ไม่ว่าประชาชนจะมีความเคลือบแคลงระแวงสงสัยอะไรกับการจัดการกับนักโทษเทวดาที่อยู่ในห้อง VVIP ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจเป็นเวลา 180 วัน และเมื่อครบ 180 ที่จะได้พักโทษนอกเรือนจำ คือได้กลับบ้าน ก็ไม่รู้ว่าได้รับการรักษาด้วยยาวิเศษอะไร จึงสามารถกลับบ้านได้ฉับพลันทันทีที่ครบ 180 วัน อาการวิกฤตที่บอกว่าอาจจะเสี่ยงตายได้ ถ้าหากต้องออกจากโรงพยาบาลตำรวจไปเข้าคุก หรือแม้แต่กลับไปนอนโรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ หมอก็เก่ง ยาก็ดีเลิศ คนไข้ก็ตอบสนองกับการรักษาได้แบบสุดยอดไร้เทียมทาน วันออกจากโรงพยาบาลมันช่างพอดีกับวันที่มีสิทธิ์ตามกฎหมายให้พักโทษนอกเรือนจำได้
แต่ไม่ว่าประชาชนจะเคลือบแคลงระแวงสงสัยอะไร มันก็ป่วยการที่จะถามหาคำอธิบายว่าทำไม น.ช.ได้ออกมาพักโทษนอกคุก เพราะยังไงคนที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย เขาก็มีคำอธิบาย แล้วมีข้อความว่า “เป็นไปตามกฎหมาย” ต่อให้คำอธิบายจะไม่น่าเชื่อถือแค่ไหน
พวกเขาก็จะมุ่งหน้ามุ่งตาที่จะพูดแบบไม่กลัวว่าคนที่ได้ฟังจะรู้สึกอย่างไรกับพวกเขา พวกเขาไม่เคยสนใจว่าใครจะเชื่อคำพูดของพวกเขาหรือไม่ เขามั่นใจว่าเขาทำตามระเบียบ หลายคนมีความรู้สึกว่าพวกเขาออกระเบียบเกี่ยวกับเรื่องการพักโทษนอกเรือนจำเหมือนการตั้งคำถามให้ตรงกับคำตอบ คือเป็นการออกระเบียบที่ทำให้คนบางคนได้ประโยชน์จากระเบียบที่ว่านี้ไปเต็มๆ เมื่อมีการออกระเบียบไว้เช่นนี้ พวกเขาจึงมั่นหน้ามั่นโหนกว่าทุกการกระทำมีคำอธิบาย
ประเทศไทยเราเวลานี้น่าเป็นห่วง เมื่อราชทัณฑ์ทำตัวเหนือศาลในการกำหนดการอยู่ในคุกของนักโทษเด็ดขาด หมอทำตัวเป็นราชทัณฑ์ในการขังนักโทษเด็ดขาด ทนายแผ่นดินทำหน้าที่เป็นหมอวินิจฉัยอาการคนไข้ว่าวิกฤต หัวหน้ารัฐบาลบอกไม่เกี่ยวเป็นเรื่องของราชทัณฑ์ รัฐมนตรีกำกับกระทรวงทำตัวเหมือนเป็นตรายางใบ้ ไม่พูด ไม่อธิบายอะไรทั้งนั้น ประชาชนจึงมองว่าพวกเขาบดขยี้กระบวนการยุติธรรมของไทยย่อยยับป่นปี้หมดแล้ว พวกเขาทำทุกอย่างเป็นขบวนการแบบไม่เห็นหัวประชาชน เพราะเขามั่นใจว่าไม่มีใครทำอะไรเขาได้ เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขามั่นใจว่าอำนาจเงิน อำนาจรัฐ คุ้มกบาลเขาได้ ที่หลายคนขู่ว่าเมื่อนักโทษเทวดาออกจากคุก จะมีข้าราชการและหมอบางคนต้องเข้าไปอยู่ในคุกแทน มันไม่น่าจะเป็นจริงได้
ตอนนี้ประชาชนจำนวนหนึ่งเครียด ท้อ จนจะถอดใจแล้ว เพราะไม่รู้จะทำอะไรเพื่อให้ประเทศไทยพ้นขบวนการโกงความยุติธรรมที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็ต้องหันมาพึ่งพรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคฝ่ายค้านให้ทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง ทุกวันนี้ประชาชนทำได้ก็แค่บ่นเหมือนการ “เห่า” อยู่นอกสภา ทำอะไรไม่ได้ แต่พรรคก้าวไกลมีเวทีอยู่ในสภา ดังนั้นประชาชนจำนวนมากต้องการให้ก้าวไกลทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างมืออาชีพในการจะค้นหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ประชาชนมีความเคลือบแคลงระแวงสงสัยอยู่ ช่วงที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลไม่ได้ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจังเลย ทำให้ประชาชนสงสัยว่าเป็นการทอดไมตรีหวังที่จะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือเปล่า หลายคนเริ่มสงสัยว่าการที่ผู้นำจิตวิญญาณของพรรคได้พบกับนักโทษเทวดาที่ฮ่องกงนั้น มีข้อตกลงอะไรกันหรือเปล่า และประชาชนยังเคยได้ยินผู้นำจิตวิญญาณบอกว่าพรรคเพื่อไทยนั้นเป็นมิตรกัน เพราะความเป็นมิตรกับพรรคเพื่อไทยอย่างที่ว่า พรรคก้าวไกลจะละเว้นการทำหน้าที่หรือ
