'พระคุณ' ของ 'พระเทพฯ'

กรณี "ตะวัน" นึกถึง ถั่วงอก ครับ

จากเม็ดถั่วเขียวกลายเป็นถั่วงอกแค่ข้ามคืน

โตเร็ว รากยังไม่ทันโผล่ ยังไม่ทันได้ปลาบปลื้มความอวบอิ่มของตัวเอง ก็ลงไปอยู่ในกระเพาะของมนุษย์ หลังจากนั้นลงชักโครก เป็นอาจม มีแต่คนรังเกียจ

กระบวนการนี้ รวบเวลาเสร็จสรรพ ไม่เกิน ๒-๓ วัน

ครับ...พฤติกรรมของ "ตะวัน" และคณะทะลุวัง ถูกขุนมาจนได้ที่ เติมข้อมูลจนดูเหมือนว่าในสมองอัดแน่นไปด้วยอุดมการณ์ 

แต่เปล่าเลยครับ ในเนื้อสมองไม่มีอะไรเลย นอกจากชุดข้อมูลที่มีแต่ความเกลียดชัง และการทำลายล้าง

ไร้ราก ไร้ที่มา ไร้อดีต อีกหน่อยไร้ตัวตน

เด็กๆ กลุ่มนี้ชักจะเหมือนกองทัพซอมบี้มากเข้าไปทุกที

จากการเคลื่อนไหวแบบบ้าคลั่งตั้งแต่ยุครัฐบาลลุงตู่  เครือข่ายกลุ่มทะลุวัง ทะลุแก๊ส ทะลุถุง ฯลฯ ส่งผลมาถึงปัจจุบัน

ฉะนั้นพวกผู้ใหญ่หน้าบางที่อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังทั้งหลาย ที่ออกมาเรียกร้องอีกฝ่ายไม่ให้ใช้ความรุนแรง

บางคนไปไกลถึงขั้นจินตนาการว่า ฝั่งตรงข้ามวางแผนสร้างสถานการณ์ให้ เหตุการณ์ ๖ ตุลา ๑๙ ขวาพิฆาตซ้ายกลับมาอีกครั้ง 

เลอะเทอะครับ!

ช่วยกลับไปทบทวนดูก่อนว่า เด็กๆ ที่ถูกล้างสมองเหล่านี้ทำงานให้ใคร และใครได้ประโยชน์

เด็กคิดเองทำเองแค่ส่วนหนึ่งครับ  แต่เด็กไม่อาจเคลื่อนไหวลำพังอย่างยาวนานได้โดยไม่มีทุน

แม้จะใช้ทุนไม่มาก แต่คนต้องกิน ต้องอยู่ ต้องเที่ยว  ต้องเอนเตอร์เทน ยังไงก็ต้องมีการหยิบยื่นให้

เด็กหลายคนไม่ได้ทำงาน พ่อแม่ตัดหางปล่อยนรก จะเอาเงินมาจากไหนใช้

สุดท้ายวงจรชีวิตจบเร็วเหมือนถั่วงอก

หมดประโยชน์เมื่อไหร่ ไร้คนเหลียวแล

ก็ฝีมือไอ้พวกเพาะถั่วงอกนี่แหละ

ครั้งหนึ่งในอดีตคนพวกนี้เคยต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์มาก่อน ปัจจุบันแทรกซึมตามพรรคการเมืองต่างๆ บางคนอยู่ตามมหาวิทยาลัย หลายคนเผ่นไปต่างประเทศ

นี่คือเบื้องหลังของเบื้องหลังอีกที

แอบอยู่หลังพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า

อีกชั้นคือซุกอยู่หลังเด็กอย่าง "ตะวัน"

ครับ...ครั้งนี้ถือเป็นความผิดพลาด ผิดคิว ของ "ตะวัน"

พฤติกรรมแบบกองทัพซอมบี้ ได้ปลุกให้ฝ่ายที่ยึดรากเหง้า รักในความเป็นประเทศไทย ได้ลุกขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง ถามหาจิตสำนึกในฐานะคนไทย จนฝ่ายล้มล้างถอยกรูดตั้งตัวแทบไม่ติด

เพราะความเหิมเกริม ใช้โซเชียลโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์มานาน จนคิดว่า พลเมืองส่วนใหญ่คิดเหมือนตน

วันนี้ได้เห็นแล้วว่า นอกกะลาที่ครอบโซเชียลอยู่นั้น ลอยอยู่ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ มีผู้เห็นต่างมากมายมหาศาล

โซเชียลวันนี้จึงเต็มไปด้วย "สีม่วง"

เต็มไปด้วย พระคุณ ของ "พระเทพฯ"

ยกตัวอย่าง โพสต์ของ "วินทร์ เลียววาริณ" ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ มีใจความดังต่อไปนี้...

"...ตลอดเวลาเจ็ดสิบปีแห่งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงย่างพระบาทไปทุกตารางนิ้วทั่วประเทศ ทุกชนบท ทุกถิ่นทุรกันดาร ไม่มีจุดใดที่ทรงไปไม่ถึง ดูแลทุกข์สุขของราษฎร

บ่อยครั้งเงาร่างหนึ่งตามรอยเสด็จไปด้วย คือสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ หรือที่คนรุ่นผมเรียกติดปากว่า 'พระเทพฯ' เสด็จฯ ตามไปด้วยเสมอ แม้ว่าทรงต้องศึกษาอยู่ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

หลังจากสำเร็จการศึกษาอักษรศาสตร์ ทรงศึกษาสาขาวิชาจารึกภาษาตะวันออกจากมหาวิทยาลัยศิลปากร และสาขาวิชาภาษาบาลี–สันสกฤต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพิ่มเติม ก็ยังทรงเดินตามรอยพระบาทเสมอมา

