมากกว่านี้..ยอมรับผิดด้วยการ “ปิดปาก” ตัวเองซะ หมอวรงค์ก็ได้แต่ชกลมอยู่ฝ่ายเดียว!
ส่วนนายทักษิณก็เลิกเล่นลิเกได้แล้ว ทำตัวเป็นปกติเสียทีเถอะ คนไทยไม่ได้โง่หรอก..รำคาญ!
เออ..แล้วนี่ได้ดูกันรึยังล่ะ ผมหมายถึงแอนิเมชัน “2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ” น่ะ ถ้ายังบอกเลยต้องดู ยิ่งหากชวนลูกๆ หลานๆ นั่งดูไปด้วยกันได้ก็ยิ่งดี
ผมน่ะดูแล้ว และต้องสารภาพเลยว่าเป็น “หนังการ์ตูน” เรื่องแรกที่นอนดูม้วนเดียวจบไม่ลุกไปไหนเลย ก็ขอปรบมือ-ชื่นชมทีมงานผู้ผลิตทุกฝ่าย
โดยเฉพาะผู้สร้างสรรค์บท เห็นต้องขอคารวะสัก 1จอกไว้ตรงนี้ ส่วนที่ผมสงสัยว่าใครคือ “ลุงดอน” ก็เหมือนคุณปราชญ์ สามสี จะรู้ใจ วานนี้ท่านจึงได้โพสต์อธิบายว่า..
“หลายคนสงสัย ใครคือ “ลุงดอน” ..จริงตัวละครนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาย พโยม โรจนวิภาต ซึ่งมีตัวตนอยู่จริง.... เขาเป็นทั้งนักเขียน และเป็นถึง คนสนิท ของรัชกาลที่ ๗ ...
ทั้งนี้ นาย พโยม ตอนเป็นนักเขียนนั้น เดิมทีมี นามปากกา อ.ก. รุ่งแสง (ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ ว่า dawn นั้นแหละ) บุคลิกชอบสูบไปป์ วิเคราะห์สถานการณ์ ประเมินข่าว...
อีกทั้ง นาย พโยม ยังเป็นสายลับ โดยมีรหัสว่า .. พ.27 คอยเป็นหูเป็นตาให้รัชกาลที่ ๗ ตั้งแต่ครองราชย์จนสละราชสมบัติ
อีกทั้งยังเป็นสายลับและเป็นนักวิทยุที่เก่งกาจในสมัยสงครามโลกอีกด้วยครับ
หนังสือที่เล่าเรื่องของนาย พโยม คือ พ.27 สายลับพระปกเกล้าฯ ซึ่งเขาเขียนขึ้นมานั้นเอง
สำหรับละคร น้ำเงินแท้... บุคคลนี้จะได้เป็นต้นแบบของตัวละครสมมุติชื่อ นายต้นแสง นักหนังสือพิมพ์ที่ถูกข้อหากบฏจนถูกจับโดยคณะราษฎรส่งไป คุกที่เกาะตะรุเตานั่นเอง”
อ้อ..คุณปราชญ์ สามสี ยังกรุณาบอกสิ่งที่ต้องทราบก่อนชมรุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ ด้วยว่า.. 1.ภาพยนตร์มีการใช้คำไม่สุภาพ..(ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำกับบุตรหลาน)
2.เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เพราะท่านไม่อยากพลาดอะไรแน่ๆ 3.การสื่อสารใช้ภาษาง่ายๆ เพื่อความเข้าใจง่าย
4.พื้นฐานประวัติศาสตร์ของผู้ชมมีหลากหลาย ไม่แปลกที่ไม่เข้าใจ แนะนำคืออ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องเรื่องนี้ (ที่เคยแนะนำไว้ก่อนนี้) กันก่อนสักนิด จะช่วยให้ดูไหลลื่นขึ้นมาก
5.มี Post-Credits Scene ด้วยนะ 6.ขนมเตรียมไว้เลย .... เพราะคุณคงไม่อยากลุกไปหยิบขนมระหว่างเรื่องแน่ๆ 7.ทิชชูด้วย!!!
ข้ออื่นเชื่อ-ไม่เชื่อตามใจ แต่ข้อสุดท้าย ถ้าไม่ทำตาม..
ปลอกหมอนแฉะแน่!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ
“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี
คิดถึงนักรบลุง
กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?
เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก
เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน
นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?
ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..
ประชาชนควรพึ่งประชาชน
วันนี้-1 มกราคม.. เริ่มต้นปฏิทินหน้าแรกของปีใหม่ พ.ศ.2568 ก็ขออนุญาตกล่าวคำอำนวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านจงมีแต่ความสุข ความสมหวัง ไม่เจ็บ ไม่จนกันนะครับ!
ผลพวงจาก 'ฉายา'
หยิกแกมหยอก หรือเหน็บแนมทีเล่นทีจริงพอได้ยิ้มหัว นั่นคือ เจตนารมณ์ ความตั้งใจแรกในการมอบฉายาให้กับ “ดารา นักร้อง คนบันเทิง” ที่ผม (สันต์ สะตอแมน) ได้เสนอต่อนายกสมาคมนักข่าวบันเทิงในยุคนั้น