เมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้เห็นเพจ "พนักงานสอบสวนหญิง" โพสต์ข้อความที่น่าสนใจ ที่ผู้ใหญ่ ผู้บังคับบัญชา น่าจะรับรู้ รับฟัง เลยต้องขออนุญาตนำโพสต์ดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อ
เนื้อหาข้อความของโพสต์พนักงานสอบสวนหญิง ระบุ...
"รอเวลาเติมคนทำงาน!!! สบส.อบรมเสร็จยัง? เอามาใช้งานได้แล้วจ้า อต.อย่ามัวประเมินตำแหน่งตามคดีที่ไม่ตรงกับความจริง!!! เอาแต่เลขคดี ไม่ดูคดีมโนสาเร่ ไกล่เกลี่ย จราจร ปรับเป็นพินัย คดีศาลแขวง และคดีที่ไม่เป็นคดี ไม่เคยจัดสัมมนาถามความต้องการของพนักงานสอบสวนแล้วมโนจากตัวเลขคดี 5 กลุ่ม ไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหากำลังพลจ้า"
พร้อมติดแฮชแท็กแบบรัวๆ ทั้ง #เติมพนักงานสอบสวน #โรงพักโหลดงานอยู่จ้า #ผัดฟ้องฝากขังวนไป #พักเวรอยู่ตรงไหนหาไม่เจอ #อาชญากรรมเทคโนโลยีเอาคดีไปทำหน่อย #คดีอาญา5กลุ่ม
นอกจากนี้ในคอมเมนต์โพสต์ดังกล่าว แอดมินเพจพนักงานสอบสวน ยังมาอธิบายเพิ่มเติม...
"โรงพักทั่วประเทศ มี 1,484 สถานี พนักงานสอบสวน 7,000 คน คิดแบบหยาบ เฉลี่ยโรงพักละ 4.7 คน แอดว่ายังหนักไปเลย ความจริง พงส.โรงพัก มีน้อยกว่านั้น"
ครับ...เสียงจากพนักงานสอบสวน อีกหนึ่งเรื่อง อีกหนึ่งข้อความ ที่พยายามจะบอกถึงปัญหาการขาดแคลนพนักงานสอบสวน ที่ "ผู้บังคับบัญชา" ควรต้องรีบแก้ไข เป็นการด่วน
เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่พยายามเรียกร้องเรื่องปัญหาพนักงานสอบสวนมาตลอด ก็มีการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องพนักงานสอบสวนเอาไว้ในเวลาไล่เลี่ยกัน
พล.ต.อ.เอก ชื่นชม ร.ต.อ.หญิง ศิราณี บัวพันธ์ รอง สว.สอบสวน สภ.วชิรบารมี จว.พิจิตร ที่กล้าหาญออกมาแสดงความคิดเห็นพูดผ่านแอป TikTok ถึงปัญหาการทำงานของพนักงานสอบสวน โดยเฉพาะประเด็นที่ ผู้กองศิราณี บอก
“ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่คนพูดอาจจะตายก็ได้นะคะ เราไปเห็นคลิป คลิปหนึ่งที่ผู้บังคับบัญชาออกมาบอกว่า ไม่อยากให้การแจ้งความ เป็นการแจ้งความผ่านพวกอินฟลูเอนเซอร์ อยากให้มีการแจ้งผ่านผู้บังคับบัญชาโดยตรงเลยน่ะค่ะ ซึ่งเรามองว่าเป็นการแก้ปัญหาแบบไม่ตรงจุด การรับแจ้งความต้องแจ้งผ่านเจ้านายเรา มันไม่ใช่ประเด็นค่ะ ประเด็นคือ พนักงานสอบสวนขาดแคลนมาก ต่อให้รับแจ้งความมา 100 เรื่อง แล้วใครทำ คนทำคือพนักงานสอบสวนอยู่ดี ทุกโรงพักขาดแคลน"
ตัวเลขล่าสุด สำรวจพนักงานสอบสวนระดับ รองสารวัตร ตามคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย มกราคม 2567 น., ภ.1-9 ย้ายเข้า 57 นาย ย้ายออก 114 นาย พนักงานสอบสวนหายไป 57 นาย รวมทุก บช. ย้ายเข้ามาเป็นพนักงานสอบสวน 95 นาย และย้ายออกไปเข้าสายงานอื่น 164 นาย เท่ากับพนักงานสอบสวนหายไป 69 นาย
นายกฯ เศรษฐา ในฐานะประธาน ก.ตร. และ ผบ.ต่อศักดิ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาตำรวจ รับรู้ รับทราบปัญหาของพนักงานสอบสวนที่ส่งเสียงออกมาแล้วก็อย่านิ่ง อย่าเฉย
ผู้ที่อยู่ในแวดวงพนักงานสอบสวนบอกตรงกัน พนักงานสอบสวนอยู่ในสภาพสิ้นหวัง หมดหวังกับการรับราชการให้เจริญก้าวหน้า
ที่สำคัญจะส่งผลเสียหายไปถึงการปฏิบัติหน้าที่อำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระเนระนาด
หมดกัน! สิ่งที่ "ตชด." หรือ "ตำรวจตระเวนชายแดน" ทุ่มเทรักษาอธิปไตยไทย ร่วมกับ "ทหาร" และ "ทหารพราน" ถึงขนาด "ตชด." บางนาย ถูกยิง ถูกระเบิด บาดเจ็บสาหัส ถูกส่งตัวมานอนรักษาที่โรงพยาบาล เมื่ออาการดีขึ้นทุกคนก็ขอกลับไปทำหน้าที่ชายแดนตามเดิม
หรือติดคุกตอนแก่!
ไม่รู้มีอะไรในก่อไผ่มากกว่าหน่อไม้หรือเปล่า? การออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของ "ธวัชชัย ไทยเขียว" หนึ่งในคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
'ตชด.' หัวใจนักสู้
เห็นภาพ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน-พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชา "ตชด." ที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งมอบนโยบาย ทั้งร่วมวงนั่งพื้นกินข้าวกันฉันพี่ๆ น้องๆ
หรือทิ้งทวน?
ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา
ตำรวจไม่เลวไปหมด
ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต
'200 สีกากี' หนาว!
มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568


