การเลือกตั้งที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2544 มาจนถึง 2562 พรรคไหนได้จำนวน ส.ส.มากเป็นที่ 1 เราก็ได้เห็นกันแล้วว่าเป็นพรรคที่เจ้าของพรรคคือ ทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่าจะลงเลือกตั้งในนามพรรคอะไรก็ตาม พอมาถึงปี 2566 พรรคก้าวไกลมาเป็นที่ 1 และพรรคเพื่อไทยก็ตามมาเป็นที่ 2 ด้วยจำนวน สส.ที่ห่างกันเพียงแค่ 10 คนเท่านั้น ดูจากการหาเสียง นโยบายที่พรรค 2 พรรคนี้ใช้ในการหาเสียงที่เน้นประชานิยมหลากหลายรูปแบบ ทั้ง 2 พรรคนี้คงจะยึดครองชัยชนะ ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลของประเทศไทยตลอดไป อาจจะรวมกัน หรืออาจจะสลับกันเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะฉากทัศน์ทางการเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เรามองไม่เห็นว่าพรรคที่เรียกขานกันว่าเป็นฝ่ายอนุรักษ์นั้น จะสามารถเอาชนะ 2 พรรคนี้ได้อย่างไร
หัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษ์ ไม่เคยคิด หรือไม่เคยได้บทเรียนจากผลการเลือกตั้งผู้แทนตั้งแต่ปี 2544 มาจนถึง 2556 กันบ้างเลย พวกท่านทั้งหลาย รู้ใช่ไหมคะว่าคนที่เป็น FC ของพรรคเพื่อไทย ยังไง เขาก็เลือกพรรคเพื่อไทย โดยไม่มีการพิจารณาพรรคอื่นๆ เลย และเมื่อมีพรรคก้าวไกลตั้งแต่ครั้งที่เป็นพรรคอนาคตใหม่ FC ของเขาก็กาเลือกพรรคอนาคตใหม่ พอมาเป็นพรรคก้าวไกล พวกเขาก็กาเลือกก้าวไกลไปตามกระแส โดยไม่สนใจที่จะพิจารณาพรรคอื่น
แต่ FC พรรคอนุรักษ์ มีทางเลือกมากมายหลายพรรค พวกเขาต้องพิจารณาว่าจะเลือกพรรคอะไรดี ระหว่างภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา และประชาธิปัตย์ ถ้าพรรคอนุรักษ์ยังแยกกันเป็นหลายพรรคเช่นนี้ ยังถือศักดิ์ศรีกันอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ไม่ยอมรวมกันเช่นนี้ เพราะหัวหน้าพรรคอยากเป็นนายกรัฐมนตรีกันทั้งนั้นแบบนี้ เลือกอีกกี่ครั้ง กลุ่มพรรคอนุรักษ์ก็จะต้องแพ้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลอย่างไม่ต้องสงสัย ผลที่ตามมาคือประเทศไทยจะมีรัฐบาลที่แกนนำเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคก้าวไกลเท่านั้น ในอนาคตอีกยาวนาน ฝ่ายอนุรักษ์ไม่มีวันได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ด้วยเหตุปัจจัยหลายประการที่เอื้อให้พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลสามารถได้คะแนนเสียงชนะเลือกตั้งทั้ง สส.เขตและ สส.บัญชีรายชื่อ
- ประการแรกพรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษ์ต่างก็ยึดมั่นในศักดิ์ศรี และอยากเป็นนายกรัฐมนตรีกันทั้งนั้น จึงไม่อยากรวมกับพรรคอื่น เพราะเมื่อรวมกันแล้ว ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี
- กกต. ทำงานหย่อนยาน กฎระเบียบไม่ชัดเจน ปล่อยให้พรรคการเมืองใช้นโยบายประชานิยม หาเสียง โดยไม่พิจารณาความเป็นไปได้ของสิ่งที่พรรคการเมืองใช้เป็นคำสัญญา พรรคการเมืองจึงแข่งกันใช้นโยบายประชานิยม ลด แลก แจกแถม ในการหาเสียง ในขณะเดียวกัน กกต. ก็ไม่รอบคอบในการตรวจคุณสมบัติผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ทำให้มีคนที่ไม่สมควรที่จะได้สมัครหลุดเข้ามาได้ และก็มีความล่าช้าในการพิจารณากรณีต่างๆที่มีการร้องเรียน
- ประชาชนส่วนหนึ่งเลือกพรรคการเมืองแบบคนเห็นแก่ได้ เลือกเพราะอยากได้ประโยชน์จากนโยบายประชานิยม โดยไม่สนใจว่าการที่ตนเองจะได้ประโยชน์จากนโยบายประชานิยมนั้น ประเทศชาติจะมีความเสียหายอย่างไร ในขณะเดียวกัน ก็ไม่เคยพิจารณาว่าสิ่งที่พรรคการเมืองสัญญาว่าจะให้นั้น เป็นการสัญญาเกินจริงหรือไป มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ทั้งในแง่ของงบประมาณ และทั้งในแง่ของกฎหมาย ที่สำคัญไม่เคยให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของนักการเมืองที่สัญญาว่าจะให้ว่ามีธรรมาภิบาลในการทำงานการเมืองหรือไม่
