ยิ่งวันการสู้รบในเมียนมาก็ยิ่งขยับเข้าไปในจุดที่ตั้งของประชาชนเพราะฝ่ายกองทัพพม่ากำลังเพลี่ยงพล้ำ และต้องการจะกดดันให้ฝ่ายต่อต้านยอมถอยออกจากแนวรบที่กำลังได้เปรียบฝ่ายทหารประจำการ
ล่าสุดการถล่มตลาดที่ผู้คนพลุกพล่านในยะไข่กลายเป็นโศกนาฏกรรมรอบล่าสุดที่ยิ่งจะสร้างความโกรธแค้นให้กับชาวบ้านพม่าที่ต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าหนักขึ้นอีก
กระสุนปืนใหญ่หลายชุดของทางการพม่าตกลงในตลาดที่คึกคักที่สุดในภาคตะวันตกของรัฐยะไข่ มีพลเรือนตาย 12 และบาดเจ็บไม่น้อยกว่า 80 คน
ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านต่างชี้นิ้วกล่าวโทษซึ่งกันและกันว่าเป็นผู้ริเริ่มการโจมตี
ฝ่ายต่อต้านหลักในย่านนี้คือกองทัพอาระกัน (Arakan Army - AA) ซึ่งปักหลักปฏิบัติการในรัฐยะไข่อันมีพรมแดนติดกับบังกลาเทศ
กองทัพ AA ยืนยันว่าหน่วยทหารจากเรือรบของกองทัพเมียนมา ที่ลอยลำอยู่ที่เมืองท่าซิตตเว เมืองหลวงของยะไข่ฝ่ายผู้ยิงปืนใหญ่เข้าใส่ตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
รัฐบาลทหารออกแถลงการณ์ในช่องโทรทัศน์เมียวดีอันเป็นกระบอกเสียงทางการ กล่าวว่ากองทัพอาระกันคือฝ่ายผู้ยิงปืนใหญ่ใส่ตลาด
แต่ไม่มีรายละเอียดที่จะยืนยันยอดความเสียหายในพื้นที่ให้มีความน่าเชื่อถือว่ามีสาระที่มีการตรวจสอบแล้วแต่อย่างใด
นี่เป็นภาพล่าสุดของสกานการณ์สู้รบในเมียนมาที่ยังตกอยู่สภาพของสงครามกลางเมืองตั้งแต่มิน อ่อนหล่ายก่อรัฐประหารโค่นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอองซานซูจีตั้งเมื่อปี 2021
กองทัพพม่าเริ่มจะตกเป็นฝ่ายตั้งรับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว เพราะกลุ่มต่อต้านหลายกลุ่มผนึกกำลังกันโจมตีป้อมค่ายทางทหารและตำรวจหลายแห่งในพื้นที่หลายภาคส่วนทั่วประเทศ
ที่น่าสังเกตคือระดับการสู้รบในรัฐยะไข่นั้นได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การสู้รบส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ใกล้กับเมืองซิตตเวซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐนี้
จุดนี้คือที่ตั้งของศูนย์การค้าและพาณิชย์เพราะมีตั้งท่าเรือในอ่าวเบงกอลที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจอย่างยิ่ง
กลุ่มกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์กองทัพอาระกันสามารถยกระดับการสู้รบจนสามารถผลักดันกองทหารฝั่งรัฐบาลให้ออกจากเขตเมืองแล้วอย่างน้อย 5 แห่ง
รวมถึงเมืองการค้าสำคัญอย่างปาเลตวาที่อยู่ใกล้ชายแดนอินเดียและบังกลาเทศด้วย
สร้างความหวั่นไหวให้กับเพื่อนบ้านด้านตะวันตกมากพอ ๆ กับที่จีนทางเหนือได้แสดงความกังวลจนต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยให้มีการหยุดยิงซึ่งยังไม่ถือว่าได้ผลนัก
สำนักข่าวอิระวดีรายงานว่าฐานทัพเรือและฐานทัพอื่นๆ รอบๆ เมืองซิตตเว ได้ทำการระดมโจมตีเมืองอย่างไม่เลือกหน้าตั้งแต่ช่วงเย็นวันพุธของสัปดาห์ที่ผ่านมา
ชาวบ้านคนหนึ่งเล่าว่า “เวลาประมาณ 8.00 น. ระเบิดร่วงลงมาในตลาด มันมาจากกองทัพเรือ กองกำลังรัฐบาลทหารทำการยิงตามอำเภอใจตั้งแต่เย็นวานนี้ (วันพุธ)”
