บันทึกหน้า 4

แล้วก็มาถึงพุธสัญจรของ “เศรษฐา ทวีสิน” อีกระลอก ซึ่งอย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หากมีเรื่องอะไรใหญ่ๆ เกี่ยวกับ “ตระกูลชินวัตร” ขึ้นมา คนชื่อ “เศรษฐา” ก็มักมีเหตุบังเอิญแบบจงใจหรือไม่ก็ไม่รู้ ไม่อยู่ในศูนย์กลางอำนาจของประเทศอย่างทำเนียบรัฐบาลอยู่เสมอๆ ซึ่งล่าสุดนายกฯ เศรษฐาก็เดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศตั้งแต่ก่อนวันศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอ่านคำพิพากษาคดีของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี จนลากยาวมาถึงปัจจุบัน ...๐

ล่าสุดหลังจากท่องแดนออสเตรเลียแล้วก็จะได้เดินทางเหยียบยุโรปครั้งแรกของ “เศรษฐา” โดยประเดิมที่เยอรมนีก่อนไปจบที่ฝรั่งเศส โดยงานนี้จะมีการพบปะหารือกับ “โอลาฟ ชอลซ์” นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี และ “เอมมานูเอล มาครง” ประธานาธิบดีฝรั่งเศสด้วย แต่ดอกผลจะมีตามราคาคุยหรือไม่คงต้องติดตามกันต่อไป ...๐

 ก็เหมือนการตีปี๊บเรื่อง “ผ้าขาวม้า” นั่นแล ที่ คุยเป็นวรรคเป็นเวรว่าจะใส่ไปอวดโอ่ชาวต่างชาติฝรั่งมังค่า จะใส่ร่วมประชุมโน่นนี่ แต่ในความเป็นจริง “เศรษฐา” กลับใส่เฉพาะตอนออกหน้าสื่อที่จะถ่ายภาพมายังประเทศไทย อย่างการออกจากโรงแรมที่พักเท่านั้น เพราะในการประชุมเต็มคณะของผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลีย ณ ศูนย์ประชุม Melbourne Convention and exhibition Centre (MCEC), การประชุมอย่างไม่เป็นทางการของผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลีย ณ Government House Victoria และการถ่ายภาพหมู่ก่อนประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ณ สนาม Western Lawns “เศรษฐา” ก็ไม่ได้พันผ้าขาวม้าแต่ประการใด หรือรวมถึงการไปป้อนใบยูคาลิปตัสให้ “โคอาลา” ที่ไม่ใช่ช่วงประชุมก็ไม่ได้พันใส่เช่นกัน ...๐

เลยต้องบอกว่า “หน้าฉาก” กับความเป็นจริงมักจะสวนทางกันเสมอๆ ที่สำคัญสังคมดูเหมือนสงสัยกันอย่างมากในการไปที่ฝรั่งเศส โดยเฉพาะการไปเข้าร่วม งานมหกรรม MIPIM 2024 ณ เมืองคานส์ ซึ่งเป็นงานมหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะไม่รู้ว่ามีองค์กรภาครัฐหรือเอกชนของไทยอะไรที่ไปร่วมงานดังกล่าว จนทำให้ “เศรษฐา” ต้องไปร่วมและไปเปิดงาน ดังกล่าว ที่สำคัญยังทำให้สังคมหวาดระแวงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกันเข้าไปอีก เพราะอาชีพเดิมของ “เศรษฐา” คือพ่อค้าขายบ้านด้วยแล้ว การไปงานอสังหาฯ แบบนี้ก็ยิ่งทำให้ทฤษฎีสมคบคิดเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นนั่นแล ...๐

พูดถึงนายแบบเศรษฐาแล้ว จะไม่เอ่ยถึงต้นตำรับ “นายกฯ แคตวอล์ก” อย่าง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็กระไรอยู่ เพราะแม้จะมีข่าวดีล่าสุดจากคำพิพากษาในคดีโรดโชว์แล้ว แต่ดูเหมือน “ป.ป.ช.” ยังไม่สะเด็ดน้ำเพราะต้องรอดูคำพิพากษาฉบับเต็มเสียก่อนว่าจะถอดใจหรือจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป แต่ดู แนวโน้มก็บอกได้เลยว่าอาจต้องฝืนๆ ยื่นอุทธรณ์เพื่อไม่ให้เป็นดินแดนกระสุนตกนั่นเอง ...๐

