รัฐปักธงเข็นเศรษฐกิจ65ฟื้น!

สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจปี 2565 (มาตรการของขวัญปีใหม่ 2565) ซึ่งประกอบด้วย 1.มาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ประชาชน ได้แก่ มาตรการช้อปดีมีคืน ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.12%, มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.5-0.6%

2.มาตรการลดภาระผู้ประกอบการและ/หรือประชาชน ได้แก่ มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560, มาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น เหลือ 0.20 บาทต่อลิตร

และมาตรการทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้ และ 3.มาตรการทางการเงินของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ผ่านโครงการสินเชื่อ การยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งคิดเป็นวงเงินสินเชื่อรวมกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท การลดอัตราดอกเบี้ยรวม 4.7 พันล้านบาท และการคืนเงิน-รางวัลพิเศษ รวม 1.33 พันล้านบาท เป็นต้น

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังประเมินว่า ทั้ง 3 มาตรการ ได้แก่ มาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ประชาชน มาตรการลดภาระผู้ประกอบการ และมาตรการทางการเงินนั้น จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ประมาณ 0.7% โดยจะเข้ามาช่วยขยับเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2565

ขณะเดียวกัน ยังคงคาดการณ์ว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 1% ส่วนในปี 2565 นั้น คาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากแรงเหวี่ยงของการใช้จ่ายที่ยังมีอยู่ ทำให้ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะขยายตัวได้ที่ระดับ 4% ซึ่งเป็นอัตราที่น่าพึงพอใจ

โดยทิศทางการบริหารเศรษฐกิจของกระทรวงการคลังเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2565 นั้น จะให้ความสำคัญกับการรักษาแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและการท่องเที่ยวภายในประเทศ ผ่านมาตรการสนับสนุนต่างๆ ของภาครัฐ โดยจะมีการประเมินและปรับปรุงรูปแบบมาตรการที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป

นอกจากนี้ จะขับเคลื่อนการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ โดยเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ การขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐ ทั้งในด้านการลงทุนพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ และโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งให้เป็นไปตามแผนงาน ซึ่งภาครัฐจะมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในปี 2565 กว่า 1.18 ล้านล้านบาท ผ่านโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ การส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ EEC และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) 10 จังหวัด เป็นต้น

ขณะเดียวกัน จะส่งเสริมเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัปให้เข้าถึงแหล่งทุน รวมถึงขับเคลื่อนเศรษฐกิจตาม BCG Model (Bio-Circular-Green Economic Model) โดยคลังจะสนับสนุนโครงการต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมพลังงานสะอาด เช่น มาตรการส่งเสริมให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) การออก Sustainability Bond เพื่อนำเม็ดเงินที่ระดมทุนได้ไปใช้สำหรับโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือโครงการเพื่อพัฒนาสังคม เป็นต้น การสนับสนุนการส่งออกและนำเข้าสินค้า การส่งเสริม Digital Government ในการให้บริการภาครัฐผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

ขณะที่ “วิจัยกรุงศรี” มองว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมนั้น จะช่วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงท้ายปีนี้ถึงต้นปีหน้า เพราะเศรษฐกิจยังได้แรงส่งจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและการตรึงดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำอย่างน้อยจนถึงสิ้นปีหน้า

อย่างไรก็ดี “วิจัยกรุงศรี” คาดการณ์เศรษฐกิจในปีหน้ามีแนวโน้มเติบโตที่ 3.7% จากที่ขยายตัว 1.2% ในปีนี้ แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญมาจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ได้แก่ ความคืบหน้าของการกระจายวัคซีนที่ช่วยหนุนให้ไทยและหลายๆ ประเทศสามารถเปิดประเทศได้กว้างขวางขึ้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงมาตรการจากภาครัฐที่จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ขณะที่ภาคท่องเที่ยวมีทิศทางปรับดีขึ้น แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงและประเด็นท้าทายที่อาจกดดันการฟื้นตัว อาทิ ความไม่แน่นอนของการระบาดของโควิด-19 จากการกลายพันธุ์และผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีน และความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ซึ่งอาจกระทบต่อความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ เป็นต้น.

ครองขวัญ รอดหมวน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความสำเร็จของแบรนด์กับการใช้Meta

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีประชากร 700 ล้านคน และมี GDP รวมประมาณ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เป็นตลาดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก

หวยเกษียณแก้ปัญหาแก่ก่อนรวย

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือหวยเกษียณ ของกองทุนการออมแห่งชาติ ซึ่งนี่ถือเป็นโครงการที่รัฐบาลพยายามส่งเสริมการออมของประชาชนในประเทศ

เจ็บแล้วจบ

หลังการบริหารงานของรัฐบาลเศรษฐาได้เข้ามาเดินหน้ามาตรการประชานิยมลด แลก แจก แถม จัดเต็ม ตามที่สัญญากันไว้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะนโยบายด้านพลังงาน ลดค่าไฟฟ้า

3แผนกรีนดันอุตฯไทยรักษ์โลก

เทรนด์รักษ์โลกยังมีมาอย่างต่อเนื่อง และตลอดปี 2567 ที่ผ่านมานี้หลายหน่วยงาน หลายบริษัทก็ยังไม่ทิ้งอุดมการณ์อันแรงกล้านี้ และยังแห่ประกาศแผนดำเนินงานเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมกันอย่างคึกคัก

ต้องเคร่งครัดและแก้ไขจริงจัง

สืบเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา รถไฟฟ้า “สายสีเหลือง-สายสีชมพู” ซึ่งเป็นระบบรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทย ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการและสาธารณชน

เร่ง“ปรับ”ก่อน(ถูก)“เปลี่ยน”

ยอดขายรถยนต์ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา หลายคนคงตกใจ เพราะหดตัวลงถึง 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีแนวโน้มว่าทั้งปีจะหดตัวลงอย่างรุนแรงที่สุดในรอบ 15 ปี