บันทึกหน้า 4

ต้องบันทึกไว้เลยว่า 14 กุมภพันธ์ 2567 อาจจะเป็น “วันวาเลนไทน์” แรกของเมืองไทยก็ว่าได้ ที่บรรดาสื่อออนไลน์และสื่อต่างๆ แทบจะ ไม่มีใครใส่ใจหรือสนใจในเรื่องการจดทะเบียนที่ที่เขตบางรัก หรือการไปไล่เฝ้าวัยรุ่นเปิดม่านรูด กันเลยก็ว่าได้ หนึ่งนั้นอาจเพราะตอนนี้กรุงเทพมหานครในยุคผู้ว่าฯ กทม.หนึ่งล้านสามแสนเสียงอุดมไปด้วยฝุ่นพิษ PM 2.5 ก็เป็นได้ เพราะรายงานว่าในวันที่ 14 ก.พ. มีฝุ่นในระดับสีส้มถึง 50 พื้นที่ และระดับสีแดงถึง 17 พื้นที่ ...๐

แต่เชื่อว่าประเด็นหลักเพราะ สังคมส่วนใหญ่หันมาดูและจับตากรณี “ป่วนขบวนเสด็จฯ” กันมากกว่า เพราะในสภาผู้แทนราษฎร “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ก็ได้เสนอญัตติด่วนเข้ามา เช่นเดียวกับ “พรรคประชาธิปัตย์” ก็เสนอญัตติในท่วงทำนองเดียวกัน

ในขณะที่นอกสภานั้นโดยเฉพาะที่ศาลอาญาที่ทุกวันนี้ต้องเติมต่อท้ายว่า “ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก” ให้แบบงงๆ ว่าเติมทำไมด้วย ก็มีการฝากขังผัดแรก “ทานตะวัน ตัวตุลานนท์” หรือตะวัน “ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร” หรือแฟรงค์ จากกรณีป่วนขบวนเสด็จฯ และ “นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์” หรือสายน้ำ ผู้ต้องหาคดีสนับสนุนพ่นสีกำแพงวัดพระแก้วหรือพระบรมมหาราชวังที่ถูกพ่วงจับมาด้วยกัน ...๐

โดยศาลก็ได้พิจารณา แล้วอนุญาตให้ฝากขังผัดแรกจำนวน 12 วัน ตั้งแต่วันนี้ 14-25 ก.พ.2567 ซึ่ง “กฤษฎางค์ นุตจรัส” ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนก็ยื่นประกัน ซึ่งศาลให้ ปล่อยตัวชั่วคราว “สายน้ำ” คนเดียว โดยวางหลักประกัน 35,000 บาท และมีเงื่อนไขว่าห้ามไปกระทำการที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือไปกระทำการซ้ำอีกในลักษณะที่ถูกกล่าวหา ส่วน “ตะวัน-แฟรงค์” ก็นอนคุกกันทันที ซึ่ง “ตะวัน” ก่อนเข้าคุกยังฝากข้อความมาประกาศว่า จะใช้ร่างกายและจิตวิญญาณที่เหลืออยู่สู้ต่อไป โดยจะอดอาหารและน้ำประท้วงเพื่อ 3 ข้อเรียกร้อง โดยจะไม่ยื่นประกันตัว ประกอบด้วย 1.ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 2.ต้องไม่มีใครติดคุกเพราะเห็นต่างอีก และ 3.ประเทศไทยไม่ควรได้เป็นคณะรัฐมนตรีสิทธิมนุษยชน ...๐

ในขณะที่สภานั้นก็มีการอภิปรายกันอย่างดุเดือดไม่ต่างกัน โดยเฉพาะกรณี “รังสิมันต์ โรม” แห่งค่ายก้าวไกลที่อภิปรายแล้วมีการโชว์รูป “ชาดา ไทยเศรษฐ์” รมช.มหาดไทย ที่ถ่ายรูปกับกลุ่ม ศปปส. ขึ้นมา โดย “ชาดา” ถึงกับด่าลั่นว่าเลวทราม รวมทั้งไล่ไปอยู่ประเทศอื่น ซึ่งต้องเรียกว่าอัดกันแบบลูกทุ่งๆ จริงๆ และก็เป็นจริงอย่างที่ “ชาดา” บอกนั่นแลว่า มีกลุ่มคิดล้มเจ้าล้มสถาบันอยู่ ไม่อย่างนั้น “ศาลรัฐธรรมนูญ” คงไม่มีการวินิจฉัยเรื่องมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล พร้อมตอกย้ำวลี “เซาะกร่อนบ่อนทำลาย” อยู่อย่างต่อเนื่องหรอก ...๐