- เมื่อพรรคการเมืองหาเสียงแล้วทำไม่ได้ กกต. ก็เอาผิดไม่ได้ หรือไม่คิดจะเอาผิด อ้างว่าที่ผ่านมา ไม่ว่ารัฐบาลไหน ก็ไม่สามารถทำตามสัญญาได้ครบตามที่หาเสียงเอาไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้ พรรคการเมืองบางพรรคจึงใช้นโยบายประชานิยม ลด แลก แจก แถม กันสุดฤทธิ์ แล้วก็ได้ผล ประชาชนที่เห็นแก่ได้และคิดน้อย ก็จะเลือกพวกเขาเข้ามา ครั้งแล้วครั้งเล่า แบบคนที่ไม่เคยได้บทเรียนจากการถูกหลอกมาแล้วหลายครั้งหลายครา
- สุดท้าย เราก็จะมีรัฐบาลที่มีแกนนำเป้นพรรคที่เคยมีประวัติโกงบ้านโกงเมืองเป็นแสนๆล้าน แม้ศาลจะตัดสินให้ติดคุก ผู้นำของเขาก็ไม่ต้องติดคุก เป็นการโกงกระบวนการยุติธรรมโดยไม่มีใครทำอะไรเขาได้ หรือเราอาจจะได้รัฐบาลที่พรรคแกนนำคือพรรคที่มีนโยบายจ้องล้มล้างการปกครอง เป็นปรปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์ เราพอใจจะให้ประเทศไทยเป็นเช่นนี้หรือ
ขอถามพรรคการเมืองอนุกษ์ที่ไม่คิดจะรวมกันหน่อยนะ ขอถาม กกต. ที่ทำงานหย่อนยานจนเอาผิดใครไม่ได้ ปล่อยให้มีการหาเสียงที่หลอกเอาคะแนนเสียง ขอถามสื่อมวลชนที่เชียร์คนมีปัญหา ขอถามคนเลือกที่หวังประโยชน์ส่วนตน และหลงกระแสจนไม่ใช้ข้อมูลใดๆในการตัดสินใจลงคะแนน
ขอสลิ่มที่ไม่ใช่ FC ของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลว่าคิดจะใช้ social media ให้ข้อมูลกับฝ่ายต่างๆ ให้ตาสว่างและคิดเป็นบ้างไหมคะ หรือยังจะคงเป็นพลังเงียบกันต่อไป ปล่อยให้พรรคก้าวไกลยึดพื้นที่ของ Social Media ทุกช่องทางต่อไป
ถ้าหากพรรคอนุรักษ์ และสลิ่มที่เป็น FC ของพรรคอนุรักษ์ และไม่ยินดีกับรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยหรือพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ยังคงเป็นพลังเงียบ ไม่พูด ไม่ให้ข้อเท็จจริงกับประชาชน เพราะยอมแพ้แล้ว? ปลงแล้ว? เราก็จะต้องแสดงความยินดีกับพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลล่างหน้าได้เลยว่าพวกเขาจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไปอีกนานแสนนาน
เรื่องที่พูดมานี้ ไม่เกินจริงหรอกนะ ลองดูปัจจัยหลายๆ อย่างในตอนนี้ได้เลย ทั้งนักการเมืองบางคนที่ยังเล่นการเมืองแบบน้ำเน่า ไม่โปร่งใส เป็นเหตุให้ก้าวไกลเอาไปหาเสียงว่าประเทศไทยต้องเปลี่ยนได้อย่างน่าเห็นด้วย FC ของแต่ละพรรคที่ทำตัวเป็นนักกีฬาสี ทั้งส้ม ทั้งแดง ทั้งเหลือง ก็ยังคงทะเลาะกัน ด่ากัน สาวไส้กัน สื่อแต่ละสำนักที่เก็ยอุดมการณ์และจรรยาบรรณไว้ในลิ้นชัก ที่ให้แสงกับนักการเมืองที่มีปัญหาเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง Digital influencers หลายๆ page ที่ออกมา call out เพื่อครอบงำประชาชนให้ชื่นชมนักการเมืองบางคน เมื่อเป็นเช่นนี้ หลายคนคงคต้องแสดงความยินดีกับแดงและส้มที่อาจจะได้ร่วม หรือสลับกันครองบ้านครองเมือง ขณะเดียวกันก็ขอแสดงความเสียใจกับสลิ่มและชาวอนุรักษ์ที่พฤติกรรมของการไม่แสดงออกอะไรอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ คงเอาชนะส้มกับแดงได้ยาก บ้างก็ไม่คิดจะช่วยพูดช่วยสื่ออะไร บ้างก็ด่ากันเอง ทำให้ไม่อาจรวมพลังกันได้ ถ้าเป็นกันแบบนี้ จะหวังรักษาประเทศไทยให้ดำรงคงอยู่อย่างสง่างามในเวทีโลกได้อย่างไร จะรักษาอธิปไตยไว้ได้ไหม จะถวิลหาธรรมาภิบาลได้อย่างไร ความมั่นคงจะดำรงได้แค่ไหน จะคิดอ่านทำอะไรร่วมกันด้วยรักและสามัคคีได้ไหม บางเรื่องไม่คิดจะช่วยพาย ก็อย่าเอาเท้าราน้ำเลยนะคะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาเป็นชุด! 'ดร.เสรี' ฟาดคนโอหัง ความรู้ไม่มี ทักษะไม่มี ไร้ภาวะผู้นำ น่าสมเพชอย่างแท้จริง
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า เตือนก็แล้ว ตำหนิก็แล้ว ต่อว่าก็แล้ว เยาะเย้ยก็แล้ว ล้อเลียนก็แ
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม
จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!
ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ดร.เสรี ยกวาทะจัญไรแห่งปี 'เขาเว้นเกาะกูดให้เรา'
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ประโยควาทะอัปรีย์จัญไรแห่งปี "เขาเว้นเกาะกูดให้เรา" แสดงว่าเขาเมตตาเราสินะ เราต้องขอบคุณเขา สำนึกบุญคุณเขาใช่ไหม