แถได้ตลอด..
ผมหมายถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่ตอบคำถามนักข่าวว่าสังคมเข้าใจว่านายทักษิณมีอาการป่วยหนัก และการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่อาจกระทบต่อสุขภาพหรือไม่ น่ะ
นพ.ชลน่านว่า.. “ป่วยหนักวิกฤตเป็นคำนิยามที่ทุกคนมอง สถานะบุคคลขณะใดบุคคลขณะหนึ่ง ก็ไม่ได้ป่วยอยู่ตลอดเวลา” ก่อนย้อนถามนักข่าว..
“น้องป่วย ถ้าไม่รักษาน้องจะหายไหม ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะหาย ในการที่จะรักษา และการจะตัดสินว่าหนักหรือไม่หนัก ก็ต้องตัดสินขณะใดขณะหนึ่ง ไม่ใช่ว่าจะป่วยตลอดปีตลอดชาติ”
เนี่ย..นอนอยู่ใน รพ.กว่า 6 เดือน อ้างว่า “วิกฤต” แพทย์ไม่อาจส่งตัวกลับเรือนจำได้เพราะอาจช็อกตายได้ตลอดเวลา แต่พอได้พักโทษกลับไปนอนจันทร์ส่องหล้า หมอชลน่านก็ว่า..
“ป่วยหนักวิกฤตเป็นคำนิยามที่ทุกคนมอง สถานะบุคคลขณะใดบุคคลขณะหนึ่ง ก็ไม่ได้ป่วยอยู่ตลอดเวลา”
ก็..ใช่ไง สังคม-คณะ คปท.ถึงได้ท้วงถาม นายทักษิณไม่ได้ป่วยหนักอยู่ตลอดเวลา แล้วทำไมไม่กลับไปนอนคุกบ้างในตอนทุเลา?
และที่วางแผน-โปรโมตเสียอึกทึกโครม จะ “กลับบ้านเก่า” (คำนี้ไม่ค่อยเป็นมงคลนัก) ไปไหว้บรรพบุรุษที่ จ.เชียงใหม่นั้น..
ทั้งครอบครัวไม่นึกกระดาก-ละอายใจบ้างเชียวรึ..หรือเป็นเจตนา จะเย้ยหยันหมอ รพ.ตำรวจให้คนรู้.. “กูไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ความรู้ ความสามารถของหมอห่วยจึงรักษาไม่ทุเลาลง”
หรือต้องการอวดอิทธิฤทธิ-อิทธิพลให้คนไทยได้รู้ว่า.. “กูกลับมายิ่งใหญ่คับฟ้าแล้วโว้ย ใครอย่าขวาง”!
ครับ..ใครจะขวาง-ไม่ขวางไม่รู้ แต่คุณเทพไท เสนพงศ์ ที่ได้รับการพักโทษเหมือนกันไม่ยอม และเมื่อแกกล้าขวาง ผมก็ขออยู่ข้างๆ ด้วยคนละกัน
และวานซืนคุณเทพไทโพสต์ (ขออนุญาตคัดลอกบางช่วงตอน).. “ต้องยอมรับความจริงว่า คุณทักษิณ เป็นนักโทษไทยคนเดียวในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่ได้รับสิทธิพิเศษ
และได้รับการปฏิบัติแบบสองมาตรฐานเหนือนักโทษคนอื่นๆ ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการยุติธรรม จากหน่วยงานของรัฐอย่างน้อย 2 กรม ที่สังกัดกระทรวงยุติธรรม
คือกรมราชทัณฑ์ ได้ปฏิบัติต่อคุณทักษิณเยี่ยงนักโทษเทวดา เช่น 1.คุณทักษิณไม่ได้เข้าจำคุกแม้แต่วันเดียว
2.คุณทักษิณใช้สิทธิ์ผู้ป่วยพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจจนครบกำหนดการพักโทษ 3.คุณทักษิณได้รับสิทธิ์การพักโทษทันที แม้ว่าจะตรงกับวันหยุดก็ตาม
ส่วนกรมคุมประพฤติ ก็ได้เลือกปฏิบัติต่อคุณทักษิณ คือ 1.คุณทักษิณไม่ต้องไปรายงานตัวที่สำนักงานกรมคุมประพฤติ ต้องให้เจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติไปรับรายงานตัวที่บ้าน
2.คุณทักษิณไม่ต้องติดกำไลอีเอ็ม เหมือนนักโทษคนอื่นๆ 3.ทักษิณสามารถเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ได้ในทุกกรณี ในขณะที่นักโทษอื่นๆ มีเงื่อนไข ข้อจำกัดมากมาย
ถ้าหากผู้รับผิดชอบหน่วยงานทั้งหมดออกมายืนยัน คุณทักษิณได้ทำตามระเบียบและข้อกฎหมายทุกประการ ก็อยากจะถามว่ามีนักโทษคนใด ได้รับสิทธิ์เช่นเดียวกับคุณทักษิณบ้าง
แม้แต่ผมเป็นนักโทษที่มีผู้คนในสังคมรู้จักมากพอสมควรคนหนึ่ง ยังไม่ได้รับสิทธิ์เช่นคุณทักษิณเลย..”
ต้องเป็น “กรวดในรองเท้า” ไปอย่างนี้แหละ!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ
“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี
คิดถึงนักรบลุง
กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?
เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก
เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน
นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?
ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..
ประชาชนควรพึ่งประชาชน
วันนี้-1 มกราคม.. เริ่มต้นปฏิทินหน้าแรกของปีใหม่ พ.ศ.2568 ก็ขออนุญาตกล่าวคำอำนวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านจงมีแต่ความสุข ความสมหวัง ไม่เจ็บ ไม่จนกันนะครับ!
ผลพวงจาก 'ฉายา'
หยิกแกมหยอก หรือเหน็บแนมทีเล่นทีจริงพอได้ยิ้มหัว นั่นคือ เจตนารมณ์ ความตั้งใจแรกในการมอบฉายาให้กับ “ดารา นักร้อง คนบันเทิง” ที่ผม (สันต์ สะตอแมน) ได้เสนอต่อนายกสมาคมนักข่าวบันเทิงในยุคนั้น