ตลอดชีวิต ทรงทำงานเพื่อประโยชน์สุขของคนไทยเสมอมา

นั่นคือภาพที่คนไทยรุ่นผมจดจำได้

หนึ่งภาพชัดเจนกว่าหนึ่งล้านคำพูด

ผมโชคดีมีโอกาสเข้าเฝ้าพระเทพฯ หลายครั้ง แทบทุกครั้งคือการรับรางวัลวรรณกรรม ตั้งแต่รวมเรื่องสั้นรางวัลชมเชย เรื่องสั้นรางวัลดีเด่น ไปจนถึงตำแหน่งศิลปินแห่งชาติ ตลอดจนในงานหนังสือทุกปี จึงรับรู้แจ่มแจ้งว่าพระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยในเรื่องศิลปะ วรรณกรรมอย่างยิ่ง ทรงแต่งคำประพันธ์ต่างๆ ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง

นอกจากนี้ยังทรงศึกษาภาษาจีน วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์จีน เสด็จฯ ไปเมืองจีนนับครั้งไม่ถ้วน ทรงอักษรจีน เป็นบุคคลที่ชาวจีนรักอย่างยิ่ง

นี่ก็คือ soft power ของจริง ทรงเป็นทูตวัฒนธรรมจากไทย นำเสนอวัฒนธรรมของเราไปนานาชาติ นานหลายสิบปีก่อนคำนี้กลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง

ตลอดชีวิต ทรงแต่งานเพื่อแผ่นดิน ด้วยโครงการนับไม่ถ้วน ทั้งหมดเพื่อคนไทย ทั้งมวลเพื่อแผ่นดินไทย

ทรงเป็นหัวใจของคนทั้งชาติ

ดังนั้นคนไทยรุ่นใหม่ที่ไม่เคยเห็นภาพนั้น ไม่เคยอ่านประวัติศาสตร์ จึงอาจมิรับรู้ว่าพระราชกรณียกิจต่างๆ ของพระราชวงศ์ เป็นของจริง มิใช่ภาพลวงตา อาจไม่รู้ว่าเมืองไทยรอดมาถึงวันนี้ได้อย่างไร

สิ่งที่คนไทยรุ่นใหม่ควรกระทำคือ ศึกษาให้รู้ก่อนเชื่ออะไร และที่สำคัญที่สุดคือรู้จักกตัญญูรู้คุณ ต่อผู้ที่มีพระคุณต่อแผ่นดิน

เพราะปราศจากความรู้จริง เดินมุ่งไปข้างหน้าก็อาจเดินถอยหลัง ปราศจากความกตัญญูรู้คุณ อุดมคติสูงส่งแค่ไหนก็ไร้ค่า..."

เด็กอย่าง "ตะวัน" ถูกปิดสวิตช์ไม่ให้รับรู้ข้อมูลเหล่านี้

จึงไม่อาจสำนึกถึงความกตัญญูรู้คุณได้

ปลายทางจึงต้องกลับเข้าเรือนจำอีกครั้ง

มุกเก่า อดข้าวประท้วง เพื่อไปนอนโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ จนกลายเป็นช่องโหว่ได้ประกันตัวอัตโนมัตินั้น อาจไม่ได้ผลอีกแล้ว

ก็คงสิ้นสุดวงจรถั่วงอก ไว้เพียงแค่นี้

ติดคุกยาว เสียอนาคต

พวกที่อยู่เบื้องหลัง คงเตรียมเพาะถั่วงอกล็อตใหม่ ก็เห็นหน้าเห็นตาอยู่ว่ามีใครบ้าง

แต่ถั่วงอก ก็คือถั่วงอกครับ

ไม่มีทางหยั่งรากลึกดังต้นสักได้

เหมือนที่สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่ประเทศไทยมาร่วม ๘๐๐ ปีแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แบบนี้ต้องล้างคุกรอ

เสี่ยงคุกจริงๆ ครับ... วันนี้ไม่มีใครในรัฐบาลพูดเรื่องแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่นบาท ผ่านระบบบล็อกเชน มีความปลอดภัยสูงสุดกันแล้ว

'ยิ่งลักษณ์' จะกลับไง

ตามที่จั่วหัวไว้เลยครับ "ยิ่งลักษณ์" จะกลับไทยด้วยวิธีไหน นิตยสาร Nikkei Asia อ้างถึงคำให้สัมภาษณ์ของ "ทักษิณ ชินวัตร" ช่วงที่ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.

ผลาญเงินแผ่นดิน

รอวันฉิบหายครับ... มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบสิ้นคิดของรัฐบาล นึกอะไรไม่ออกก็แจกเงิน ผลาญงบประมาณแผ่นดินหมดไปกับความมักง่ายของนักการเมือง

'ป่าส้ม' ล้อมเมือง

นับเป็นมิติใหม่ทางการเมือง... ปกติเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่ใคร่จะเป็นที่สนใจของประชาชนในวงกว้างทั้งประเทศนัก

'ทักษิณ' จนมุม!

ฟังหูไว้หู "ทักษิณ" กำลังจะจนมุม! คดีผู้ป่วยเสี่ยงเสียชีวิตที่ห้องวีไอพี ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ กำลังมาถึงจุดสำคัญ

'ทอน-แม้ว' ไม่ต่าง

ใครโกหก... ระหว่าง "ทักษิณ" กับ "ธนาธร" "ก้าวไกล-เพื่อไทย" ไม่ได้ร่วมรัฐบาลกันเพราะเงื่อนไข ม.๑๑๒ อย่างที่ "ทักษิณ" พูดจริงหรือไม่