ที่น่าสนใจคือ กรณีการกวักมือเรียกให้ “ยิ่งลักษณ์” กลับ ทั้งจากตระกูลชินวัตรและบรรดาแฟนคลับ ในขณะที่มีการเชื่อมโยง “ทักษิณโมเดล” ว่า “นารีปู” อาจดำเนินรอยตามหรือไม่อย่างไร แต่ก็มีเสียงจากฝ่ายค้านโดยเฉพาะ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” แห่งพรรคประชาธิปัตย์เตือนให้น่าคิดว่า หากจะเจริญรอยตามอาจกลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย และอาจทำให้เหตุการณ์ยุค “นิรโทษกรรมสุดซอย” กลับมาหลอกหลอนก็ได้ งานนี้เลยน่าสนใจว่า “ยิ่งลักษณ์” จะเลือกกลับเมืองไทยแบบไหนต้องติดตาม ...๐

เอ่ยถึงฝ่ายค้านแล้วจะไม่พูดถึงหลังจากพรรคร่วมฝ่ายค้านประชุมก็ไม่ได้ เพราะก็เป็นไปตามคาดก่อนหน้านี้ที่จะมีการอภิปรายแบบไม่มีการลงมติตามมาตรา 152 เท่านั้น หรือภาษาชาวบ้านก็คือ ขอด่าฟรีๆ ออกทีวี ไม่มีผลทางการเมืองแต่ประการใดนั่นแล โดย “ชัยธวัช ตุลาธน” ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรก็ปล่อยของลองเชิงมาแล้วว่ารัฐบาลแบบหลักนิติธรรมถูกทำลาย เลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม บริหารประเทศอย่างไร้จริยธรรม ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ และไร้วุฒิภาวะ ก็ต้องบอกว่า แม้จะไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่การปล่อยน้ำจิ้มออกมาแบบนี้ก็ต้องติดตามแบบตาไม่กะพริบทีเดียว ...๐

ทิ้งท้ายด้วยการแถลงข่าวของศาลปกครอง ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายใหม่ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยมี “ประวิตร บุญเทียม” ประธานแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่นในศาลปกครองสูงสุด ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองประธานศาลปกครองสูงสุดเป็นผู้แถลง ซึ่งนอกจากภาพรวมผลงานแล้ว ยังมีเจาะลึกไปใน คดีต่างๆ ที่ศาลปกครองมีส่วนเกี่ยวพันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรณีพิพาทของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-อุเทนถวาย, อาคารแอชตัน อโศก หรือแม้แต่เรื่องดาวเทียมของ กสทช. ซึ่งเรียกว่าสร้างความกระจ่างและความเข้าใจให้สังคมอย่างมาก แต่ติดอยู่นิดเดียวว่าควรแถลงทันควันทันทีให้สอดรับเหตุการณ์ดีกว่าจะมารวมมิตรนะครับท่าน ...๐

 

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ดูเหมือนช่วงนี้ “พรรคเพื่อไทย” ของตระกูลชินวัตรจะเกิดอาการ “ราหูอม” อย่างไรอย่างนั้น เพราะ ตั้งแต่ “โทนี่ วู้ดซัม” หรือ “ทักษิณ ชินวัตร” เดินทางกลับไทยแบบเท่ โดยเป็นวีวีไอพีประเทศที่ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียวแล้ว

บันทึกหน้า 4

ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ส่อวุ่นอีก แม้ นายชาญ พวงเพ็ชร์ ชนะการเลือกตั้ง แต่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อถุงยังชีพเมื่อปี 2555 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำสั่งประทับฟ้องคดีนี้แล้ว

บันทึกหน้า 4

“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” ผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อย่างไม่เป็นทางการ) ปรากฏว่า นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายก อบจ. หมายเลข 1 ได้คะแนนทั้งสิ้น 203,010 คะแนน

บันทึกหน้า 4

บันทึกกันในวันแรกของครึ่งปีหลัง ท่ามกลางความคาดหวังว่า บรรยากาศบ้านเมืองว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจจะเขยิบดีขึ้น โดยเฉพาะดัชนีในตลาดหลักทรัพย์ที่โงนเงนง่อกแง่กซะเงาะซะแงะมาตั้งแต่ต้นปี จะโงหัวขึ้นอย่างสม่ำเสมอ

บันทึกหน้า 4

ฟ้าผ่าเปรี้ยงกลางกบาล "นายใหญ่" อุตส่าห์ภูมิใจนำเสนอน้องเขยวางตัวประมุขสภาสูง นึกว่าเป็นเทวดาเสกได้สารพัดอย่างเหมือนคราวดันก้น "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ต้องน้ำตาตกร่วงตกเก้าอี้ชนิดล็อกถล่ม ได้แค่ 10 คะแนน

บันทึกหน้า 4

เรียกว่าสายตาทางการเมืองใน วันพุธที่ 26 มิถุนายน 2567 ต่างจับจ้องไปที่เวที “อิมแพ็ค ฟอรัม เมืองทองธานี” เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ โดยมีผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว.ระดับจังหวัด จากทั้ง 77 จังหวัดใน 20 กลุ่มอาชีพ รวม 2,995 คน