เห็นข่าวเรื่อง เจ้าชายวิลเลียม มกุฎราชกุมารอังกฤษ ได้ออกคำแถลงเรียกร้องให้มีการ หยุดยิง ในสงครามความขัดแย้งระหว่างพวกนักรบฮามาสแห่งปาเลสไตน์กับกองทัพอิสราเอล เมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมาแล้ว ต้องเรียกว่า...ทั้งปลาบปลื้ม ดื่มด่ำ ทั้งทึ่ง ทั้งประทับใจ เอามากๆ ชนิดอาจต้องทูลถวายขออนุญาตใช้คำพูดแบบ ลิเกศัพท์ หรือ ราชาศัพท์ ก็แล้วแต่ประมาณว่า พระลูกไม้ย่อมไม่ทรงพระหล่นไกลไปจากพระต้น (ลูกไม้ย่อมไม่หล่นไกลไปจากต้น) เอาเลยก็ว่าได้...
เพราะอย่างที่เคยหยิบเรื่องราวช่วงการสวรรคาลัยของพระราชินีอังกฤษ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 มาพูดถึง เอ่ยถึง ไว้ในพื้นที่นี้เมื่อช่วงราวๆ เดือนกันยายนปี พ.ศ.2565 นั่นแหละว่า ในช่วงนั้น...คอลัมนิสต์ฝ่ายกิจการต่างประเทศของหนังสือพิมพ์ The Financial Times ของอังกฤษ อย่างนาย Gideon Rachman เขาได้อรรถาธิบายถึงพระราชจริยาวัตรของพระราชินีอังกฤษพระองค์นี้ไว้อย่างลุ่มลึก ลึกซึ้ง เอามากๆ ด้วยข้อเขียน บทความเรื่อง Elizabeth 2 was Global Britain personified เพื่อสะท้อนให้เห็นถึง
ความ เข้าถึง-เข้าใจ ใน ธรรมะ ของพระราชินีพระองค์นี้ต่อการ เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป แห่งปวงสรรพสิ่งทั้งหลาย อันทำให้องค์พระประมุขของราชอาณาจักรที่เคยได้ชื่อว่า จักรวรรดิที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน กลับหันมาทรงแสดงความยินยอม พร้อมใจ ที่จะ ประนีประนอม กับความขัดแย้งต่างๆ ไม่ได้ทรงคิดจะ แก้แค้น-เอาคืน หรือ Reconciliation not Revanchism อันถือเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความสอดคล้องเหมาะสมระหว่างบทบาทของประเทศอังกฤษกับความเป็นไปของโลก หรือเป็น Global Britain ฉบับของจริง-ของแท้ อะไรประมาณนั้น...
ต่างไปจาก รัฐบาลอังกฤษ ไม่ว่ายุคนายกรัฐมนตรีหัวกระเซิง นาย บอริส จอห์นสัน เพื่อนซี้-เพื่อนสนิทของอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ของบ้านเรา หรือยุคนาย ฤาษี สุนัข (Risshi Sunak) ชาวอังกฤษเชื้อสายอินตะระเดีย ที่ออกจะหนักไปทาง สุนัขพูเดิล ของคุณพ่ออเมริกาอย่างเห็นได้ชัด ที่ไม่เพียงแต่พยายามยุแยง ตะแคงรั่ว ให้รัสเซียกับยูเครน เข่นฆ่ากันและกัน จนต้องล้มโต๊ะเจรจาสันติภาพไปอย่างน่าเสียดาย หรือการส่งเรือรบอังกฤษไปร่วมเข่นฆ่า ล้างผลาญชาวเยเมนร่วมกับคุณพ่ออเมริกา เพื่อช่วยปกป้องอิสราเอลให้สามารถ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวปาเลสไตน์ได้ถนัดมือยิ่งขึ้น จนทำให้บรรดาพลเรือนผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ล้มหายตายจากไปเป็นหมื่นๆ 2 หมื่น เกือบ 3 หมื่นรายไปแล้วในทุกวันนี้...
แต่ถึงแม้นจะอยู่ในสถานะ กษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ มกุฎราชกุมารอย่าง เจ้าชายวิลเลียม แห่งอังกฤษ ท่านกลับทรงเห็นว่า มีผู้คนถูกสังหารมากมายเกินไปแล้ว!!! อันถือเป็นท่าทีที่ผิดแผก แตกต่างไปจากรัฐบาล ทั้งนั้น ทั้งนี้...ก็คงไม่ได้เกี่ยวกับเรื่อง การเมือง ไม่ว่าภายในหรือภายนอก แต่ถือเป็นความคิด ความเห็น ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของมนุษยธรรม-เมตตาธรรม นั่นแหละเป็นสำคัญ อันนี้นี่เอง...ที่คอลัมนิสต์อย่างนาย Gideon Rachman เขาถือเป็น Global Britain ฉบับของจริง-ของแท้ หรือถือเป็นการ อยู่ร่วมโลกโดยสันติ โดยมี ธรรมะ เป็นพื้นฐาน อันสะท้อนความเข้าถึง-เข้าใจต่อความเป็นไปของปวงสรรพสิ่งทั้งหลายอย่างแท้จริง...
