Omicron ยกพลขึ้นบกไทยแล้ว!

คุณหมอมานพ พิทักษ์ภากร แห่งศิริราช ที่เกาะติดเรื่องนี้ชนิดนาทีต่อนาทีผ่านโซเชียลมีเดีย สรุปเตือนแบบสั้นๆ แต่ได้ใจความชัดเจนคือ

“...เน้นอีกทีว่า แม้การติดเชื้อ Omicron จะมี “โอกาสน้อยกว่า” ที่จะป่วยหนัก แต่คนติดเชื้อยังป่วยหนักได้และเสียชีวิตได้ไม่ต่างจากสายพันธุ์อื่น และส่วนใหญ่ยังไม่ได้วัคซีน/ฉีดไม่ครบ คนที่ฉีดแล้วก็ยังอาจเสียชีวิตได้ถ้าฉีดครบนานแล้ว ให้รีบ boost ครับ...”

ขณะที่ผมเขียนอยู่นี้ (บ่ายวันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม) ไทยเจอคลัสเตอร์ Omicron ที่อุดรธานีและหัวหินแล้ว ตัวเลขคนติดเชื้อสายพันธุ์นี้ถึงเมื่อเช้านี้คือ 205 คน

แต่ผมเชื่อว่าตัวเลขจริงสูงกว่านี้แน่นอน

ยิ่งเมื่อมันเริ่มแพร่ระบาดภายในประเทศ (local transmissions) แล้ว อัตราการแพร่ก็จะเร็วขึ้นอย่างแน่นอน

ที่ Omicron แพร่เร็วกว่า Delta มีเหตุผลหลายประการ และหนึ่งในนั้นคือความแตกต่างของสองสายพันธุ์

ผู้รู้บอกว่าเป็นเพราะ Omicron อยู่ทางเดินหายใจส่วนบนและไม่จู่โจมปอด

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ บอกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าทั่วโลกพบเชื้อ Omicron แล้วใน 106 ประเทศ

ในสหรัฐอเมริกาพบผู้ติดเชื้อเกือบครบทุกรัฐแล้ว

Omicron ยังมีอยู่ 3 สายพันธุ์ย่อย คือ BA1, BA2 และ BA3

ตอนนี้พบการระบาดมากที่สุด คือ BA1

จากการติดตามข้อมูลจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ดูเชื้อที่ทำปฏิกิริยากับเซลล์ของร่างกาย พบว่า  Omicron ก่อโรคและมีเชื้อชุกชุมที่บริเวณทางเดินหายใจส่วนบน

จึงเป็นสาเหตุทำให้แพร่เร็วกว่า Delta ถึง 70 เท่า

            แต่เมื่อดูลึกลงไปถึงเนื้อปอดกลับไม่ทำอันตรายเหมือนกับ Delta

ส่วนอัตราการติดเชื้อในครัวเรือน พบว่า Delta มีอัตราแพร่ 10.3% ขณะที่ Omicron พบ 15.8%

ที่จะต้องพิจารณาอย่างละเอียดคืออัตราการที่ต้องรับเข้ารักษาในโรงพยาบาล

นพ.ศุภกิจบอกว่า การศึกษาถึงวันนี้พบว่า Delta มีอัตราการนอนถึง 50% และนอนรักษามากกว่า 1 วัน ถึง 61%

ส่วน Omicron นอนโรงพยาบาล 20-25% และนอนรักษามากกว่า 1 วัน 40-45%

ส่วนอาการหนักในเชื้อ Omicron ทำให้เกิดอาการหนัก 21% เชื้ออื่นอาการหนัก 40%

ณ วันศุกร์ที่ผ่านมา จากการติดตามเชื้อโควิดในไทย ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่พบการติดเชื้อ Alpha และ Beta แล้ว

แสดงว่าทั้งสองสายพันธุ์นั้นถูกเบียดตกไปโดย Delta เรียบร้อยแล้ว

แต่พบ Delta 732 คน กับ Omicron 142 คน

บวกการพบคนติดเชื้อไปก่อนหน้านี้อีก 63 คน

ทำให้มียอดรวม 205 คน

และหากดูภาพรวมของประเทศพบการติดเชื้อ Omicron แล้ว 16%

แยกเป็นรายภาค กทม. 40% เพราะเป็นพื้นที่ส่งตัวอย่างเชื้อตรวจ และภูมิภาค 8%

นพ.ศุภกิจบอกด้วยว่า ขณะนี้พบการติดเชื้อ Omicron ในกลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 53% จากเดิมพบ 1 ใน 4 ของผู้เดินทาง

สำหรับผู้ติดเชื้อนี้ในไทย 205 คน พบเป็นคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 180 คน และเป็นคนไทยที่ไม่มีประวัติเดินทางมาจากต่างประเทศเลย 25 คน ซึ่งมีความสัมพันธ์กับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

โดยคลัสเตอร์ที่ติดเชื้อในประเทศที่ใหญ่ที่สุด ณ วันนั้นคือ คลัสเตอร์ 2 สามีภรรยา จ.กาฬสินธุ์ มีการติดเชื้อโอมิครอน 22 คน และยังพบว่ามีคลัสเตอร์แสวงบุญในพื้นที่ภาคใต้อีก

น่าเชื่อได้ว่าสัปดาห์นี้ (สัปดาห์สุดท้ายของปีนี้) เราจะเห็นการพุ่งขึ้นของการติดเชื้อ Omicron อย่างชัดเจน

ยิ่งเพราะมีกิจกรรมเฉลิมฉลองปีใหม่ในสัปดาห์นี้ด้วยก็ยิ่งจะต้องเฝ้ามองตัวเลขการติดเชื้อ, นอนโรงพยาบาลและวินิจฉัยอาการหนักเบากันอย่างละเอียดถี่ถ้วน

ประมาทไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว ปีหน้าเป็นปี “เสือดุ” เสียด้วยครับ.