หน่วยรบจากกองทัพโจมตีเมืองซิตตเวด้วยการสุ่มโจมตีบริเวณที่อยู่อาศัยและเป้าหมายอื่นๆ ที่ไม่ใช่ทางทหารเพื่อสกัดไม่ให้ AA เข้ามายึดเมืองนี้
ชาวบ้านบอกว่าทหารฝ่ายต่อต้าน AA มีเป้าหมายที่จะยึดครองทั้งรัฐในปีนี้
AA ได้ประกาศก่อนหน้านี้ว่าสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับชาวยะไข่อยู่ในพื้นที่ในรัฐยะไข่ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การควบคุมของตน
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ทางกลุ่มได้เรียกร้องให้ประชาชนและชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ออกจากเมืองต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล เช่น ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ และย้ายไปยังดินแดนที่ AA ควบคุม
ผู้บาดเจ็บที่ตลาดสดถูกส่งตัวส่งโรงพยาบาล Sittwe General โดยกองกำลังของรัฐบาลทหารเข้ายึดครองโรงพยาบาลและต่อมาได้เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ 5 คนที่อาการสาหัสไปยังโรงพยาบาลในย่างกุ้งด้วยเฮลิคอปเตอร์ทหาร
ในเมืองซิตตเว เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ส่วนใหญ่ออกจากรัฐยะไข่ไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยกว่า
และเพราะความขัดแย้งที่นำไปสู่การสู้รบในรัฐนี้ก็ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์
“ป้าของฉันถูกตีที่ศีรษะระหว่างการโจมตีและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในเมืองซิตตเว จำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บมีเพิ่มมากขึ้น เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ คาดว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 15 ราย และบาดเจ็บเกือบ 80 ราย” ชาวบ้านอีกคนแจ้งกับสื่อท้องถิ่น
ในรัฐยะไข่นี้เองที่กองทัพของรัฐบาลทหารต้อเผชิญกับความพ่ายแพ้อย่าต่อเนื่อง
โดยสูญเสียไปแล้ว 7 เมือง ฐานทัพหลัก ด่านหน้า และเรือรบหลายลำ นับตั้งแต่ AA เปิดฉากรุกในรัฐเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
และนับแต่นั้นเป็นต้นมา รัฐบาลทหารก็ได้ข่มเหงพลเรือนยะไข่ด้วยวิธีต่างๆ
รวมถึงการจับกุมชาวยะไข่ในเมืองต่างๆ เช่น ย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ จำกัดสิทธิการเดินทางของพวกเขาทั่วประเทศ และโจมตีพื้นที่ที่อยู่อาศัยในรัฐยะไข่
สำนักงานประสานงานด้านมนุษยธรรมและการพัฒนาของ AA (HDCO) ประกาศเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ว่าการโจมตีของทหารรัฐบาลทหารทำให้มีพลเรือนบาดเจ็บ 468 ราย เสียชีวิต 111 รายและบาดเจ็บ 357 ราย และทำให้ผู้คน 268,731 รายกลายเป็นผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ (IDP) นับตั้งแต่การโจมตีเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน
โศกนาฏกรรมของพม่ายังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยยังไม่มีสัญญาณว่าจะมีช่องทางของการเจรจาสงบศึกได้เมื่อใด...และใครจะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยที่ประสบความสำเร็จได้...ถ้าไม่ใช่อาเซียนที่มีประเทศไทยเป็นหนึ่งในแกนสำคัญของการประสานและผลักดันให้เกิดสันติภาพจริง ๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