หรือพูดง่ายๆ ว่า...ความเป็น กษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ของอังกฤษนั้น ไม่ได้ทำให้สถานะขององค์ประมุขแห่งประเทศนี้ต้องถูกแยกห่างออกไปจาก พระผู้เป็นเจ้า อันเป็นที่เคารพ ศรัทธา ของบรรดาปวงศาสนิกชนทั้งหลาย ไม่ว่าสิ่งที่ว่านี้จะถูกอธิบายด้วย เหตุผล หรือ ความเชื่อ ไปลักษณะไหนก็ตามที แต่โดยรวมๆ แล้ว...ย่อมหนีไม่พ้นไปจากความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดี ความห่วงใยต่อผู้อื่น ฯลฯ อันเป็นแก่นสาระของทุกๆ ศาสนานั่นแหละ คำแถลงของมกุฎราชกุมารอังกฤษพระองค์นี้ จึงสะท้อนถึงอารมณ์-ความรู้สึกในลักษณะไม่ต่างไปจากพระราชชนนี หรือ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 นั่นเอง หรือสะท้อนให้เห็นถึงความ เข้าถึง-เข้าใจ ใน ธรรมะ อันเป็นพื้นฐานแห่งการอยู่ร่วมกันของสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกใบนี้...
แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ว่ารัฐบาลอังกฤษ รัฐบาลอเมริกา หรือรัฐบาลอิสราเอล ฯลฯ จะมี ปฏิกิริยา ใดๆ ต่อคำแถลงของเจ้าชายวิลเลียมก็ตามที การแสดงออกของมกุฎราชกุมารพระองค์นี้ ย่อมทำให้ความเป็น กษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ย่อมเป็นอะไรที่มีคุณค่า ราคา มิใช่น้อย ไม่ได้เป็นสิ่งคล้ายๆ กับ เจว็ด อย่างที่พวกเด็กๆ บางรายในบ้านเรา อยากให้อะไรต่อมิอะไรเป็นไปในรูปนั้น เพราะ กษัตริย์ กับ พระผู้เป็นเจ้า หรือ กษัตริย์ กับ ธรรมะ นั้น ย่อมเป็นสิ่งที่มิอาจแยกห่างออกจากกันได้โดยเด็ดขาด!!! สิ่งที่เรียกว่า ทศพิธราชธรรม จึงถูกนำมาใช้เป็นตัวกำกับผู้ซึ่งดำรงสถานะเป็นกษัตริย์ในบ้านเรามาในแต่ละยุค แต่ละสมัย ด้วยเหตุนี้...ผู้ที่ยังเคารพและศรัทธา ผู้ที่เข้าถึง-เข้าใจใน ธรรมะ จึงไม่ได้คิดจะปฏิเสธต่อสถานะแห่งความเป็นกษัตริย์ ไม่ว่าจะภายใต้หรือนอกเหนือไปจากรัฐธรรมนูญใดๆ ก็ตาม เพราะตราบใดที่ กษัตริย์กับพระผู้เป็นเจ้า หรือ กษัตริย์กับธรรมะ ยังดำรง คงอยู่ เคียงคู่กันไปโดยตลอด เมื่อนั้น...โอกาสที่โลกทั้งโลกจะดำเนินไปด้วยสันติสุข สันติภาพ และสันติธรรม ย่อมมีความเป็นไปได้ไม่มาก-ก็น้อย...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกรงว่าคำอวยพรปีใหม่จะไม่จริง
เวลาที่เรากล่าวคำอวยพรให้ใครๆ เราก็จะพูดแต่เรื่องดีๆ และหวังว่าพรของเราจะเป็นจริง ถ้าหากเราจะเอาเรื่องอายุ วรรณะ สุขะ พละ มาอวยพร โดยเขียนเป็นโคลงกระทู้ได้ดังนี้
แด่...ไพบูลย์ วงษ์เทศ
ถึงแม้จะช้าไปบ้าง...แต่ยังไงๆ ก็คงต้องเขียนถึง สำหรับการลา-ละ-สละไปจากโลกใบนี้ของคุณพี่ ไพบูลย์ วงษ์เทศ นักเขียน นักกลอนและนักหนังสือพิมพ์อาวุโส
กร่าง...เกรี้ยวกราด...ฤากลัว
ใครบางคนตำแหน่งก็ไม่มี สมาชิกก็ไม่ใช่ แต่แสดงบทบาทยิ่งใหญ่กว่าใครๆ เหมือนจงใจจะสร้างตำแหน่งใหม่ที่คนไทยต้องยอมรับ และดูเหมือนเขาจะประสบความสำเร็จเอาเสียด้วย
คำอวยพรปีใหม่ 2568
ใกล้ถึงช่วงปีหน้า-ฟ้าใหม่ยิ่งเข้าไปทุกที...การตระเตรียมคำอำนวย-อวยพรให้กับใครต่อใครไว้ในช่วงวาระโอกาสเช่นนี้ อาจถือเป็น หน้าที่ อย่างหนึ่ง
ก้าวสู่ปีใหม่ 2568
สัปดาห์สุดท้ายปลายเดือนธันวาคม 2567 อีกไม่กี่วันก็จะก้าวเข้าสู่ปี 2568 "สวัสดีปีใหม่" ปีมะเส็ง งูเล็ก
ลัคนากุมภ์กับเค้าโครงชีวิตปี 2568
สรุป-แม้ทุกข์-กังวลจะยังอ้อยอิ่งอยู่ตลอดปีแต่ต้นปีเร่งสร้างฐานชีวิต ครั้นพฤษภาคมไปแล้ว