ถึงเวลาต้องปลุกเที่ยวไทย

แม้ในขณะนี้ โลกจะเริ่มมีข้อมูลเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์ 'โอมิครอน' เพิ่มขึ้น และรู้ชัดเจนว่าเป็นสายพันธุ์ที่ติดง่าย แต่มักจะมีอาการเฉพาะที่ไม่รุนแรง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา แต่ถึงอย่างไรก็ดี หากเจ้าเชื้อนี้ลงปอดอาการก็หนักหน่วงเหมือนเดลตาเช่นกัน

โดยในขณะนี้เจ้า 'โอมิครอน' ก็กำลังเพิ่มจำนวนแพร่ระบาดในไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมีการแพร่ระบาดใหญ่ก็เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขและระบบเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง ซึ่งที่จะต้องจับตาเป็นพิเศษก็คือช่วงหลังปีใหม่นี้ว่าจะมีการระบาดเพิ่มมากแค่ไหน เพราะเป็นช่วงเวลาของการกลับบ้าน และการสังสรรค์

โดยในเวลานี้แม้ว่าการระบาดของโควิด-19 ในไทยจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ยังไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ในอนาคตได้มากนักว่า การระบาดของโควิดจะเป็นทางไหน

แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่กระทบกับเศรษฐกิจบ้างแล้วก็คือ ในเรื่องของการท่องเที่ยว หลังรัฐบาลได้ตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส และระบบ Test & go สำหรับกรณีคนเดินทางมาจากต่างประเทศ หันกลับมาใช้ระบบแซนด์บ็อกซ์และการกักตัวเหมือนเดิม ซึ่งแน่นอนว่าก็จะส่งผลต่อตัวเลขนักท่องเที่ยวที่กำลังจะฟื้นตัวไม่ใช่น้อย

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าปรากฏการณ์จากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 'โอมิครอน' ที่เกิดขึ้นทั่วโลก จนเรียกว่า “Omicron Effect” ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการบินและท่องเที่ยว โดยในขณะนี้มีการยกเลิกเที่ยวบิน และหลายประเทศก็เพิ่มระดับมาตรการในการเดินทางช่วงคริสต์มาส รวมถึงงดออกนอกประเทศ อย่างกรณีประเทศญี่ปุ่นและจีน มีมาตรการปิดประเทศไม่ให้คนออกนอกประเทศแบบไม่มีกำหนด

ดังนั้น ความหวังในการดึงดูดนักท่องเที่ยวของไทยในช่วงไฮซีชั่นนี้จึงเป็นไปได้ยากทีเดียว ซึ่งจากเหตุการณ์แบบนี้การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวอาจต้องรอไปถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างเร็ว และตัวเลขนักท่องเที่ยว คงไม่สูงมากนัก อาจจะหลัก 5-6 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณแค่ 10% ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เคยขึ้นสู่จุดพีกสุดของไทย

ดังนั้น การไปหวังพึ่งรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศอาจจะเป็นเรื่องยากในเวลานี้ สิ่งที่รัฐบาลจะต้องแก้เกมเพื่อประคองธุรกิจท่องเที่ยวให้อยู่ต่อได้คงหนีไม่พ้น การหันมาเน้นกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของตลาดในประเทศ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ยังเดินทางท่องเที่ยวอยู่ และช่วงนี้ถือเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ของคนไทยด้วยเช่นกัน ดังนั้นทั้งภาครัฐและเอกชนอาจจะต้องกลับมาโฟกัสในตลาดนี้อีกครั้ง

โดยแนวทางอาจจะต้องพึ่งภาครัฐใช้งบประมาณอุดหนุนการท่องเที่ยวอีกครั้ง อาจจะเป็นเราเที่ยวด้วยกัน หรือทำแคมเปญเที่ยวคนละครึ่ง ผ่านการสมทบเงินให้ใช้ในการท่องเที่ยว 50% ในรูปแบบเดียวกับโครงการคนละครึ่งที่ตั้งวงเงินให้ และสามารถใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้เหมือนคนละครึ่ง

รวมถึงการจัดรถบัสทัวร์ทั้ง 5 ภูมิภาค จำนวน 1,000 คันต่อเดือน รวม 5 ภาค 5,000 คัน ในการจัดเส้นทางท่องเที่ยวในทุกภาค ไม่ใช่เน้นเพียงจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งเท่านั้น ไม่พอเท่านั้น รัฐเองอาจจะต้องรณรงค์ให้หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจนำงบไปสนับสนุนผ่านงานสัมมนาและท่องเที่ยว หรือฝึกอบรมของภาครัฐ เพื่อให้มีเงินจากงบประมาณเข้าไปช่วยอีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ หากประคองให้พ้นช่วงวิกฤตซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาราวๆ 6 เดือน และเมื่อภาพการท่องเที่ยวในประเทศเริ่มฟื้นตัว และสถานการณ์การระบาดในประเทศมีความปลอดภัยมากขึ้น การท่องเที่ยวจากต่างชาติก็จะสามารถฟื้นกลับมาได้ เพราะต้องเข้าใจว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศมีความรักและอยากจะมาเที่ยวในประเทศไทยอยู่แล้ว เมื่อเปิดกลับมาแบบปกติ เชื่อว่าตัวเลขการเดินทางต้องเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดแน่ๆ นี่คือแนวคิดที่อยากจะให้ภาครัฐนำไปพิจารณา เพื่อประคับประคองให้ธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ ให้รอดและสามารถสร้างเงิน สร้างรายได้ให้กับคนไทยในอนาคตต่อไป.

ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เร่งสปีดSMEไทยด้วยนวัตกรรม

เอสเอ็มอีไทยถือเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ แต่ในขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่ง กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ

ผนึกพลังพัฒนากำลังคน

ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”

ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%

ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่

ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน

องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส

‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม