"งานสากกระเบือ ยันเรือรบ " เพื่อแก้ปัญหาต่างๆให้ประชาชนต้องยกให้ กระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะยุค "มท.หนู" อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ที่ตั้งเป้าจัดระเบียบสังคม หากพบเจออุปสรรคอะไร ก็จะสั่งการ หรือลงไปลุยเองแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ถึงหน้างาน
อย่างกรณีสดๆร้อนๆ ประเด็นชาวต่างชาติ ที่ทำตัวเป็นมาเฟีย และทำร้ายแพทย์หญิงในจังหวัดภูเก็ต อย่างๆไม่เกรงกลัวกฎหมาย จนสถานการณ์ลุกลาม
"มท. หนู" บอกว่า ส่วนตัวรับไม่ได้อยู่แล้วเพราะแค่ผู้มีอิทธิพลคนไทยเรายังไม่ยอมแต่เราจะยอมให้ชาวต่างชาติมีอิทธิพลและมาทำตัวเป็นมาเฟียได้อย่างไร
"ไม่ต้องนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย หรอก นายอนุทินคนเดียวก็เอาอยู่แล้วเดี๋ยวจัดการ ให้ท่านชาดาดูแลผู้มีอิทธิพลคนไทยไป"
ไม่ใช่เพียงแค่คำพูดเท่านั้น การกระทำยังส่งไปที่ฝ่ายปฏิบัติงาน ล่าสุด นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ทำหนังสือด่วนมากที่ ภก 0018.4/5032 ถึง ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต เรื่อง ขอให้พิจารณาดำเนินการเพิกถอนหนังสือ วีซ่า ของ MR.URS BEAT FEHR โดยเร่งด่วน
เนื่องจากมีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขและความเรียบร้อยของประชาชน และรายงานผลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตทราบ
ถึงขนาด ผศ.ดร. วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต ยังออกมาชื่นชมว่า “อนุทิน”บอกว่า การจัดการมาเฟียต่างชาติ ก็ต้องกล้าถอดวีซ่าก่อน
หลังจากนั้น กระบวนการในเรื่องนี้ ขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว เพราะ อนุทิน ส่งสัญญาณไปแล้ว ว่าให้ดูเรื่องวีซ่า หัวขยับ หางก็ต้องส่าย ตอนแรกอาจจะกล้าๆ กลัวๆ แต่ มท.1 สั่งมาแล้ว ก็ต้องลุย
"เราต้องการความดุดันแบบนี้ เรื่องมาเฟีย เรื่องอิทธิพล ควรจะเร่งปฏิกิริยาในการจัดการ เป็นสิ่งที่สมควรทำ ไม่ควรหายไปตามกาลเวลา ”นักวิชาการ รายนี้ ระบุ
งานนี้ ”มาเฟียไทย-เทศ“อยู่ไม่สุข เมื่อ “มท. ยุค“อนุทิน” เอาจริง
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ออร่าจับมาก
ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย
“ไม่ต้องรอมติพรรค”
“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ทันเกมทักษิณ
โบราณว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” จริงที่สุด ดูการเมืองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
“เดี๋ยวก็หายไปแล้ว”
ช่วงนี้คนกรุงเทพฯ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ อากาศตอนเช้าอุณหภูมิประมาณ 20 องศา ถือว่าเป็นอากาศเย็นสบายๆ
หัวหน้าแก๊งเด็ก
พร้อมลุยงานกันต่อในปี 2568 สำหรับทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้อนรับปีใหม่ด้วยการตีปี๊บข่าวสารด้านต่างๆของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม โดยเฉพาะ “รองฯโบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายกล้าธรรม (กธ.) ที่ล่าสุดรีบแจ้งข่าวสารถึงเกษตรกรไทย
ไร้บอดี้การ์ด
ต้อนรับปีใหม่ปีงู 2568 แล้ว แต่ภารกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังคงเข้มข้นเช่นเดิม หลังเห็นรีวิวส่งท้ายปีของ รทสช. ที่บอกว่า พร้อมพังทุกอุปสรรค เพื่อประโยชน์ชาติ ทั้งพัง..การผูกขาด, พัง..ระบบที่เน่าเฟะ และพัง..การโกงกินทุกรูปแบบ พร้อมผลิตเสื้อพรรคสีน้ำเงิน สกรีนข้อความ “พัง! เพื่อประโยชน์ชาติ” ให้ได้เห็นกัน