เมื่อพรรคก้าวไกลมีสภาเป็นเวที และในสมัยรัฐบาลลุงตู่ พรรคก้าวไกลก็มีความสามารถในการอภิปรายไม่ไว้วางใจมากมายหลายเรื่อง จริงบ้างไม่จริงบ้าง วาทกรรมหรูๆ ฟังดูดีบ้าง แล้วเรื่องสำคัญขนาดที่กระบวนการยุติธรรมของไทยกำลังถูกย่ำยีแบบนี้ พรรคก้าวไกลจะไม่ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน จะไม่แสดงฝีมือเป็นฝ่ายค้านอาชีพบ้างหรือ ไม่คิดจะตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้ตอบคำถามเพื่อความกระจ่างหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับการจัดการกับนักโทษเทวดาตั้งแต่วันแรกที่ถูกนำตัวไปที่เรือนจำ และพรรคก้าวไกลก็เป็นประธานกรรมาธิการหลายคณะ มีคณะใดบ้างที่สามารถเรียกเจ้าที่กรมราชทัณฑ์และหมอทั้งโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลมาซักถามหาคำตอบเพื่อให้ประชาชนได้รู้ความจริงอย่างกระจ่างแจ้ง
- ทำไมจึงไม่มีการกล้อนผม จะอ้างว่าสูงวัย หรือป่วยได้หรือไม่ เพราะนักโทษคนอื่นที่สูงวัยและป่วยหลายคนก็มีการกล้อนผมให้เห็นอยู่
- ทำไมจึงไม่มีการใส่ชุดนักโทษเลย มีข้อยกเว้นใดที่เป็นเหตุผลทำให้นักโทษเทวดาคนนี้ไม่ต้องใส่ชุดนักโทษเลยแม้แต่วันเดียว
- มีข่าวว่าไม่มีการลงทะเบียนของการเป็นนักโทษเลย เรื่องนี้จริงหรือไม่ ถ้าไม่จริงมีเอกสารแสดงการลงทะเบียนและการพิมพ์นิ้วมือหรือไม่
- ในคืนวันแรกที่เข้าไปอยู่โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์แล้วเกิดอาการรุนแรงจนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ อาการเป็นอย่างไร หลักฐานการวินิจฉัยอาการที่ทำให้เกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ที่จะดูแลมีหรือไม่
- ขีดความสามารถของโรงพยาบาลตำรวจที่เหนือกว่าโรงพยาบาลราชทัณฑ์คืออะไร ขอให้บอกมาให้ชัดๆ ว่าทำไมต้องอยู่โรงพยาบาลตำรวจนานถึง 180 วัน กลับไปอยู่โรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ไม่ได้ หลักฐานของการวินิจฉัยอาการเมื่อครบ 30 วัน 60 วัน 120 วัน จนถึง 180 วันอาการเป็นเช่นไร รุนแรงขนาดไหน ถึงกลับไปโรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ไม่ได้
- ที่บอกว่ามีนักโทษคนอื่นที่ป่วย และต้องออกไปรักษาที่โรงพยาบาลนอกเรือนจำนั้น พวกเขาได้รับการดูแลเยี่ยง VVIP อย่างนักโทษเทวดาที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจหรือไม่
- ค่าใช้จ่ายในการดูแลนักโทษเทวดา ทั้งค่ารักษาพยาบาล และค่าเบี้ยเลี้ยงของเจ้าหน้าที่ผู้มาทำหน้าที่ในการควบคุมตัวนักโทษที่โรงพยาบาลตำรวจเป็นเงินเท่าใด ใครรับผิดชอบ
- เอกสารการตรวจครั้งสุดท้ายเมื่อครบ 180 วันก่อนที่จะได้ออกมาพักโทษนอกเรือนจำมีหรือไม่ ทำไมอาการหายฉับพลันเมื่อครบกำหนด 180 วัน
คำถามเหล่านี้ ประชาชนเพียรถามกันมาตลอด 180 วันที่นักโทษเทวดาอยู่ที่ห้อง VVIP ชั้น 14 แต่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้มีคำตอบให้ประชาชน บางครั้งมีคำอธิบายบ้าง แต่มันก็ไม่สิ้นสงสัย พวกเขาไม่สนใจการตั้งคำถามนอกสภา แต่สำหรับพรรคก้าวไกลที่เป็นฝ่ายค้าน มีสภาเป็นเวที ช่วยทำหน้าที่ให้เข้มแข็งสมศักดิ์ศรีของการเป็นฝ่ายค้านที่ทำงานอย่างมืออาชีพหน่อยเถอะ อย่ามัวแต่สาละวนเกี่ยวกับเรื่องมาตรา 112 อีกต่อไปเลย เพราะศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยแล้วว่า การยุ่งเกี่ยวกับมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลนั้นเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ เป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ชำรุดทรุดโทรม ดังนั้นหันมาตั้งกระทู้หาความจริงเรื่องการจัดการนักโทษเทวดาดีกว่านะ ทำเรื่องนี้มีคะแนนเพิ่ม ทำเรื่องมาตรา 112 คะแนนจะลดนะ...ขอบอก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาเป็นชุด! 'ดร.เสรี' ฟาดคนโอหัง ความรู้ไม่มี ทักษะไม่มี ไร้ภาวะผู้นำ น่าสมเพชอย่างแท้จริง
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า เตือนก็แล้ว ตำหนิก็แล้ว ต่อว่าก็แล้ว เยาะเย้ยก็แล้ว ล้อเลียนก็แ
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม
จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!
ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ดร.เสรี ยกวาทะจัญไรแห่งปี 'เขาเว้นเกาะกูดให้เรา'
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ประโยควาทะอัปรีย์จัญไรแห่งปี "เขาเว้นเกาะกูดให้เรา" แสดงว่าเขาเมตตาเราสินะ เราต้องขอบคุณเขา สำนึกบุญคุณเขาใช่ไหม