แล้วก็มาถึงพุธสัญจรของ “เศรษฐา ทวีสิน” อีกระลอก ซึ่งอย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หากมีเรื่องอะไรใหญ่ๆ เกี่ยวกับ “ตระกูลชินวัตร” ขึ้นมา คนชื่อ “เศรษฐา” ก็มักมีเหตุบังเอิญแบบจงใจหรือไม่ก็ไม่รู้ ไม่อยู่ในศูนย์กลางอำนาจของประเทศอย่างทำเนียบรัฐบาลอยู่เสมอๆ ซึ่งล่าสุดนายกฯ เศรษฐาก็เดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศตั้งแต่ก่อนวันศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอ่านคำพิพากษาคดีของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี จนลากยาวมาถึงปัจจุบัน ...๐
ล่าสุดหลังจากท่องแดนออสเตรเลียแล้วก็จะได้เดินทางเหยียบยุโรปครั้งแรกของ “เศรษฐา” โดยประเดิมที่เยอรมนีก่อนไปจบที่ฝรั่งเศส โดยงานนี้จะมีการพบปะหารือกับ “โอลาฟ ชอลซ์” นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี และ “เอมมานูเอล มาครง” ประธานาธิบดีฝรั่งเศสด้วย แต่ดอกผลจะมีตามราคาคุยหรือไม่คงต้องติดตามกันต่อไป ...๐
ก็เหมือนการตีปี๊บเรื่อง “ผ้าขาวม้า” นั่นแล ที่ คุยเป็นวรรคเป็นเวรว่าจะใส่ไปอวดโอ่ชาวต่างชาติฝรั่งมังค่า จะใส่ร่วมประชุมโน่นนี่ แต่ในความเป็นจริง “เศรษฐา” กลับใส่เฉพาะตอนออกหน้าสื่อที่จะถ่ายภาพมายังประเทศไทย อย่างการออกจากโรงแรมที่พักเท่านั้น เพราะในการประชุมเต็มคณะของผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลีย ณ ศูนย์ประชุม Melbourne Convention and exhibition Centre (MCEC), การประชุมอย่างไม่เป็นทางการของผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลีย ณ Government House Victoria และการถ่ายภาพหมู่ก่อนประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ณ สนาม Western Lawns “เศรษฐา” ก็ไม่ได้พันผ้าขาวม้าแต่ประการใด หรือรวมถึงการไปป้อนใบยูคาลิปตัสให้ “โคอาลา” ที่ไม่ใช่ช่วงประชุมก็ไม่ได้พันใส่เช่นกัน ...๐
เลยต้องบอกว่า “หน้าฉาก” กับความเป็นจริงมักจะสวนทางกันเสมอๆ ที่สำคัญสังคมดูเหมือนสงสัยกันอย่างมากในการไปที่ฝรั่งเศส โดยเฉพาะการไปเข้าร่วม งานมหกรรม MIPIM 2024 ณ เมืองคานส์ ซึ่งเป็นงานมหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะไม่รู้ว่ามีองค์กรภาครัฐหรือเอกชนของไทยอะไรที่ไปร่วมงานดังกล่าว จนทำให้ “เศรษฐา” ต้องไปร่วมและไปเปิดงาน ดังกล่าว ที่สำคัญยังทำให้สังคมหวาดระแวงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกันเข้าไปอีก เพราะอาชีพเดิมของ “เศรษฐา” คือพ่อค้าขายบ้านด้วยแล้ว การไปงานอสังหาฯ แบบนี้ก็ยิ่งทำให้ทฤษฎีสมคบคิดเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นนั่นแล ...๐
พูดถึงนายแบบเศรษฐาแล้ว จะไม่เอ่ยถึงต้นตำรับ “นายกฯ แคตวอล์ก” อย่าง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็กระไรอยู่ เพราะแม้จะมีข่าวดีล่าสุดจากคำพิพากษาในคดีโรดโชว์แล้ว แต่ดูเหมือน “ป.ป.ช.” ยังไม่สะเด็ดน้ำเพราะต้องรอดูคำพิพากษาฉบับเต็มเสียก่อนว่าจะถอดใจหรือจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป แต่ดู แนวโน้มก็บอกได้เลยว่าอาจต้องฝืนๆ ยื่นอุทธรณ์เพื่อไม่ให้เป็นดินแดนกระสุนตกนั่นเอง ...๐
ที่น่าสนใจคือ กรณีการกวักมือเรียกให้ “ยิ่งลักษณ์” กลับ ทั้งจากตระกูลชินวัตรและบรรดาแฟนคลับ ในขณะที่มีการเชื่อมโยง “ทักษิณโมเดล” ว่า “นารีปู” อาจดำเนินรอยตามหรือไม่อย่างไร แต่ก็มีเสียงจากฝ่ายค้านโดยเฉพาะ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” แห่งพรรคประชาธิปัตย์เตือนให้น่าคิดว่า หากจะเจริญรอยตามอาจกลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย และอาจทำให้เหตุการณ์ยุค “นิรโทษกรรมสุดซอย” กลับมาหลอกหลอนก็ได้ งานนี้เลยน่าสนใจว่า “ยิ่งลักษณ์” จะเลือกกลับเมืองไทยแบบไหนต้องติดตาม ...๐