ต้องยอมรับว่าการอภิปรายในสภาในญัตติเรื่องการถวายอารักขางวดนี้ หากไม่นับความร้อนแรงของ “ชาดา” แล้ว ต้องบอกว่าที่ดูมีราศีและได้เนื้อได้หนังคนแรกก็ต้องเป็น “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และ คนสุดท้ายคือ “ชัยธวัช ตุลาธน” สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเรียกได้ว่าสมราคาหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านอย่างมาก ส่วน “ชาดา” นั้น แม้จะบอกว่า “ลูกทุ่ง” แต่ก็ต้องบอกว่าได้เนื้อได้หนังอย่างมาก เพราะเจ้าตัวประกาศลั่นก่อนว่ามีข้อมูลและกำลังรวบรวมหลักฐานที่มีการให้เงินเด็ก และต่างชาติเข้ามาเกี่ยว โดยชี้ว่ามีผู้ช่วย สส.คนหนึ่งส่งเงินให้ขบวนการพวกนี้ ...๐

แต่สุดท้ายการอภิปรายก็จบลงด้วยส่งเนื้อหาญัตติและหลักฐานต่างๆ ไปยังรัฐบาล และคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ เรียกว่า ซื้อเวลากันต่อไป ไม่ต่างจากกรณี “ดิจิทัลวอลเล็ต” แต่ประการใด ซึ่งก็คงหวยออกเหมือนที่ขุนคลังเงาอย่าง “ศิริกัญญา ตันสกุล” สส.ก้าวไกลประเมินไว้นั่นแลว่า ในการประชุมบอร์ดดิจิทัลชุดใหญ่ในวันที่ 15 ก.พ. สุดท้ายไม่มีอะไรในกอไผ่นั้นแล ...๐

เรียกว่าเงินหมื่นที่ประชาชนจะได้รับหรือไม่ยังต้องลุ้นกันต่อไป ต่างจากกรณีนายใหญ่ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งตามที่เจ้าตัวได้เคยประกาศตั้งแต่อยู่ดูไบว่าจะกลับไทยอย่างเท่ๆ เพราะในวันที่ 18 ก.พ. “ทักษิณ” ก็จะได้รับการพักโทษ โดยกลับไปอาศัยอยู่ที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” โดยไม่ได้ติดคุกติดตะรางแม้แต่วันเดียว ที่สำคัญยังไม่ต้องใส่กำไลอีเอ็มติดตามอีกต่างหาก ในขณะที่เรื่องดังกล่าวก็เป็นไปตามฟอร์มอีกเช่นกัน ไม่เชื่อไปดูประวัติย้อนหลังได้ว่ามีเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับ “ทักษิณ” ทีไร คนชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะไม่อยู่ใน กทม. หรือในประเทศเป็นประจำ ซึ่งงวดนี้เจ้าตัวก็เลือกที่จะชีพจรลงเท้าไปที่ 3 จังหวัดอีสานตั้งแต่ 17-19 ก.พ. เรียกว่าเลี่ยงได้ทุกเม็ดจริงๆ ...๐

 

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

"นายหัวชวน" ออกโรงตวัดใบมีดโกนกรีดปาก "นายใหญ่" เจ้าของตำแหน่ง สทร. "คุณทักษิณบอกว่าเขาคือนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่ผมเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง ไม่ซื้อเสียง

บันทึกหน้า 4

ต้องยกนิ้วให้ “โทนี่ วู้ดซัม” เสียจริงๆ เพราะขยับปากแต่ละทีนอกจากสร้างความฮือฮาให้สังคมแล้ว ยัง สร้างภาระให้กับลูกสาวอย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีอีกด้วย โดยล่าสุดก็ในการไปหาเสียงให้ “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” ศรีภรรยา “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ที่จะลงชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.เชียงราย เมื่อวันที่ 5 ม.ค.นั่นแล ...๐

บันทึกหน้า 4

เมื่อวันอังคารมีการประชุม ครม.ครั้งแรกในปี 2568 หลังจากผ่านวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องมาแก้ตัวแทน พ่อนายกฯ นายทักษิณ ชินวัตร

บันทึกหน้า 4

” นึกว่าจะอยู่ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง อบจ.เชียงราย แต่ที่ไหนได้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาในฐานะเป็นเจ้าของรัฐบาล โชว์บทบาทกำหนดทิศทางการทำงานของประเทศ การปรับ ครม. แถมยังด่ากราดคนเห็นต่างในหลายประเด็น

บันทึกหน้า 4

เปิดบันทึกด้วยความตะลึงตึงตึงกับตำแหน่ง "ที่สุด" อีกครั้งของนายกฯ หญิงอายุน้อยที่สุด แพทองธาร ชินวัตร เพราะมีทรัพย์สินอยู่ถึง 13,846 ล้านบาท และตัวเลขที่ออกนี้ วิเคราะห์วิจารณ์กันยกใหญ่ว่า อาจจะเป็นนายกฯ ที่มั่งคั่งที่สุดในโลกนะเออ!! ...0

บันทึกหน้า 4

หลังกลับเข้าสู่โหมดการทำงาน-การใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติ ตามปฏิทินประจำปี 2568 กันแล้ว ตลอดปี 2568 ที่เป็นปีมะเส็ง นักวิเคราะห์การเมืองหลายสำนักก็ยังมองว่า การเมืองไทยปีหน้า ก็ยังมีหลายเรื่องให้น่าติดตาม เช่น การเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ก.พ.2568