อดได้โชว์ผลงาน!

วายเอ็มโชว์..

คนรุ่นผมน่าจะพอคุ้นหรือจำได้แม่น โดยเฉพาะบรรดา “ราตรีชน” ที่ชอบแสงสีเสียงตามสถานบันเทิงอย่างสวนอาหาร คาเฟ่

ที่มีนักร้องสาวหลากไซส์คอยให้ความเพลิดเพลินด้วยเสียงเพลง พร้อมกับคอยปรนนิบัติบนโต๊ะเหล้า-โต๊ะข้าว ที่แม้เป็นคนที่ไม่ใช่แฟน ทำแทนทุกเรื่องไม่ได้..

แต่น้องๆ-นักร้องสาวสวยก็ยินดีและเต็มใจ ด้วยเพราะมี “พวงมาลัย” ติดแบงก์พันคล้องให้เต็มคอ!

ซึ่งนอกจากความสุขที่ได้จากนักร้องแล้ว คณะโชว์ “วายเอ็ม” ก็เป็นอีกความสุขที่นักท่องราตรีจะได้ตักตวงเอา จะสุขมากสุขน้อยก็ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์บวกความหน้าด้านเล็กน้อย

เพราะคณะโชว์ของเหล่าสาวๆ นั้น บางครั้งในบางคาเฟ่ไม่ได้แค่การเดินโชว์เรือนร่างด้วยอาภรณ์ที่น้อยนิด แต่ถึงกับไม่มีอะไรปิดกันเลยทีเดียวเชียว!

หมายถึง..เดินโชว์เรือนกายที่เปล่าเปลือยให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ตลอดถึง “วัยเฒ่า” ตัณหากลับ ได้ทั้งดูทั้งจับแบบไม่ต้องเขินอาย!

ก็ให้นึกแปลกใจ ที่โชว์ประเภทนี้ได้รับความนิยมอยู่ในสถานบันเทิงยามราตรีได้ไม่นาน ก็ค่อยๆ หายไปทีละคณะสองคณะ จนที่สุดก็ไม่มีให้ได้ดู ทิ้งไว้เป็นปริศนาให้สงสัย..

เป็นไปได้ไหมที่ “ราตรีชน” ให้รู้สึกกระดาก-ละอายใจ เบื่อกับการกดขี่ทางเพศ เลยหมดอารมณ์ เลิกนิยมดูนม-ดูโหนกไปโดยปริยาย!

และนี่..ที่ให้นึกถึง “วายเอ็มโชว์” ขึ้นมา ก็ไม่ได้คิดจะโหยหาบรรยากาศในอดีตอะไรนั่นหรอก เพียงแต่ได้เห็น-อ่านข่าวในจอ “ผู้จัดการออนไลน์” ที่รายงานว่า..

“นอกจากจะได้ซีนจากการปูป้ายหนุนไล่ฝรั่งเตะหมอออกจากประเทศไทย ในวันเข้ากองมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2024 วันแรก จนกลายเป็นไวรัล

ล่าสุด “หลิน มาลิน” มิสแกรนด์ภูเก็ต ก็สร้างซีนให้ตัวเองได้อีกครั้ง กับชุดแฟชั่นโชว์เว้าสูงปรี๊ด แหกเป้า เปิดบั้นท้ายให้เห็นกันเต็มๆ ทำตาแตกกันทั้งงาน เรียกว่าเวทีร้อนฉ่า

ขณะที่ชาวเน็ตก็วิจารณ์กันดุเดือด ทั้งจวกแรง อาทิ น่าเกลียด, ต้องเปิดขนาดนี้เลยเหรอ, หัวใจจะวาย, เยอะเกินไป ฯลฯ

อีกฝั่ง แฟนคลับมิสแกรนด์จำนวนไม่น้อย ต่างก็ชื่นชมว่าเจ้าตัวแซ่บเวอร์ (ขอบคุณภาพจากสยามดารา)

ครับ..พิศภาพตามก็เห็นจริงดังคำบรรยาย จึงเลยประหวัดนึกถึงภาพในอดีตอย่างที่ได้เล่ามา ก็ไม่ได้จะวิพากษ์วิจารณ์อะไร เพียงแต่จะถามนิด..

เวทีประกวดสาวงาม ขอบเขต-ลิมิต ความพอเหมาะ พองามกับการโชว์เรือนร่างอยู่ตรงไหน?

ก็..หวังว่าจะไม่เสรีหรือเลยเถิดไปถึงขั้นคณะโชว์วายเอ็มในอดีตนู้นหรอกนะ?

เอ้า..แล้วกัน กำลังท่องเมืองนอกด้วยความเพลิดเพลิน 6 เดือน 16 ประเทศอยู่ดีๆ ไหง..นายกรัฐมนตรี คุณเศรษฐา ทวีสิน มาออกคำสั่ง “เบรกตัวเอง” ซะอย่างงั้น?

คือ..อ่านที่นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย.. “สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำ นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ

พิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น งบประมาณด้านการประชาสัมพันธ์ งบประมาณด้านการฝึกอบรมและดูงาน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศ

 ค่าใช้จ่ายในการเช่ายานพาหนะ...ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ” 

นี่..หมายความว่าจากนี้ไปนายกฯ จะเดินทางไปต่างประเทศน้อยลง หรือไม่ก็ไม่ไปเลยเพื่อจะได้เก็บเงินไว้ใช้จ่ายเพื่อประโยชน์อย่างอื่นของประเทศชาติถูกไหม?

ว้า..อย่างงี้ก็เท่ากับนายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำงาน ไม่มีผลงานมาคุยโอ่สิ เพราะตั้งแต่คุณเศรษฐานั่งเก้าอี้นายกฯ มา 6 เดือน มีผลงานที่โม้ได้อยู่เรื่องเดียว..

เดินทางไปเมืองนอกนี่แหละ!.

 

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ

“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี

คิดถึงนักรบลุง

กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?

เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก

เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน

นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?

ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..

ประชาชนควรพึ่งประชาชน

วันนี้-1 มกราคม.. เริ่มต้นปฏิทินหน้าแรกของปีใหม่ พ.ศ.2568 ก็ขออนุญาตกล่าวคำอำนวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านจงมีแต่ความสุข ความสมหวัง ไม่เจ็บ ไม่จนกันนะครับ!

ผลพวงจาก 'ฉายา'

หยิกแกมหยอก หรือเหน็บแนมทีเล่นทีจริงพอได้ยิ้มหัว นั่นคือ เจตนารมณ์ ความตั้งใจแรกในการมอบฉายาให้กับ “ดารา นักร้อง คนบันเทิง” ที่ผม (สันต์ สะตอแมน) ได้เสนอต่อนายกสมาคมนักข่าวบันเทิงในยุคนั้น