เอ่ยถึงฝ่ายค้านแล้วจะไม่พูดถึงหลังจากพรรคร่วมฝ่ายค้านประชุมก็ไม่ได้ เพราะก็เป็นไปตามคาดก่อนหน้านี้ที่จะมีการอภิปรายแบบไม่มีการลงมติตามมาตรา 152 เท่านั้น หรือภาษาชาวบ้านก็คือ ขอด่าฟรีๆ ออกทีวี ไม่มีผลทางการเมืองแต่ประการใดนั่นแล โดย “ชัยธวัช ตุลาธน” ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรก็ปล่อยของลองเชิงมาแล้วว่ารัฐบาลแบบหลักนิติธรรมถูกทำลาย เลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม บริหารประเทศอย่างไร้จริยธรรม ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ และไร้วุฒิภาวะ ก็ต้องบอกว่า แม้จะไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่การปล่อยน้ำจิ้มออกมาแบบนี้ก็ต้องติดตามแบบตาไม่กะพริบทีเดียว ...๐
ทิ้งท้ายด้วยการแถลงข่าวของศาลปกครอง ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายใหม่ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยมี “ประวิตร บุญเทียม” ประธานแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่นในศาลปกครองสูงสุด ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองประธานศาลปกครองสูงสุดเป็นผู้แถลง ซึ่งนอกจากภาพรวมผลงานแล้ว ยังมีเจาะลึกไปใน คดีต่างๆ ที่ศาลปกครองมีส่วนเกี่ยวพันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรณีพิพาทของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-อุเทนถวาย, อาคารแอชตัน อโศก หรือแม้แต่เรื่องดาวเทียมของ กสทช. ซึ่งเรียกว่าสร้างความกระจ่างและความเข้าใจให้สังคมอย่างมาก แต่ติดอยู่นิดเดียวว่าควรแถลงทันควันทันทีให้สอดรับเหตุการณ์ดีกว่าจะมารวมมิตรนะครับท่าน ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
"นายหัวชวน" ออกโรงตวัดใบมีดโกนกรีดปาก "นายใหญ่" เจ้าของตำแหน่ง สทร. "คุณทักษิณบอกว่าเขาคือนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่ผมเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง ไม่ซื้อเสียง
บันทึกหน้า 4
ต้องยกนิ้วให้ “โทนี่ วู้ดซัม” เสียจริงๆ เพราะขยับปากแต่ละทีนอกจากสร้างความฮือฮาให้สังคมแล้ว ยัง สร้างภาระให้กับลูกสาวอย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีอีกด้วย โดยล่าสุดก็ในการไปหาเสียงให้ “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” ศรีภรรยา “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ที่จะลงชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.เชียงราย เมื่อวันที่ 5 ม.ค.นั่นแล ...๐
บันทึกหน้า 4
เมื่อวันอังคารมีการประชุม ครม.ครั้งแรกในปี 2568 หลังจากผ่านวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องมาแก้ตัวแทน พ่อนายกฯ นายทักษิณ ชินวัตร
บันทึกหน้า 4
” นึกว่าจะอยู่ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง อบจ.เชียงราย แต่ที่ไหนได้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาในฐานะเป็นเจ้าของรัฐบาล โชว์บทบาทกำหนดทิศทางการทำงานของประเทศ การปรับ ครม. แถมยังด่ากราดคนเห็นต่างในหลายประเด็น
บันทึกหน้า 4
เปิดบันทึกด้วยความตะลึงตึงตึงกับตำแหน่ง "ที่สุด" อีกครั้งของนายกฯ หญิงอายุน้อยที่สุด แพทองธาร ชินวัตร เพราะมีทรัพย์สินอยู่ถึง 13,846 ล้านบาท และตัวเลขที่ออกนี้ วิเคราะห์วิจารณ์กันยกใหญ่ว่า อาจจะเป็นนายกฯ ที่มั่งคั่งที่สุดในโลกนะเออ!! ...0
บันทึกหน้า 4
หลังกลับเข้าสู่โหมดการทำงาน-การใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติ ตามปฏิทินประจำปี 2568 กันแล้ว ตลอดปี 2568 ที่เป็นปีมะเส็ง นักวิเคราะห์การเมืองหลายสำนักก็ยังมองว่า การเมืองไทยปีหน้า ก็ยังมีหลายเรื่องให้น่าติดตาม เช่น การเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ก.พ.2568